8 จุดถ่ายรูปสวยที่เราหลงรักใน Cappadocia ประเทศตุรกี!

หลายๆคนคงเคยเห็นรูปบอลลูนสวยๆจากประเทศตุรกี วันนี้เราจะพามายังดินแดน ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในที่ที่ปล่อยบอลลูนมากที่สุดในโลก ดินแดนแห่งนี้มีชื่อว่า Cappadocia (คัปปาโดเกีย)

นอกจากสถานที่สำคัญๆที่เป็นมรดกโลกอย่าง พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Goreme, เมืองใต้ดิน Kaymakli, Uchisar Castle ซึ่งเป็นบ้านถ้ำสมัยก่อนแล้ว ในดินแดน Cappadocia เองยังมีจุดที่ถ่ายรูปขึ้นมากๆ อีกหลายจุด บางจุดเราไม่แนะนำให้มาถ่ายรูปอย่างเดียวนะ เราขอให้เผื่อเวลาดื่มดำกับบรรยากาศ ความมหัศจรรย์ของที่นี่ด้วย

อ่านรีวิวฉบับเต็มและการเดินทางใน Cappadocia คลิ๊กที่นี่ เลยค่ะ 🙂

มาดูกันดีกว่า ว่ามีที่ไหนบ้าง!

1. ระเบียงโรงแรม Sultan Cave Suites

จุดนี้กลายเป็นจุดคลาสสิคที่ทุกคนต้องมาเช็คอินกันไปแล้วสำหรับ Balcony ของโรงแรม Sultan Cave Suite ซึ่งทางโรงแรมแจ้งว่า ช่วงเช้าที่มีบอลลูน จะอนุญาตเฉพาะแขกที่พักที่นี่เท่านั้นค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่มาเดินเช็คกุญแจห้อง สำหรับช่วงเวลาอื่นๆ แขกนอกสามารถเข้ามาถ่ายรูปได้ค่ะ

การถ่ายรูปที่มีบอลลูน ต้องดูว่า ฤดูกาลนั้นพระอาทิตย์ขึ้นกี่โมง บอลลูนจะขึ้นพร้อมเวลาพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ

โรงแรมสามารถเดินขึ้นลงมาจากในเมืองได้ เหนื่อยหน่อย หากขับรถมาจะชันนิดนึง แต่ไม่มีปัญหาค่ะ เราขับขึ้นลงหลายรอบเลย มีที่จอดรถหน้าโรงแรมค่ะ

ราคาคืนละ ประมาณ 3,200 บาท

อ่านรีวิวโรงแรม Sultan Cave Suites คลิ๊กที่นี่
โรงแรมนี้ต้องรีบจองนิดนึงนะคะ เพราะค่อนข้างเต็มค่ะ ลิงค์สำหรับการจองโรงแรม คลิ๊กที่นี่
Maps : Sultan Cave Suites 

2. สระว่ายน้ำโรงแรม Local Cave House

เชื่อว่าหลายคนคงเห็นสระว่ายน้ำในโรงแรมถ้ำสุดฮิตแห่งนี้ ที่นี่ชื่อว่า Local Cave House ซึ่งมาถึงแล้วก็ต้องเซอร์ไพรส์ว่า ไม่ใช่แค่มุมนี้เท่านั้นที่สวย ภายในและด้านหน้าของโรงแรมยังมีจุดถ่ายรูปสวยๆอีกหลายจุด แถมยังเดินไปตรงย่านร้านค้าและร้านอาหารกลางเมือง Goreme ได้ง่ายอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม สระว่ายน้ำที่นี่ไม่ใช่สระน้ำอุ่นนะคะ เป็นอุณหภูมิปกติ โชคดีที่ช่วงที่เราไปแดดออก น้ำเลยไม่เย็นมาก แต่ถ้ามาช่วงเดือนอื่น น้ำอาจจะเย็นเกินไปค่ะ


