นี่เป็นครั้งที่สองที่เราได้กลับมาทานร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งชื่อดังในซอยสวนพลูอย่างร้าน Saawaan (สวรรค์) ที่นำโดยฝีมือของ เชฟเอิร์ธ – ศริตวรรธน์ วันวิชิตกูร สำหรับฝั่งอาหาร และ เชฟขนมหวานที่เราชื่นชอบอย่างเชฟ เปเปอร์ – อริสรา จงพานิชกุล ซึ่งต้องบอกเลยว่าอยากให้ทุกคนมาลองกัน เพราะเมนูนี้ลงตัวมาก มีความกลมกล่อมของรสชาติ ความน่าสนใจและความคิดสร้างสรรค์ ตลอดมื้ออาหาร ร้าน Saawaan (สวรรค์) ตั้งอยู่ในซอยสวนพลู ย่านสาทร สำหรับ คอร์สดินเนอร์ของที่นี่ สนนราคาอยู่ที่คอร์สละ 2,790.-++ ซึ่งถือว่าเป็นร้านอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งที่ราคาดีมาก คอนเซปท์ยังคงเป็นการเลือกที่จะใช้กรรมวิธีการทำอาหารของครัวไทยให้ครบทั้งการต้ม ผัด แกง ทอด ยำ ย่าง หมัก เราชอบที่มีวัตถุดิบท้องถิ่น สมุนไพรที่ไม่ค่อยได้ทานหลายอย่าง ถ้าอ่านรีวิวที่เขียนรอบที่แล้ว เราจะบอกว่า อาหารของเชฟเอิร์ธ จะมีความชัดเจนของรสชาติ คาแรคเตอร์ชัด ซึ่งเราว่าเมนูใหม่นี้ มีความกลมกล่อม ลงตัว รวมถึงรายละเอียดอันพิถีพิถันมากขึ้น จึงอยากชวนทุกคนมาลองกันค่ะ เริ่มด้วย Amouse Bouche ก่อนเข้าสู่มื้ออาหารเสิร์ฟมาถึงห้าคำ และมีคอมบิเนชั่นรสชาติที่น่าสนใจไม่แพ้หน้าตา คำแรกเป็นเมอแรงค์พริก… [READ MORE…]
ย้อนไปในอดีต เมื่อสยามมีการค้าขายกับต่างชาติและบางกอกมีการสัญจรทางน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยานับเป็นประตูในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองสู่บางกอก ภาพของอาคารที่หันหน้าออกมาทางแม่น้ำยังคงเป็นเอกลักษ์สวยงามตั้งแต่โรงภาษีร้อยชักสาม กงสุลฝรั่งเศส รวมไปถึงโรงแรมหรูแห่งแรกของไทย อย่าง โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ซึ่งในวันนี้ เราอยากชวนทุกคนข้ามเรือมาชมความสวยงามนี้ จากเรือนไทยอายุกว่าร้อยปีบนฝั่งธนฯ พร้อมอาหารไทยแบบไฟน์ไดนิ่ง ที่ห้องอาหาร “บ้านพระยา” บ้านพระยา เป็นบ้านไม้อายุกว่าร้อยปี ที่ตั้งอยู่ในบริเวณฝั่งธนฯ ของโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ อยู่ติดกับดิโอเรียนเต็ล สปา ซึ่งแต่เดิมเป็นบ้านของพระยามไหสวรรย์ ผู้เป็นคหบดีคนดัง กับคุณหญิงเลื่อน ที่มีชื่อเสียงในการทำอาหารรับรองบุคคลสำคัญทั้งจากไทยและต่างประเทศที่บ้านแห่งนี้ — นั่นเป็นแรงบันดาลใจให้ เชฟป้อม พัชรา พิระภาค ตั้งใจจะนำเสนออาหารไทย โดยเฉพาะเมนูเก่าแก่ที่ไม่ค่อยได้เห็นในปัจจุบัน ในรูปแบบที่ร่วมสมัย ปลุกให้บ้านพระยากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ห้องอาหาร บ้านพระยา มีการเปลี่ยนเมนูทุกๆ ฤดูกาล โดยวันนี้ เราได้มาทานเมนูฤดูร้อนที่เสิร์ฟทั้ง 8 คอร์ส สนนราคาท่านละ 4,200.