19 ชั่วโมงใน Almaty คาซัคสถาน ภูเขาหิมะ วิวหลักล้าน ทานเนื้อม้า ให้อาหารเหยี่ยว
Update** ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ทางสถานทูตคาซัคสถานประจำประเทศไทย ได้แจ้งฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยแล้วค่ะ ใครที่จะเดินทางไปคาซัคสถานเพื่อการท่องเที่ยว ไม่ต้องขอวีซ่าแล้วนะคะ อยู่ได้ 30 วันค่ะ**
เชื่อว่าหลายๆคนที่หาไฟลท์บินจากกรุงเทพไปรัสเซีย ตุรกี หรือ จอร์เจีย ก็คงจะได้เห็นออปชั่นจากสายการบิน Air Astana สายการบินแห่งชาติคาซัคสถานที่ราคาเป็นมิตร แต่ต้องแลกมาด้วยเวลาเดินทางที่บางครั้ง จะต้องไปแวะเปลี่ยนเครื่องนานๆ เราเองก็ซื้อตั๋วที่จะต้องมาแวะเปลี่ยนเครื่องที่ Almaty กันถึง 19 ชั่วโมง แต่สำหรับเรานั้น นี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆที่จะได้เข้าไปเที่ยวประเทศธรรมชาติสวยๆอย่างประเทศคาซัคสถาน
จริงๆ แล้วเมือง Almaty นี้มีดีมากกว่าจะมาแวะแค่ 19 ชั่วโมงนะคะ เหตุผลที่เราชอบ Almaty มากๆ เพราะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติในแคว้น Almaty เองสมบูรณ์และอลังการมาก ตั้งแต่ ภูเขาหิมะ ป่าสนสวยงาม ไปจนถึง แคนยอนที่ขับรถไปได้เพียง 3 ชั่วโมง ส่วนอีกฝั่งนึงเป็นทะเลทราย ไม่ก็ทุ่งหญ้ากว้างๆตั้งแคมป์เยิร์ทแบบมองโกลๆ ซึ่งหากใครที่มีเวลา เราแนะนำให้ทรานสิทที่นี่เต็มที่ 4-5 วันแล้วเที่ยวให้ทั่วไปเลยค่ะ
หรือใครตั้งใจอยากมาเที่ยวเมืองนี้โดยเฉพาะ เราก็แนะนำเช่นกันนะคะ เรารู้สึกว่า ที่นี่ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เยอะ ทำให้ยังไม่ค่อยมีขบวนการอะไรที่จะมาหลอกทำมาหากินกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลายไปว่า นักท่องเที่ยวในประเทศค่อนข้างเยอะ แล้วพวกคนขายก็ไปตามขายของใส่นักท่องเที่ยวชาวคาซัคมากกว่าพวกเราเสียอีก
ทำไมถึงเลือกมา Stopover ที่คาซัคสถาน?
ถ้าใครได้อ่านบันทึกทริปตุรกีของเรามาตั้งแต่ต้น จะทราบว่า เราเลือกสายการบินนี้ เพราะตั๋วไปกลับอิสตันบูลราคาถูกมาก ซึ่งบอกตรงๆว่า ราคาตั๋วที่ได้ + ค่าคนขับรถและไกด์ในคาซัคสถานหนึ่งวันแล้ว ยังถูกกว่าออปชั่นตั๋วเครื่องบินอันถัดไปเลย
เอาเป็นว่า เคสเรา คุ้มเหมือนเที่ยวฟรี แต่วิวหลักล้านมาก คุ้มมาก ซึ่งจริงๆแล้ว ทางสายการบินเค้าก็มีโปรโมชั่น เพิ่ม 1$ ได้ที่พัก+รถรับส่งสนามบิน 1 คืนด้วยนะคะ แทบจะเรียกว่าฟรีเลยทีเดียว (ลองเช็คในเว็ปสายการบินดูนะ)
เราเช็คอินกระเป๋าใบใหญ่ไปรับที่สุวรรณภูมิทีเดียว เลยไม่ได้มีสัมภาระติดตัวระหว่างออกมาเที่ยวแบบ Stopover ก็พกมาแค่ของจำเป็น และ ชุดสบายๆสำหรับอาบน้ำเปลี่ยนนอนบนเครื่องคืนนี้ค่ะ
ข้อเสียของแผนการเดินทางเราก็คือ เวลาที่ค่อนข้างโหดอยู่ ต้องนอนบนเครื่องแค่ไม่กี่ชั่วโมงจากตุรกีตอนกลางคืนมาถึงที่นี่ตอนเช้าแล้วเที่ยวเลย เวลาเที่ยวพอแบบสบายๆ เพราะกลับไทยอีกทีประมาณเที่ยงคืน
ข้อมูลทั่วไป
– คาซัคสถาน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ของโลก
– เมือง Almaty ที่เราไปเที่ยว เป็นเมืองใหญ่และเจริญที่สุด แต่ไม่ใช่เมืองหลวง เมืองหลวงชื่อ Astana ค่ะ
– เมือง Almaty อยู่ใกล้กับประเทศคีร์กิสสถาน และไม่ไกลจากประเทศจีน ภาพรวมคนที่นี่จะดูมีวัฒนธรรมฟีลแบบมองโกลเจงกิสข่านอะไรแบบนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเทศคาซัคสถานเคยอยู่ภายใต้การปกครองของโซเวียตมาก่อน ก็จะมีกลิ่นอายโซเวียตอยู่
– แต่จริงๆแล้ว คนคาซัคไม่ใช่คนจีนหรือรัสเซียนะคะ เป็นชนเผ่าที่ชื่อว่า Turkic ผสมๆกับมองโกล (อาจจะมาจากเทือกเขาอัลไตที่แท้จริง)
– ที่นี่ใช้ภาษารัสเซียและคาซัคเป็นภาษาราชการค่ะ อย่างไกด์เราเป็นคนคาซัคแท้ๆ แต่พูดคาซัคไม่ค่อยได้ พูดรัสเซียได้มากกว่า สำหรับภาษาคาซัคนั้น เวลาเขียนจะใช้ตัวเขียนหน้าตาเหมือนๆกับรัสเซีย แต่เวลาพูดออกเสียงออกมา จะใกล้เคียงกับกลุ่มภาษาเติร์กมากกว่าค่ะ
– คนพูดภาษาอังกฤษได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่คนท้องถิ่นที่เจอเค้าดูตื่นเต้นที่ได้เจอนักท่องเที่ยวหน้าตาแบบเรานะ พยายามคุยกับเรากันมากๆเลยค่ะ
– ที่นี่เป็นประเทศมุสลิมนะคะ
– ค่าเงินที่นี่ชื่อว่า Tenge ตอนที่เราไป อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 100 Tenge = 9 บาทค่ะ
– เรามากันช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นฤดูร้อนของที่นี่ อากาศยังเย็นสบายอยู่เลย มีหิมะตามยอดเขาแต่เล่นสกีไม่ได้ ช่วงฤดูหนาวที่นี่หนาวมากค่ะ แต่เหมาะกับการเล่นสกี
– ที่นี่เหมือนรัสเซียตรงที่ เราสามารถโบกรถบนถนน รถทุกคันพร้อมจะเป็นแท๊กซี่ให้เรา อารมณ์แบบอูเบอร์แต่ไม่ต้องมีแอพ
– เรื่องการเดินทางด้วยขนส่งมวลชน เราบอกตรงๆว่า เราแวะ 19 ชั่วโมง เราเช่ารถพร้อมคนขับ เป็นไกด์พาเที่ยวตั้งแต่ออกจากสนามบินจนมาส่งกลับสนามบิน เลยไม่ทราบรายละเอียดการเดินทางด้วยบัสหรือวิธีอื่นเลยนะคะ
– รีวิวสายการบิน Air Astana คลิ๊กที่นี่
ค่าใช้จ่าย
– เช่ารถพร้อมคนขับที่ทำหน้าที่ไกด์ได้ เต็มวัน มารับที่สนามบินตอนเช้า ส่งที่สนามบินตอนกลางคืน 230$ = 7130 บาท หารสามคนเหลือ 2376 บาท เราใช้ https://www.suvtours.kz/ ไกด์ชื่อคุณ Kirill เป็นสายแบ๊กแพ๊กเที่ยวมาเยอะเหมือนกัน ดูแลดี คุยถูกคอมากค่ะ
– อาหารแล้วแต่เราเลือก เริ่มตั้งแต่ร้อยสองร้อย ไปจนถึงเกือบพัน
– ค่ากระเช้าขึ้นไปยังยอดภูเขาที่สกีรีสอร์ท 3 สเตชั่น ไปกลับ 3500 Tenge ตกประมาณ 300 บาท ถูกมากกกก นี่คือขึ้นถึงความสูง 3200 m จากน้ำทะเลนะคะ รอบล่าสุดเราไปสวิสที่ความสูงประมาณนี้ก็จะมี Titlis ค่ากระเช้าประมาณ สามสี่พันบาท คือต่างกันลิบลับมาก ประทับใจ
แผนการเดินทาง
8.00 – 10.00 น. เที่ยวในตัวเมือง Almaty โบถส์ Russian Orthodox, ตลาด Green Market, Central Park
10.00 – 13.00 น. เที่ยว Medeu และ สกีรีสอร์ท Shymbulak
13.00 – 14.00 น. ทานอาหารเที่ยง
14.00 – 17.00 น. เที่ยว Big Almaty Lake
17.00 – 18.00 ชมโชว์เหยี่ยวและแร้ง
18.00 – 20.00 ทานอาหารเย็น และกลับสนามบิน
Morning in City Center
เราเริ่มวันนี้กันที่ในเมืองก่อน บรรยากาศภายในเมือง Almaty ธรรมชาติแล้วก็สดชื่นมากๆ การขับรถในเมืองจะเห็นวิวเป็นภูเขาหิมะล้อมรอบตลอดเวลา เรารู้สึกสบายตามากเลยค่ะ
เราเริ่มกันที่ Golden Warrior Monument ที่ Independence Square ค่ะ ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่ไกด์เริ่มเล่าประวัติความเป็นมาของชนเผ่าเร่ร่อนก่อนที่จะมาเป็นประเทศคาซัคสถาน และผ่านสู่ช่วงสำคัญต่างๆในประวัติศาสตร์
จากนั้นเราก็ไปกันที่ Ascension Cathedral เป็นโบถส์แบบ Russian Orthodox ซึ่งสร้างด้วยไม้ทั้งหลังไม่มีการใช้ตะปูเลย ว่ากันว่าเป็นอาคารโครงสร้างไม้ล้วนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ในรูปสวยมาก ของจริงก็ใหญ่อยู่
รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ เสียใจจจจจ ข้างนอกน่ารักมากเลย แต่ภายในก็สวยนะคะ เป็นการใช้ไม้ขัดกันทั้งหลังเลย
ในโบถส์ห้ามถ่ายภาพนะคะ ภาพนี้เรานำมาจาก www.visitalmaty.kz ค่ะ
บรรยากาศรอบๆค่ะ จากตรงนี้เราก็จะมาเดินเล่นที่ตลาดกันซักแป้ปนึง เราแลกเงินที่นี่ได้เลยนะคะ
Medeu and Shymbulak Ski Resort
Medeu เป็นลานไอซ์สเก็ตที่อยู่สูงที่สุดในโลกจากระดับน้ำทะเลค่ะ เป็นการมาเล่นไอซ์สเก็ตที่มีภูเขาหิมะรายล้อม แต่ลานไอซ์และลานสกีจะปิดช่วงฤดูร้อน ซึ่งก็คือช่วงที่เรามานี่เองค่ะ
อย่างไรก็ตาม เราได้นั่งกระเช้าขึ้นไปยัง Shymbulak Ski Resort ซึ่งกระเช้าที่นี่จะมี 3 สเตชั่น สเตชั่นแรกจะเป็นตัวรีสอร์ท ส่วนอีก 2 สเตชั่น ก็ตามความสูงของรูทสกี
วิวจากสเตชั่นที่ 1 มีบ้านพักตากอากาศมากมาย ดูชิวมากๆ ส่วนที่สถานีเอง ก็จะมีร้านอาหารต่างๆหลายร้านค่ะ เรามากันวันอาทิตย์ เป็นวันที่นักท่องเที่ยวชาวคาซัคมาเที่ยวกันค่อนข้างเยอะ เด็กๆเต็มเลย
ถัดจากนั้นเราจะขึ้นมากันอีกขั้นค่ะ ชั้นที่สองนี้ เข้าใจว่าให้คนลงไปเล่นสกี รูทที่สกีลงไปที่สถานีก่อนหน้านี้
จากนั้น ก็สามารถขึ้นไปได้ที่จุดบนสุด เป็นสถานีที่ 3 บนนี้ก็จะมีคาเฟ่มีคนมาชมวิวกันเยอะค่ะ ถ้าฤดูอื่นก็ไว้เล่นสกี
ร้านสกีด้านบน ที่นี่แม้จะเป็นฤดูร้อนแต่ยังต้องเดินบนหิมะอยู่นะคะ แนะนำให้ใส่รองเท้าบู้ทมาก็จะดีค่ะ
Alasha Restaurant
เราบอกไกด์ว่าอยากลองทานเนื้อม้า ซึ่งเป็นอาหารปกติของที่นี่ แต่ก็ค่อนข้างมีราคาและต้องทานในร้านอาหารดีๆ ไกด์จึงเลือกพามาร้านนี้ที่ชื่อ Alasha ซึ่งเป็นร้านที่ตกแต่งสวยมาก และที่สำคัญ อาหารอร่อยหลายอย่าง ถูกปากเรามากๆ เป็นรสชาติแบบคล้ายๆ อาหารจีนทางเหนือที่กลมกล่อม ทานง่าย
ร้านตกแต่งสวยมากเลยค่ะ มีมุมถ่ายรูปสวยๆเยอะเลย
จานแรก จานนี้ถึงขั้นเอากลับมาลองทำที่บ้าน เป็นมะเขือม่วงห่อชีสกับมะเขือเทศทอด อร่อยยยย แบบดีเลยค่ะ
จานนี้เป็นเหมือนแป้งคล้ายๆโรตี ไส้ไก่กับชีส อร่อยมากกกก ทานง่ายมาก มีสามชิ้น มากันสามคน คือไม่พอค่ะ ต้องเบิ้ลนะคะ
จานนี้ก็ประมาณไก่ผัดซีอิ๊ว ง่ายๆ ถูกปาก
มาแล้วค่ะ ไฮไลท์ของเรา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อม้า สรุปว่า มันก็เหมือนเนื้อ แต่มันลีนและไม่เหนียว คือมีรสเนื้อที่อูมามิดีค่ะ ไม่มีกลิ่นสาบเหมือนแกะหรือแพะนะคะ เราว่ามันใกล้เคียงกับวัวมากกว่า แต่ไม่เหนียวเลย แบบกัดขาดเลย น้ำซุปที่นี่ทำอร่อย เลยตอบไม่ได้ว่ามันอร่อยเพราะม้าหรือเพราะเบสน้ำซุปของที่นี่ แต่โดยรวมเราทานได้เรื่อยๆเลยค่ะจานนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดี
Big Almaty Lake
ที่นี่เป็นที่ที่ทำให้เราตัดสินใจมา Almaty ค่ะ ภาพทะเลสาบสีสวยล้อมรอบด้วยภูเขาหิมะ ดูเหมือนวิวในแคนาดาหรือนิวซีแลนด์ แต่พ่วงมาในทริปได้ เราว่ามันคุ้มค่ามากๆเลย
จริงๆ ที่นี่อยู่ห่างจากสนามบินแค่ 45 นาทีเองนะ ขึ้นมาได้ด้วยรถยนต์เลย ถ้าใครชอบ trek ก็ลองหารูท trek แถวนี้กันดู เห็นนักท่องเที่ยวท้องถิ่นมาปิ๊กนิคระหว่างทางเยอะมากเลยค่ะ
ทะเลสาบนี้ไม่อนุญาตให้ลงไปภายเรือ หรือ ตกปลา หรือ เล่นน้ำ นะคะ ที่นี่เป็นแหล่งน้ำดื่มของเมือง แล้วก็ที่มีสีสวยๆแบบนี้ เพราะว่า เป็นหิมะที่ละลายลงมา โดยในแต่ละฤดู สีของน้ำจะไม่เหมือนกันค่ะ
น่าเสียดายมากที่เรามาตอนฝนใกล้ตก ทำให้ฟ้าไม่สวยแบบที่คิดเลย ครื้มฟ้าครื้มฝนมาก
Falcon Show
เนื่องจากชาวมองโกลเคยฝึกเหยี่ยวและนกอินทรีย์ (Falcon and Eagle) ให้ล่าสัตว์เพื่อพวกเค้า ที่นี่จึงเป็นการโชว์เหยี่ยวที่เค้าฝึกกันมาตั้งแต่สมัยก่อนค่ะ
ตอนแรกเราไม่คิดว่า เค้าจะโชว์กันในพื้นที่โล่งนะคะ แต่นี่คือ ลงเขามาจากทะเลสาบนิดเดียว ก็ถึงจุดที่โชว์ ซึ่งก็โชว์กันแบบกลางแจ้ง กลางเขากันเลยค่ะ ไม่มีกรง ไม่มีตาข่ายอะไรทั้งนั้น จริงๆ นกจะบินไปไหนก็ได้ บินกันไกลเหมือนกันค่ะ
เหยี่ยวและนกอินทรีย์ขึ้นชื่อในการล่าเหยื่ออยู่แล้ว เราอาจจะเคยเห็นกันในสารคดี แต่บอกเลยว่า ดูของจริง ดูไม่ทันค่ะ มันเร็วมาก เร็วเกินไป ตอนที่โยนเนื้อให้แล้วนกมาโฉบไป คือพริบตาเดียวเท่านั้น แถมเวลากางปีกยังสง่างามมากๆ
เปิดตัวกันมาแบบอลังการมากค่ะ
ส่วนใหญ่ตอนที่อธิบายเค้าจะปิดตานกไว้ค่ะ แต่พอโชว์ให้อาหาร หรือ แม้แต่การล่าหมาป่า เพื่อนำมาทำขนเฟอร์ เค้าก็จะเปิดตาค่ะ
เค้าบอกว่า เวลาส่งนกไปล่ากระต่ายหรือหมาป่ามาทำเฟอร์ นกจะเลือกที่จะจิกเข้าไปในตาให้ตาบอดก่อน ก่อนที่จะหยิบเหยื่อขึ้นมา
เค้าลองสาธิต ลากหมาป่าแบบเร็วๆดู นกก็จะมาโฉบแบบเร็วมากๆค่ะ
แล้วเค้าก็ยังให้เราลองไปให้อาหารเหยี่ยว ซึ่งเรากลัวมากกกกก คืออิเนื้อไก่ที่เค้าให้เราให้อ่ะ มันสั้นมาก แล้วมันก็เป็นเนื้อแบบเหี่ยวลงมาติดกับนิ้วเราเลย เรากลัวนิ้วขาดมาก 5555 ซึ่งอิเหยี่ยวก็คือเร็วมาก กินไปตอนไหนไม่รู้ นี่ยังเกร็งมืออยู่เลย
นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ใหม่เหมือนกันนะคะ ที่ได้เห็นใกล้ๆแบบนี้
Dinner
ตอนแรกเราจะทานดินเนอร์กันในเมือง แต่ฝนเริ่มตกหนักขึ้น เลยกลัวรถติดกัน แล้วมาทานที่สนามบินแทนค่ะ ลองสเต๊กเนื้อม้าเหมือนเดิม ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า อร่อย ไม่เหนียว มีความใกล้เคียงกับเนื้อวัวแต่ลีนกว่า
พอทานเสร็จ แล้วก็ผ่านตม.อีกครั้ง แล้วก็ไปรอขึ้นเครื่องค่ะ สนามบิน Almaty เป็นสนามบินเล็กๆนะคะ ไม่มีร้านค้าอะไรซักเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีอะไรทำที่สนามบินค่ะ
สุดท้ายนี้ อย่างที่บอกข้างต้นว่า หากมีเวลา ให้ทำตั๋ว Stopover ค้างซักคืนนึงนะคะ เพราะที่ Almaty Region ประเทศคาซัคสถานนั้นยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติ ที่สามารถขับรถไปถึงได้อีกหลายแห่ง อย่าง Charyn Canyon ด้านล่าง หรือจะเป็นทะเลทราย ซึ่งไกด์เราบอกว่า มันเป็น singing dunes นะคะ เหมือนเวลาเราไปอยู่บนเนินทรายแล้วเราจะได้ยินเสียงผิวปากเป็นดนตรี ที่เกิดมาจากธรรมชาติของทรายค่ะ น่าจะสงบแล้วก็ชิวมากๆ
ที่สำคัญ คนที่นี่น่ารัก อากาศดี อาหารอร่อย เราว่าเราคงจะกลับมาเที่ยวกลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วย’สถาน’อีกเร็วๆนี้ค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่การตัดสินใจของหลายๆท่านนะคะ
– รายละเอียดวิธีขอวีซ่า คลิ๊กที่นี่
– รีวิวสายการบิน Air Astana คลิ๊กที่นี่
หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า
รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของทริปตุรกี ซึ่งสามารถตามอ่านได้ที่นี่
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 1] : บทนำ แผนการเดินทาง ค่าใช้จ่าย และ สิ่งที่ควรรู้
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 2.1] : Cappadocia ดินแดนในฝันที่มีมากกว่าบ้านถ้ำและบอลลูน
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 2.2] : Cappadocia ขี่อูฐ วิวบอลลูน ขับรถเที่ยวในดินแดนเหนือจินตนาการ
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 3] : Antalya เมืองเก่าสุดชิลล์ ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 4] : Pamukkale ปราสาทปุยฝ้าย บ่อน้ำแร่ที่ธรรมชาติสร้างได้เหมือนฝัน
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 5] : Ephesus เมืองกรีกโบราณ ที่อยู่ของหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 6.1] :อิสตันบูล วันแรก ดื่มด่ำ สโลว์ไลฟ์ ในย่าน Sultanahmet
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนที่ 6.2] :จิบชาในวังริมทะเล วันที่สองใน Istanbul เมืองคัลเจอร์ที่เราหลงรัก
[เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง ตอนจบ] : เก็บตกวันสุดท้าย ในอิสตันบูล กับประสบการณ์ Turkish Bath ครั้งแรกในชีวิต
19 ชั่วโมงใน Almaty คาซัคสถาน ภูเขาหิมะ วิวหลักล้าน ทานเนื้อม้า ให้อาหารเหยี่ยว
รีวิวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องภายในทริปนี้
[รีวิว] สายการบิน Air Astana สายการบินแห่งชาติคาซัคสถานที่ดีเกินคาด
[รีวิว] Turkish Airlines สายการบินประจำชาติตุรกี กับเที่ยวบินภายในประเทศ
[รีวิว] Sultan Cave Suites โรงแรมถ้ำกับจุดถ่ายรูปอันเป็นเอกลักษณ์แห่ง Cappadocia
[รีวิว] Local Cave House โรงแรมที่มาพร้อมวิวสระว่ายน้ำกลางบ้านถ้ำแบบ Cappadocia
[รีวิว] Bosphorus Grill ร้านอาหารริมทะเลมาร์มาร่า ข้างพระราชวังสุดอลังการในอิสตันบูล
[รีวิว] Gazebo Lounge จิบชายามบ่าย ในรั้วพระราชวังริมทะเลวิวอลังการ เมืองอิสตันบูล
[รีวิว] Kybele Cafe คาเฟ่แสนน่ารัก ดื่มด่ำบารากุ ย่านเมืองเก่า อิสตันบูล