หน้าโรงแรมมีที่จอดรถค่ะ เค้ามีกล้องวงจรปิดไว้ พอเราจอดรถจะขนกระเป๋าลง เค้าส่งพนักงานมาขนให้เลย เพราะมันต้องขึ้นบันไดไปอีกค่ะ

ราคาต่อคืนประมาณ 1,600 บาท

อ่านรีวิวโรงแรม Local Cave House คลิ๊กที่นี่
ลิงค์สำหรับการจองโรงแรม คลิ๊กที่นี่
Maps : Local Cave House 

3. Pasabagi

สำหรับจุดนี้ นอกจากจะได้รูปสวยๆแล้ว ยังต้องทึ่งกับทั้งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และความสามารถของมนุษย์ Pasabagi เคยเป็น Monastery (แปลตรงตัวว่าสำนักสงฆ์) มาก่อน และหุบเขาแถวนี้จึงถูกเรียกว่า Monk Valleys เป็นที่ที่พระนิกายออร์โธดอกซ์เคยมาอยู่

สำหรับค่าอูฐ มีค่าใช้จ่าย 100 ลีรา = 700 บาท ให้เวลาประมาณ 20 นาที เราสามารถขึ้นไปขี่ด้วยนะคะ เราหารกัน 3 คน ขึ้นไปขี่ทั้งสามคนเลยค่ะ ลุงเค้าช่วยจัดที่ทางให้ด้วยค่ะ

หมายเหตุ : อูฐที่นี่ไม่ยอมนั่ง เวลาจะขึ้นไปขี่ ลุงจะแบกเราขึ้นไปทั้งตัวเลยค่ะ สงสารลุง น่าจะหนักมาก T T

Maps : กด Fairy Chimneys ได้เลย ตรงลานด้านหน้าจะมี ทั้งที่ขายของ มีอูฐ มีม้า ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป หรือขี่ในช่วงเวลาสั้นๆค่ะ ส่วนมุมนี้ จะมีป้ายว่าไป Monastery ค่ะ

4. Galeri Ikman

ร้านขายพรมที่จัดร้านได้สวยมากกกกก เค้าชวนเรากินน้ำชาด้วยนะคะ แต่ก็จะบังคับให้ทิปค่าเข้าไปถ่ายรูปนิดนึง แล้วคนขายก็จะมายืนมุงดูกัน มีความกดดัน 5555 ในร้านมีมุมถ่ายรูปหลายมุมเลยค่ะ

ร้านนี้ให้ระวังนิดนึงนะคะ ถ้าพิมพ์ชื่อเข้าไปในกูเกิ้ลแมพมันจะไปผิดจุดค่ะ เราไปผิดมาแล้ว ให้ใส่เลข GPS ด้านล่างเลยนะคะ ร้านจะอยู่บนถนน iceridere sk. ซึ่งจะมีที่จอดรถด้านหน้า แล้วแถบนั้นจะเป็นร้านพรมเยอะๆ ร้านนี้จะอยู่ตรงหัวมุมถนน ที่เข้าไปในซอยชื่อ Haci Ismali Efendi ค่ะ หาง่ายค่ะ

เราให้ทิปไป 50 ลีรา = 350 บาท ต่อ 3 คนนะคะ

ปล. แถวๆนั้นร้านอาหารเยอะมาก แล้วก็มีร้านขายของชำที่ราคาโอเค เราไปกินร้านชื่อ Fat Boys มา โอเคมากๆเลย เนื้อกระทะร้อนราดชีส คือดีมาก เลยซอยเข้าไปมีร้านชื่อ Pumpkin เพื่อนเราที่เคยมาบอกว่าดี

Maps : 38.642273, 34.829410

5. Tipik Turkevi, Uchisar

กดแมพไม่เจอนะคะ ที่นี่เห็นครั้งแรกจากหนังสือภาพของพอล สมิธ แล้วไม่มีข้อมูลเลย หาในเน็ตไม่เจอ ก็เอาวะ ลุย สรุปหาง่ายมาก แต่สงบมาก