-++ ค่ะ เริ่มมื้ออาหารกันที่บริเวณระเบียงด้านหน้าบ้านพระยา เป็นบริเวณที่เหมาะกับการนั่งชมแม่น้ำสะท้อนแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า และวิวของกรุงเทพจากมุมที่เป็นเสมือนประตูเข้าสู่ราชอาณาจักรสยาม โดยจะเสิร์ฟน้ำกระชายและน้ำผึ้งลูกหม่อนออร์แกนิกจากฟาร์มของโรงแรม ให้ความเย็นสดชื่น พร้อมเปิดต่อมรับรสด้วย “ม้าฮ่อ”… [READ MORE…]
นับเป็นอีกมื้อที่เราประทับใจเป็นอันดับต้นๆ ของปีนี้ กับการกลับมาของเชฟ Mauro Colagreco ที่ห้องอาหาร Côte by Mauro Colagreco ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นเพียง 2 วัน โดยความพิเศษในครั้งนี้คือ การนำ Citron รวมถึงผลไม้ตระกูลซิตรัสหลากชนิดมาเป็นตัวละครหลักของมื้ออาหารในครั้งนี้ เชฟ Mauro Colagreco เป็นหนึ่งในเชฟชื่อดังอันดับท็อปของโลก ผู้อยู่เบื้องหลังร้านสามดาวมิชลินที่เคยได้รับการขนานนามว่าเป็นร้านที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Mirazur ณ เมือง Menton ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแนวคิดในการใช้ Citron มาจากความโดดเด่นของ Citron จากเมือง Menton ที่เป็นที่ชื่นชอบไปทั่วโลก ถึงขั้นที่เมืองนี้มีการเฉลิมฉลองประจำปีที่ชื่อว่า Fête du Citron เป็นการยกย่องผลไม้ตระกูลซิตรัสนานาชนิด ซึ่งเชฟปลูกเองในสวนกว่า 15 สายพันธุ์ นั่นหมายความว่า เมนูที่เราจะได้ทานวันนี้ เป็นเมนูที่รังสรรค์ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ โดยใช้ผลไม้ตระกูลซิตรัสนานาพันธุ์ จากฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น รวมถึงส้มโอจากนครปฐม มาเป็นส่วนประกอบของอาหารในค่ำคืนนี้ เต็มไปด้วยความหอม… [READ MORE…]
นับเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราตั้งหน้าตั้งตารอรับประทานในทุกๆ ฤดูร้อน กับเมนู ข้าวแช่ เพราะเป็นเมนูที่ให้ความสดชื่น คลายร้อน แถมยังมีรายละเอียดของเครื่องเคียงหลายอย่าง ที่ต้องบอกว่าถ้าจะทำเองก็ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เราเลยขอรวบรวม ลายแทง ข้าวแช่ ทั่วกรุงเทพฯ ที่ขนกันมาเสิร์ฟตลอดเดือนเมษา ปี 2567 นี้มาฝากค่ะ ตามบันทึกแล้ว ข้าวแช่นั้นเป็นอาหารมอญ แต่เนื่องจากเจ้าจอมมารดาซ่อนกลิ่น เจ้าจอมเชื้อสายมอญ หนึ่งในสนมเอกในรัชกาลที่ 4 ได้ทำถวาย แล้วกลายเป็นเมนูทรงโปรดของพระองค์ และกลายมาเป็นที่นิยมในวัง ทำให้ในปัจจุบัน เรามักจะกล่าวถึงข้าวแช่ว่าเป็นของชาววังนั่นเอง วิธีทานข้าวแช่โดยคร่าวๆ นั้น ควรจะแยกช้อนที่ตักข้าวและตักเครื่องเคียง โดยเน้นว่าไม่นำเครื่องเคียงลงไปใส่ในข้าวแช่น้ำลอยดอกไม้ค่ะ โดยแนะนำให้เริ่มจากลูกกะปิ และทานสลับกันไป