ที่นี่เป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่เราชอบที่สุดในโลกเลยค่ะ เห็นจุดที่เป็นรูๆใช่มั้ยคะ มันเป็นบ้านที่คนอยู่ได้จริงๆเลยนะคะ สำหรับบ้านนี้ก็เช่นกัน เค้าเอาระเบียงบ้านชั้นบนมาทำเป็นคาเฟ่ วิวหลักล้านมากกก น้ำชาแพงกว่าข้างนอกค่ะ ที่นี่คิดชาแก้วละ 5 ลีรา = 35 บาท (ที่อื่น 2 ลีรา=14 บาท) เรานั่งที่นี่ซักพักใหญ่เลยค่ะ มันเจ๋งตรงที่ได้เดินทะลุบ้านเค้าจริงๆเข้ามาด้วยค่ะ (เห็นบ้านเป็นปล่องๆรูๆงี้ มีสวนหลังบ้าน มีครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น อะไรแบบนี้ด้วยนะคะ)

เห็นรูข้างบนมั้ยคะ ตรงนั้นคือส่วนคาเฟ่ค่ะ
ถ้านั่งชั้นล่างจะเป็นอีกฟีลนึง

ตรงนี้ต้องพินแมพที่ Panorama Hediyelik Esya จอดรถแล้วนั้น แล้วเดินตามทางลงไป จะเจอ คาเฟ่ถ้ำชื่อ Peri Cafe Caveman ก่อน แต่ของเราเดินต่อไปอีกค่ะ จะมีโต๊ะอยู่หน้าบ้าน โผล่เข้าไปได้เลยค่ะ ถ้าดูแมพคร่าวๆ จะประมาณ GPS 38.632445, 34.804638 แถวๆนี้

6. ทัวร์ขี่ม้ารอบๆหุบเขา

จริงๆ คำว่า Cappadocia แปลว่า Land of the Beautiful Horses โดยม้าพันธุ์อนาโตเลี่ยนแม้มีขนาดเล็กกว่า แต่เค้าบอกว่า แข็งแรงที่สุดเลยล่ะค่ะ

การขี่ม้าตามจุดต่างๆก็ทำให้ได้รูปสวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ เราขี่ม้า 1 ชั่วโมง ราคา 20 ยูโร (เกือบ 800 บาท) เพราะน้องที่ไปด้วยไม่เคยขี่ม้ามาก่อนเลย เลยไม่กล้าขี่นานกว่านี้ แต่ไม่คิดเลยว่า ที่นี่เทรนม้ามาดีมากกกก ปล่อยให้ทุกคนขี่เองได้ บังคับง่าย (ส่วนตัวเราเคยขี่ชมหุบเขาที่อื่นมาบ้าง เช่น ทัสคานี ประเทศอิตาลี แล้วม้าค่อนข้างบังคับยากค่ะ เลยตัดสินใจขี่แค่ 1 ชั่วโมงเดียวเพื่อความชัวร์)

แต่เมื่อรู้อย่างงี้แล้ว อยากแนะนำจัดเต็มไป Sunset Horse Ride ช่วงพระอาทิตย์ตก หรือ Sunrise Horse Ride ช่วงบอลลูนขึ้น ซึ่งใช้เวลา 2 ชั่วโมง ราคา 40 ยูโร นะคะ

เราใช้บริการของ Lucky Horse Ranch ค่ะ

Maps : Lucky Horse Ranch

7. บนบอลลูน!

แน่นอนว่ามาถึง Cappadocia ก็ต้องขึ้นบอลลูนกันซักหน่อย อย่างที่เคยโพสท์ไป หากใครอยากถ่ายรูปสะดวกๆ ลองดูตะกร้าที่หารจำนวนคนของกลุ่มคุณลงตัวนะคะ เช่นเราไป 3 คน ก็เลือกตะกร้า 12 คน (มี 4 ล๊อค) เราจะได้ล๊อคส่วนตัว ถ้าไป 4 คน ก็เลือกตะกร้า 16 คน อะไรประมาณนั้น (ส่วนตัวชอบแบบคนน้อย เกรงใจชาวบ้าน 5555)