ซึ่งนัทว่า ข้าวแช่นั้น เป็นเมนูของไทยที่เต็มไปด้วยภูมิปัญญาการคลายร้อน และ การสร้างสมดุลหยินหยางจริงๆ เลยทำให้เราชอบมากเลยค่ะ หน้าร้อน ปี 2567 / 2024 นี้ ทานข้าวแช่ที่ไหนดี มาชมกันเลย! The Mandarin Oriental Shop ข้าวแช่ตำรับโอเรียนเต็ลมาพร้อมเครื่องเคียงที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน 7 ชนิด ทั้งลูกกะปิ… [READ MORE…]
ใจกลางสาทรเป็นที่อยู่ของอีกหนึ่งตึกสูงใจกลางเมืองอย่างตึกเอมไพร์ (The Empire) ซึ่งตอนนี้กำลังจะกลายเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์ที่ห้ามพลาดของกรุงเทพฯ เมื่อมีนำร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ ที่น่าสนใจมากเปิดบนชั้น 55 ถึง ชั้น 58 ภายใต้โครงการ “EA Rooftop at The Empire” (เอ-ย่า) ซึ่งตั้งใจให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มบนรูฟทอปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยวันนี้ เราอยู่กันที่ชั้น 55 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ‘EA Gallery (เอ-ย่า แกลลอรี่) ที่มาในคอนเซ็ปต์ ‘Eat, Meet, Experience’ กับวิวที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ ทำให้ทุกร้านที่เราพาไปวันนี้ วิวสวยทั้งหมดเลยค่ะ 3 ร้าน 3 สไตล์ ที่เราจะพาไปชมกันวันนี้ ได้แก่ 手 qraft. ร้านอาหารจากทีม Peace Oriental Teahouse ที่จริงจังกับอาหารไม่แพ้เรื่องชา, Onggi อาหารเกาหลีที่เสิร์ฟแบบ ‘ฮันจองชิก‘ โดยเน้นภูมิปัญญาด้านการหมักดองของเกาหลี กับวัตถุดิบชั้นดีของไทย, Invitation Only… [READ MORE…]
นับว่าเป็นอีกหนึ่งร้านในกรุงเทพฯ ที่เป็นขวัญใจฟู้ดดี้หลายท่าน และเป็นร้านที่เราชอบมาตลอด กับ Côte by Mauro Colagreco ณ โรงแรม Capella Bangkok (คาเพลลา กรุงเทพฯ) ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนไล่ตั้งแต่ฝรั่งเศสไปจนถึงอิตาลี ซึ่งเสิร์ฟอาหารได้มีความคิดสร้างสรรค์ รสชาติดีมีความซับซ้อน มีความแม่นยำในการปรุง สมรางวัลมิชลินสตาร์หนึ่งดาว และ สมชื่อเชฟ Mauro Colagreco ที่เป็นหนึ่งในเชฟที่ได้รับรางวัลร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ปกติทางร้านจะเสิร์ฟมื้อเที่ยงสี่คอร์สในวันพุธถึงเสาร์ หรือประสบการณ์คอร์สเต็มที่ 7 หรือ 9 คอร์ส แต่ในช่วงมื้อเที่ยงของทุกวันอาทิตย์นั้น เชฟอยากจะนำเสนอวัฒนธรรมการทานอาหารกับครอบครัวในบรรยากาศอบอุ่น ซึ่งเป็นธรรมเนียมวันอาทิตย์ในแถบนั้น เชฟ Davide Garavaglia จึงเลือกที่จะทำเมนู Family Sunday Lunch หรือ “Dimanche Midi” เมนู 5 คอร์สในมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ ที่เสิร์ฟอาหารที่คุณทานแล้วจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากๆ มื้อนี้ ทานได้ทั้งครอบครัว มีราคาสำหรับคุณหนูอายุ 6 – 12 ปีด้วย โดยมื้อเที่ยง… [READ MORE…]
มีแพลนไปเที่ยวสิงคโปร์กันอยู่รึป่าวคะ? นอกจากที่เที่ยวเก๋ๆ สวนสนุก แลนด์มาร์กต่างๆ แล้ว อีกหนึ่งอย่างที่สนุกมากๆ ก็คือการมา คาเฟ่ และ บาร์ ฮอปปิ้ง ที่ สิงคโปร์ นี่แหล่ะค่ะ เพราะที่นี่ มีหลายย่าน มีการผสมผสานของวัฒนธรรมอยู่ ทำให้มี คาเฟ่ และ บาร์ ที่น่าสนใจเยอะมากเลย มีร้านกาแฟ และ บาร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย วันนี้ เลยขอรวบรวม 16 คาเฟ่ และ บาร์ หลากหลายสไตล์ ที่เราไปอัพเดทมาในปี 2024 ซึ่งเราเน้นว่า นอกจากร้านจะสวยแล้ว เรื่องอาหารและเครื่องดื่มต้องดีด้วย อิ่มอร่อย ถ่ายรูปสวย ปังแน่นอนค่า CAFE 1. The Glasshouse Singapore ร้านกาแฟชื่อดัง ที่ตอนนี้มีอยู่ 2 สาขาในสิงคโปร์ กับการตั้งใจเป็นร้านที่ให้ทุกคนรู้สึกสงบจากความวุ่นวายระหว่างวัน ภายในร้านจึงรู้สึกโปร่งสบายและเต็มไปด้วยสีเขียว เหมือนเป็นเรือนกระจกที่เพิ่มความสดชื่นจริงๆ ทางร้านเสิร์ฟ Specialty Coffee… [READ MORE…]
ในช่วงที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าซีนของบาร์ในสิงคโปร์มีความน่าสนใจและสนุกมากๆ วันนี้ เราพามาชมอีกหนึ่งบาร์ที่ไม่ควรพลาดในสิงคโปร์อย่าง Republic Bar ซึ่งหลังจากเปิดในปี 2021 บาร์แห่งนี้ก็ได้รับตำแหน่งที่ 12 ของบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย (Asia’s 50 Best Bars 2022) และยังคงเป็นหนึ่งในบาร์ที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในช่วงปีนี้ Republic Bar ตั้งอยู่ภายในโรงแรม The Ritz-Carlton Millenia สิงคโปร์ โรงแรมหรูชั้นนำบนถนน Raffles Avenue ซึ่งได้รีโนเวทส่วนของพื้นที่ชั้นสามเป็นบาร์หรูที่ให้ความรู้สึกอินทิเมท ที่นี่เสิร์ฟค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอิทธิพลด้านศิลปะ ภาพยนต์ แฟชั่น และ ดนตรีในยุค 1960s ซึ่งเป็นอีกยุคที่เวลาเรามองกลับไปก็จะเห็นความสดใหม่และพลวัตของงานดีไซน์ที่แตกออกไปในหลายรูปแบบซึ่งเป็นความสนุกของยุคนั้น สำหรับค็อกเทล ก็มีทั้งความซับซ้อน ความสมดุล ใช้เทคนิคหลากหลายตามมาตรฐานที่เหล่าเบสท์บาร์ทั่วโลกนิยมทำ โดยเราได้ลองค็อกเทลที่ชื่อ Mondrian ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพเขียนโมเดิร์นแอบสแตรคชื่อดัง ภาพของสีพื้นสามสีที่ถูกนำมาตีความเป็นเครื่องดื่มเบสจิน Rinomato ประกอบไปด้วย ซินนาม่อน แอปเปิ้ล ซิตรัส และ egg white ด้านบน อีกแก้วเป็น Georgette ชื่อของจิตกรชาวสิงคโปร์ที่เคยเพ้นท์รูปตระกร้าดอกไม้… [READ MORE…]
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้การมาเที่ยวสิงคโปร์ของเราสนุกมากๆ ทุกครั้ง คือการมาตามเก็บดาวมิชลินหรือ Michelin Star ที่นี่ค่ะ ใครจะเชื่อว่า ประเทศเกาะเล็กๆ แห่งนี้ จะเป็นที่อยู่ของร้านที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ถึง 49 ร้าน และ มีถึง 3 ร้าน ที่ได้รับสามดาวมิชลินค่ะ! แล้วแต่ละร้านก็ไม่ธรรมดาเลย ทั้งคอนเซปท์ วัตถุดิบ พรีเซนเทชั่น เราประทับใจมากเลย เราคิดว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้วงการอาหารของสิงคโปร์ครึกครื้นมาก ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางวัฒนธรรม การมาพำนักอาศัยของชาวต่างชาติ การเป็นศูนย์กลางการค้า การนำเข้าวัตถุดิบบางอย่างได้ง่าย ค่าครองชีพและฐานเงินเดือนที่ค่อนข้างสูง ทั้งหมดทำให้ทั้งเชฟและเหล่าบรรดานักชิม ได้ค้นหารสชาติและมื้ออาหารที่น่าตื่นเต้นได้อย่างง่ายดาย หลายร้านคุ้มค่าคุ้มราคามากๆ เมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่ได้ ยิ่งถ้าเทียบกับราคาของคอร์สไฟน์ไดนิ่งที่กรุงเทพฯ บางแห่งยิ่งรู้สึกว่าหลายร้านที่สิงคโปร์ราคาดีไปเลยค่ะ วันนี้ เราขอรวบรวมรีวิว 8 ร้านอาหารที่ได้ Michelin Star ในสิงคโปร์มาฝากกันค่ะ 1. Odette *** มาแรงฉุดไม่อยู่ หลังจากที่ได้รับอันดับหนึ่ง ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียจากลิสท์ Asia’s 50 Best Restaurants 2019 ตบท้ายด้วยดาวมิชลินเพิ่มจาก 2… [READ MORE…]
บนชั้น 70 ของโรงแรม Swissôtel The Stamford เป็นที่อยู่ของห้องอาหารวิวสวยชื่อดังของสิงคโปร์ เจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์สองดาว และติดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดเอเชีย เรากำลังพูดถึง JAAN by Kirk Westaway ห้องอาหารที่เราประทับใจทั้งคอนเซปท์ เทคนิคการปรุง ความคิดสร้างสรรค์ ไปจนถึงการบริการ บรรยากาศ และ วิวอ่าวมาริน่าสุดอลังการ ที่ห้องอาหาร JAAN by Kirk Westway นั้น รังสรรค์อาหารในแนว Modern British ตามบ้านเกิดของเชฟ Kirk Westaway ที่มาจากเมือง Devon ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ เชฟเลือกที่จะนำอาหารท้องถิ่น ซึ่งหลายเมนูเต็มไปด้วยความทรงจำในวัยเด็ก ความคอมฟอร์ตของอาหารบริติช เสิร์ฟมาด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจากหลายภูมิภาคในสหราชอาณาจักร โดยมีความโดดเด่นทั้งเรื่องความแม่นยำของเทคนิค เก็บรายละเอียดได้ดี พรีเซนเทชั่นสวยงาม และดึงความดีงามของวัตถุดิบได้อย่างเต็มที่ ต้องบอกว่า ทานมื้อนี้แล้ว เปลี่ยนความคิดของเราที่มีต่ออาหารบริติชไปเยอะทีเดียว วันนี้ เรามาทานมื้อเที่ยง โดยทางร้านจะเสิร์ฟมื้อเที่ยงมีให้เลือกแบบ 4 คอร์ส ราคาท่านละ 198SGD++ และ… [READ MORE…]