เราเลือกขึ้นของ Royal Balloon ราคา 150 ยูโร (ประมาณ 5700 บาท) ไฟลท์ 12-16 คนค่ะ
สำหรับบริษัทอื่นๆก็มีราคาประมาณ 130 ยูโร ด้วยนะคะ ลองเช็คตามความสะดวกดูค่ะ

เดี๋ยวไว้จะมาเขียนถึง เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการขึ้นบอลลูนที่นี่ สำหรับใครที่ห่วงเรื่องความปลอดภัยนะคะ

8. Goreme Sunset View

จุดสุดท้ายที่เราชอบ และจริงๆสามารถเอาเสื่อและของมานั่งปิคนิคได้ทั้งตอนเช้าที่มีบอลลูน และ ชมพระอาทิตย์ตก คือที่นี่ค่ะ Goreme Sunset View แนะนำให้อยู่จนในเมืองเปิดไฟเลยนะคะ วิวสวยมาก แต่ต้องเดินขึ้นนิดนึง ไม่อันตรายค่ะ คนเดินกันเป็นแถวเลยแต่ไม่แออัดนะคะ เพราะมันเป็นลานกว้างๆ ฟรีค่ะ เอารถขึ้นมาจอดได้

Maps : Goreme Sunset View


สำหรับ ทริปนี้ เราแบ่งเป็น 10 ตอนตามนี้เลยค่ะ แล้วก็ยังมีรีวิวแยกของร้านอาหารและโรงแรมให้ด้วยนะคะ 🙂

[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 1] : บทนำ แผนการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ สิ่งที่ควรรู้
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 2.1] : Cappadocia ดินแดนในฝันที่มีมากกว่าบ้านถ้ำและบอลลูน
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 2.2] : Cappadocia ขี่อูฐ วิวบอลลูน ขับรถเที่ยวในดินแดนเหนือจินตนาการ
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 3] : Antalya เมืองเก่าสุดชิลล์ ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 4] : Pamukkale ปราสาทปุยฝ้าย บ่อน้ำแร่ที่ธรรมชาติสร้างได้เหมือนฝัน
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 5] : Ephesus เมืองกรีกโบราณ ที่อยู่ของหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 6.1] :อิสตันบูล วันแรก ดื่มด่ำ สโลว์ไลฟ์ ในย่าน Sultanahmet
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 6.2] :จิบชาในวังริมทะเล วันที่สองใน Istanbul เมืองคัลเจอร์ที่เราหลงรัก
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนจบ] : เก็บตกวันสุดท้าย ในอิสตันบูล กับประสบการณ์ Turkish Bath ครั้งแรกในชีวิต
19 ชั่วโมงใน Almaty คาซัคสถาน ภูเขาหิมะ วิวหลักล้าน ทานเนื้อม้า ให้อาหารเหยี่ยว

รีวิวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องภายในทริปนี้
[รีวิว] สายการบิน Air Astana สายการบินแห่งชาติคาซัคสถานที่ดีเกินคาด
[รีวิว] Turkish Airlines สายการบินประจำชาติตุรกี กับเที่ยวบินภายในประเทศ
[รีวิว] Sultan Cave Suites โรงแรมถ้ำกับจุดถ่ายรูปอันเป็นเอกลักษณ์แห่ง Cappadocia
[รีวิว] Local Cave House โรงแรมที่มาพร้อมวิวสระว่ายน้ำกลางบ้านถ้ำแบบ Cappadocia
[รีวิว] Bosphorus Grill ร้านอาหารริมทะเลมาร์มาร่า ข้างพระราชวังสุดอลังการในอิสตันบูล
[รีวิว] Gazebo Lounge จิบชายามบ่าย ในรั้วพระราชวังริมทะเลวิวอลังการ เมืองอิสตันบูล
[รีวิว] Kybele Cafe คาเฟ่แสนน่ารัก ดื่มด่ำบารากุ ย่านเมืองเก่า อิสตันบูล

error: