[เที่ยว อิตาลี ด้วยตัวเอง] Cinque Terre ห้าหมู่บ้านสีสันน่ารักบนผาริมทะเล แรงบันดาลใจแอนิเมชั่นเรื่อง Luca

Cinque Terre หมู่บ้านสีสันน่ารัก ริมผาบนชายฝั่งเมดิเตอเรเนียนนี้ นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวในฝันของประเทศอิตาลีเลยค่ะ ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ บ้านที่ลดหลั่นกันตามแนวผา ติดกับทะเล ด้านหลังเป็นภูเขา ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกในเรื่องของทัศนียภาพที่แตกต่าง และมีความเป็นมาตั้งแต่ยุคกลางกันเลยทีเดียว

แม้ว่าโลเคชั่นจะดูจากภาพแล้วเหมือนไปยาก แต่จริงๆ Cinque Terre ที่อิตาลีนั้น เที่ยวง่ายมากๆ เดินทางสะดวก ที่นี่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนต์แอนิเมชั่นเรื่อง Luca อีกด้วย ดังนั้นใครที่อยากมาตามรอยหมู่บ้านชาวประมงน่ารักๆ แบบนั้น ตามมาได้เลยค่ะ!

การเดินทางมาที่นี่นั้น ทำได้หลายแบบ และ วิธีการเที่ยว Cinque Terre ก็ตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไตล์ ซึ่งตัวนัทเองเคยมาหลายครั้ง จึงขอรวบรวมมาไว้ให้ทุกคนเป็นหนึ่งตัวเลือกในการไปเที่ยวอิตาลีนะคะ


รู้จัก Cinque Terre

Cinque Terre อ่านว่า ชิงเคว เตร์เร เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า 5 Lands ซึ่งในที่นี่ก็หมายถึง ห้าหมู่บ้านนั่นเองค่ะ ซึ่งแต่ละหมู่บ้านก็จะมีชื่อของเมืองนั้นๆ อีกทีค่ะ ดังนั้น ถ้ากดกูเกิ้ลแมพว่า Cinque Terre มันจะเป็นพื้นที่รวมๆ ของอุทยานแห่งชาติ ที่มีทั้งพื้นที่ภูเขาและทะเล รวมถึงหมู่บ้านทั้ง 5 นี้ค่ะ

อุทยานแห่งชาติ Cinque Terre ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดย Unesco ในปี 1997 และเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลีเลยค่ะ

อย่างที่บอกว่า Cinque Terre มี 5 หมู่บ้าน นัทเรียงจากเหนือลงใต้นะคะ ได้แก่ Monterosso, Vernazza, Corniglia, Manarola, Riomaggiore เวลาจะกูเกิ้ลทางไป หรือหาร้าน หาที่พัก แต่ละที่ต้องระบุเป็นชื่อหมู่บ้านค่ะ เพราะ Cinque Terre จะเป็นชื่อรวมๆ ระบุที่อยู่ไม่ได้


Cinque Terre อยู่ที่ไหน?

Cinque Terre นั้น ตั้งอยู่ในแคว้น Liguria เป็นแคว้นที่อยู่ชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ มีอาณาเขตเลียบฝั่งยาวไปติดกับฝรั่งเศสเลยค่ะ เมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดชื่อว่า Genova หรือ Genoa ในภาษาอิตาเลียน (ไม่ใช่ เจนีวา สวิสเซอร์แลนด์นะคะ เจนัว เป็นเมืองท่า เมืองใหญ่ของลิกูเรีย) แต่ว่า จริงๆ คนจะนิยมเที่ยวมาจาก ฟลอเรนซ์ หรือ ปิซ่า มากกว่าค่ะ

เพื่อให้นึกภาพออก เรากำลังหมายถึงว่าหากคุณทำทริปอิตาลี มาจากโรมหรือมิลาน ก็มักจะแวะ ฟลอเรนซ์ซึ่งอยู่ตอนกลางของประเทศก่อน อาจจะไปปิซ่าเพื่อดูหอเอนปิซ่า และจากปิซ่ามาตรงนี้ก็อีกแค่นิดเดียวค่ะ

แต่บางคนก็ทำทริปมาจากฝรั่งเศส ก็นั่งรถไฟมาได้ยาวๆ เลยค่ะ ตัวนัทเองก็เคยขับรถจากฟลอเรนซ์ไปเที่ยวนีซ ประเทศฝรั่งเศส ตัวมอเตอร์เวย์ก็ขับง่ายตลอดทางค่ะ

ทีนี้ เวลาพูดว่ามาถึง Cinque Terre เราจะพูดถึงสถานีใหญ่ก่อนที่จะเข้า Cinque Terre จริงๆ ค่ะ ซึ่งถ้านับจากทางเหนือที่มาจาก Genova จะเจอเมือง Levanto ก่อน ส่วนถ้ามาจากทางปิซ่า ก็จะเจอ La Spezia ก่อนค่ะ เหตุผลที่พูดถึงสองเมืองนี้ เพราะยังไงก็ต้องมาเปลี่ยนรถไฟที่นี่

และอีกเหตุผลที่ต้องพูดถึง 2 เมืองนี้ คือ หากคุณขับรถมา นัทแนะนำให้จอดแค่นี้ค่ะ ตั้งแต่อ่านไกด์บุ๊คและถามมา ไม่มีใครแนะนำให้ขับรถเข้าไปในหมู่บ้านเลย เหตุผลเพราะว่า นั่งรถไฟใช้เวลา 8 นาที แต่ถ้าขับรถ กูเกิ้ลจะบอกว่าใช้ 30 นาที แต่เค้าบอกว่า ในความเป็นจริง ถนนทั้งแคบ ทั้งโค้ง และ ไม่มีที่จอด อาจจะใช้เวลาเป็นชั่วโมงค่ะ

หากขับรถมา สามารถจอดรถได้ที่ ที่จอดรถหน้าสถานีรถไฟเลยค่ะ ค่าจอดชั่วโมงละ 1.5 Euro ตอนกลางวัน และ กลางคืน 1 Euro ค่ะ จอดทิ้งไว้ ก็จ่ายที 30-40 Euro  เป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติ แต่ว่าตอนกลางคืนมีประตูใหญ่ปิด นัทจอดทิ้งไว้หลายครั้ง ไม่เคยมีปัญหานะคะ ทิ้งไว้แค่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เวลาเข้าไปพักใน Cinque Terre จะเอาไปแค่ที่จำเป็นค่ะ

ข้อดีของการขับรถเที่ยวคือ ไม่ต้องรอรถไฟและขนกระเป๋าขึ้นรถไฟค่ะ อย่างในแคว้น  Tuscany (แคว้นของฟลอเรนซ์และปิซ่า) เป็นแคว้นที่น่าขับรถเที่ยวมาก วิวข้างทางสวย เลยมีนักท่องเที่ยวที่นิยมขับรถเที่ยวเส้นทาง Florence – Arezzo – Sienna – San Gimignano – Pisa – Lucca – Livorno มาจนถึง Cinque Terre ค่ะ แต่ถ้าจะตรงมาเลย ขึ้นรถไฟมาได้ หาที่ฝากกระเป๋าไว้ที่ฟลอเรนซ์/ปิซ่าก็ดีค่ะ จะได้ไม่เหนื่อย


การเดินทางไป Cinque Terre

ตามภาพแผนที่ที่นัททำไว้ สามารถมาได้ทั้งขับรถ, รถไฟ หากบินมาจากเมืองอื่นในยุโรป ก็มาลงสนามบินปิซ่าหรือสนามบินฟลอเรนซ์ได้ค่ะ เอาเป็นว่า มาให้ถึง La Spezia หรือ Levanto ก่อนนะคะ

จาก La Spezia / Levanto เข้าไปหมู่บ้านทั้ง 5 มี 2 วิธีเป็นหลัก นัทจะตัดเรื่องขับรถเข้าหมู่บ้านออกไปด้วยเหตุผลที่กล่าวไปในย่อหน้าที่แล้วนะคะ

1. รถไฟ : เป็นวิธีการที่สะดวกที่สุดค่ะ ในช่วงกลางวันจะมีรถไฟทุกๆ 10-20 นาที หมดตอนตี 1 แล้วมีอีกทีตอน 6 โมงเช้าค่ะ ใช้เวลาเร็วมากๆ เดี๋ยวนี้รถไฟขบวนใหม่ ติดแอร์ นั่งสบายค่ะ แต่ก็ต้องเตรียมใจนะคะว่า บางช่วงอาจจะแออัดมากๆ ฟีลเหมือนขึ้นบีทีเอสตอนแปดโมง

ตารางรถไฟในแต่ละฤดูจะไม่เหมือนกันค่ะ เสิร์ชเอาหรือขอที่สถานีได้เลย แต่ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางจะมีดังนี้ค่ะ
จาก La Spezia ไป Riomaggiore : 9 นาที
Riomaggiore ไป Manarola : 6 นาที
Manarola ไป Corniglia :  5 นาที
Corniglia ไป Vernazza : 4 นาที
Vernezza ไป Monterosso : 4 นาที
Monterosso ไป Levanto : 5 นาที

นัทซื้อ Cinque Terre Card ไปเลยค่ะ ใช้รถไฟและเส้นทางเทรคได้ไม่จำกัด 1 วัน 18.20€, 2 วัน 33€, 3 วัน 47€ ค่ะ หน้า High Season ตั๋วต่อเที่ยวอยู่ที่ 5 Euro อยู่แล้ว ถ้าขึ้นรถไฟ 4 ครั้งก็คือคุ้มแล้วค่ะ ถ้าเก็บทุกเมืองจะขึ้นรถไฟอย่างน้อย 6 ครั้งค่ะ อย่าลืมเขียนชื่อเต็ม และ validate ครั้งแรกที่ใช้ด้วยนะคะ

ส่วน 1 พฤศจิกา – ปลายมีนา เป็นหน้าโลว์ซีซั่น ไม่แน่นำให้ซื้อ Cinque Terre Card ค่ะ เพราะซื้อเป็นเที่ยวถูกกว่าค่ะ เริ่มต้น 2.5 Euro ถูกลงไปเลย

สามารถเช็ครอบรถไฟได้ที่นี่ค่ะ https://www.cinqueterre.eu.com/en/cinque-terre-timetable

2. เฟอร์รี่ : เฟอร์รี่จะมีราคาแพงกว่าและใช้เวลานานกว่านิดนึง แต่ก็ไม่แออัดแล้วก็ชมวิวเล่นๆ ได้ด้วยค่ะ สมมติรถไฟ 6 นาที เรือก็จะประมาณ 10 นาทีค่ะ แต่ว่าข้อเสียคือ ถ้าออกมาจาก La Spezia จะใช้เวลานาน นัทคิดว่าเอาไว้ใช้ตอนแบบขี้เกียจเดินขึ้นไปสถานีก็ได้นะคะ อย่างจาก Manarola มา Vernezza  ขึ้นเรือก็ประมาณ 20 นาที วิวดี ค่าเรือจะไม่เท่ากันในแต่ละสถานีค่ะ เริ่มตั้งแต่ ใกล้ๆ 7 Euro ไปจนถึง 25 Euro ส่วนตั๋ววันภายใน 5 หมู่บ้านจะอยู่ที่ 30 Euro ค่ะ

อ้อ ไม่ว่าจะมาจากรถไฟ หรือ เรือ ยังไงก็อาจจะต้องเดินนะคะ ดูจากภาพจะเห็นว่า เมืองมันอยู่บนเนินเขา สมมติเราลงจากเรือที่ท่า ก็ต้องเดินขึ้นไปบนเมือง แต่ถ้ามาจากสถานีรถไฟ ส่วนใหญ่จะอยู่ข้างบนหน่อย แล้วเดินลง แต่ขากลับก็ต้องเดินขึ้นค่ะ เป็นที่ที่ไม่เหมาะกับคนที่เดินลำบากเลยค่ะ — แค่สถานี เดินข้ามชานชาลา จะต้องขึ้นลงบันไดค่ะ ถ้ามีกระเป๋า คือลำบากแน่นอนเลยค่ะ


Cinque Terre กี่วันดี?

ขึ้นอยู่กับฤดูที่มา เวลาที่มีและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนค่ะ อย่างตัวนัทก็จะชอบอยู่ซัก 2 คืน เพราะว่าชอบไปเที่ยวทะเล เล่นน้ำ นอนอ่านหนังสืออาบแดด ขึ้นมากินข้าว ดูพระอาทิตย์ตก อะไรแบบนี้ค่ะ แต่มันจะสโลว์ไลฟ์หน่อยนะคะ บางคนไม่อินก็อาจจะเบื่อ แต่นัทนั่งได้ทั้งวันเลย

ซึ่งเล่นน้ำนี่ก็ต้องมาหน้าร้อนเท่านั้น น้ำจะเล่นได้ประมาณ ปลายพฤษภา ไปจนถึงประมาณกันยายนค่ะ ส่วน ตุลากับมีนา นัทเคยมา ลงน้ำไม่ไหวจริงๆ ค่ะ แค่นั่งเรือก็หนาวแล้ว

ส่วนกิจกรรมที่เห็นนักท่องเที่ยวมาทำกันเยอะมากคือ Trekking ค่ะ คนเดินเทรคจะเดินข้ามหมู่บ้าน ฝั่งนึงเป็นภูเขา ไร่ไวน์ อีกฝั่งเป็นทะเล ระยะทางจะอยู่ประมาณ 3.5 – 5 กม. มีระดับความสูงและความยากต่างกัน อาจจะใช้เวลาตั้งแต่ 1.5 ชม. ไปถึง 3 ชม.เลยค่ะ

หากใครไม่มีเวลาจริงๆ วันเดียวก็เก็บครบได้ค่ะ แต่ต้องวางแผนดีๆ หน่อยนะคะ เพราะว่า จากสถานีรถไฟ เดินไปจุดถ่ายรูป จุดชมวิว ของแต่ละหมู่บ้าน ก็อาจจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ

อีกออปชั่นคือซื้อทัวร์ทางเรือค่ะ มันจะมีทัวร์ตั้งแต่ 2 ชม.ขึ้นไป ซึ่งโปรแกรมก็จะมีแบบพาไป 3 เมือง พร้อมเล่นน้ำกลางทะเล ลองเลือกดูค่ะ

การเที่ยว Cinque Terre ไม่จำเป็นต้องเรียงหมู่บ้านนะคะ รถไฟมีทุกๆ 20 นาที หรือถี่กว่านั้นในแต่ละฤดู อย่างช่วงหน้าร้อน นัทไปมีทุก 10 นาทีเลย นัทแนะนำให้เรียงจากกิจกรรมที่จะทำในแต่ละที่มากกว่าค่า (เช่น จะเล่นทะเลที่ไหน ดูพระอาทิตย์ตกที่ไหน)

ฤดูร้อนที่นี่ร้อนมากๆ อาจสูงได้ถึง 40 องศา นัทคิดว่า นักท่องเที่ยวชาวไทย อาจจะแฮปปี้กับช่วงใบไม้ผลิและใบไม้ร่วงมากกว่า ส่วนฤดูหนาว จะอยู่ประมาณ 10 องศา และร้านส่วนใหญ่จะปิดค่ะ อย่างไรก็ตาม ตอนนัทมาเดือน มีนาและตุลา ฟ้าครึ้ม ลมแรง แต่งตัวไม่สนุกเลย ถ่ายรูปไม่สวยเลย ส่วนตัวเลยชอบซัมเมอร์มากกว่าค่ะ

ภาพด้านล่างนี้ถ่ายปลายเดือนตุลาค่ะ ส่วนภาพอื่นๆ ที่สีสดๆ จะมาจากช่วงซัมเมอร์ค่ะ


ที่พักใน Cinque Terre

ข้อดีของการพักใน 1 ใน 5 หมู่บ้านของ Cinque Terre คือ คนส่วนใหญ่มักจะมาเดย์ทริป ดังนั้นถ้าพักที่นี่ ก็จะได้เอนจอยหมู่บ้านที่เราอยู่แบบแทบไม่มีคนเลยค่ะ ตอนกลางคืนที่นี่เงียบสงบและไม่วุ่นวายเหมือนกลางวันเลย

ทั้ง 5 หมู่บ้านมีที่พักทั้งหมดค่ะ แนะนำให้ปรึกษาเรื่องการขนกระเป๋าเดินทางก่อนนะคะ ไม่มีโรงแรมใหญ่ๆ ส่วนใหญ่เป็นเกสท์เฮ้าส์หรือบ้านดั้งเดิมที่มาดัดแปลงเป็นโรงแรมค่ะ

อีกออปชั่น หากใน 5 หมู่บ้านแพง จริงๆ La Spezia กับ Levanto ก็ไม่แย่ค่ะ เป็นเมืองใหญ่กว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะกว่า แล้วก็มาขึ้นรถไฟได้ไม่ยากค่า


Riomaggiore

ด้วยความที่นัทมักจะเดินทางมาจากทางฟลอเรนซ์หรือปิซ่า ก็เลยจะเริ่มจากทางใต้ขึ้นมาทางเหนือค่ะ ซึ่งรีวิวนี้ นัทเรียงตามหมู่บ้านจากใต้ไปเหนือ แต่เวลาไปเที่ยวจริงๆ เนี่ย นัทจะสลับนะคะ ส่วนใหญ่จะชอบพระอาทิตย์ตกที่ Manarola ชอบเล่นทะเลช่วงกลางวันที่ Monterosso ส่วน Vernezza ชอบไปตอนเช้าหน่อยเพราะคนน้อย แล้วก็อยู่ที่ว่ามีเวลากี่วันด้วยค่ะ

หมู่บ้านแรก Riomaggiore เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวมาค่อนข้างเยอะ ตัวหมู่บ้านยูนี้คมากๆ เลย พอเดินออกจากสถานีปุ๊ป จะเดินผ่านอุโมงค์ประมาณร้อยเมตร แล้วเลาะผ่านตึก ลงบันไดมา จะเจอกับทางลงสู่ทะเล

เลาะไปตามผู้คนทางซ้ายจะเจอบันได ที่ขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ถ่ายภาพมุมนี้ค่ะ หรือจะเดินเลยไปตรงที่เป็นหินๆ ก็ได้นะคะ ตรงนี้คนมานอนอาบแดดกันเยอะเลย

ภายในเมืองเองหากเดินย้อนขึ้นไป ก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร มีเรือให้เช่าแบบออกทัวร์ไปว่ายน้ำกลางทะเล ทะเลที่อยู่ด้านหน้าตรงนี้จะแบ่งโซนค่ะ มีทั้งโซนอนุรักษ์ และ โซนที่อนุญาตให้ชาวประมงท้องถิ่นตกปลาได้ เค้าดังเรื่องแองโชวี่มากๆ ด้วย มีร้านดำน้ำแบบ Scuba ด้วยค่ะ

สำหรับหมู่บ้านนี้ ถ้าจะทานอาหาร พอเดินมาจากสถานีรถไฟ ผ่านอุโมงค์ออกมา ต้องเลี้ยวซ้ายขึ้นไปในหมู่บ้านค่ะ จะเป็นคนละจุดกับที่เดินลงมาถ่ายภาพ แต่ตัวหมู่บ้านเอง ไม่ค่อยน่าเล่นน้ำเท่าหมู่บ้านอื่นค่ะ


Manarola 

ถ้าสมมติมีเวลาไปแค่เมืองเดียว ส่วนตัวนัทจะเลือกที่นี่ค่ะ

Manarola เป็นหมู่บ้านที่สอง นับจากทางใต้  เมื่อออกจากสถานีรถไฟ ต้องเดินตามอุโมงค์ราบๆ มา แล้วเดินเลี้ยวซ้ายมาทางทะเลค่ะ ขามาจะเป็นขาลง

แล้วจึงเดินเลี้ยวขวามายังจุดชมวิวตรงนี้ เดินสบายๆ ไม่เหนื่อย แต่ถ้าเดินไปเรื่อยๆ จะมีทางขึ้นไปยังร้านฮิตอย่าง Nessun Dorma ซึ่งต้องจองโต๊ะวันต่อวันค่ะ แต่จองผ่านแอพเค้าได้เลย

คนกระโดดน้ำเล่นนี่เห็นทุกๆ ซัมเมอร์เลยค่ะ ทั้ง 5 หมู่บ้าน จะไม่มีที่ไหนมีหาดเลยยกเว้นหมู่บ้านสุดท้าย อย่างที่นี่ หากอยากเล่นน้ำ ก็เตรียมของมาเองได้เลย

ช่วง Golden hour แสงกระทบสวยมากๆ ค่ะ

เรือเหมือนในแอนิเมชั่นเรื่อง Luca เลย

ที่นี่เรามานั่งทานอาหารเย็นค่ะ เลือกร้านค่อนข้างแรนดอมเลย ร้านนี้ชื่อว่า Marina Piccola เน้นวิวพระอาทิตย์ตก อาหารใช้ได้เลยค่ะ ราคาแรงนิดนึง หลายๆ ร้านใน Cinque Terre จะเน้นเมนูไปทางซีฟู้ด แต่ก็มีร้านแซนด์วิช พิซซ่าง่ายๆ ด้วยค่ะ ส่วนใหญ่นัทจะทานที่ Monterosso กับ ที่หมู่บ้านนี้


Corniglia

หมู่บ้านที่ 3 คือ Corniglia เป็นหมู่บ้านตรงกลาง เป็นเมืองเดียวที่ตัวหมู่บ้านไม่ได้ลงมาติดทะเล แต่มีทางเดินเลาะลงมาถึงทะเลได้นะคะ หมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงว่าเป็นหมู่บ้าน Cinque Terre ที่สงบที่สุด หากใคร

คนนิยมเดินเทรคจากที่นี่เข้าไปหมู่บ้านถัดไปซึ่งก็คือ Vernezza ค่ะ ถ้าเทรคก็จะใช้ระยะทาง 3.5 กิโล ประมาณชั่วโมงนิดๆ ค่ะ ซึ่งข้อดีก็คือจะเห็น Vernezza จากมุมสูงด้วย

ขอสารภาพว่า หมู่บ้านนี้นัทไม่เคยแวะเลย เคยเห็นจากแค่บนเรือ เป็นหมู่บ้านที่เรือเฟอร์รี่จะไม่จอดค่ะ และนัทเห็นบันไดก็คือยอมแพ้เหมือนกัน


Vernezza

หมู่บ้านนี้จะมีลักษณะเป็นอ่าวค่ะ ตัวหมู่บ้านค่อนข้างจะราบติดกับทะเล ถ้ามาจากเฟอร์รี่ก็จะเห็นมุมนี้เลย แต่ว่ามุมที่คนชอบไปถ่ายรูปกัน จะต้องเดินเลาะไปข้างๆ โบถส์ประมาณ 20 นาทีค่ะ

Vernazza นัทชอบมาเป็นเมืองแรก เช้าๆ หน่อย คนไม่เยอะมาก เพราะคนส่วนใหญ่จะไปกองกันอยู่ Riomaggiore กับ Monterosso

ภายในเมืองก็จะมีดีเทลน่ารักๆ เต็มไปหมด


Monterosso al Mare

หมู่บ้านสุดท้ายแล้วค่ะ เป็นหมู่บ้านเดียวที่มีหาดทราย มีเตียงกับร่มชายหาด และเหมาะกับการเล่นน้ำที่สุดค่ะ ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดจากห้าหมู่บ้านค่ะ มีสองฝั่ง เป็นฝั่งเมืองเก่ากับเมืองใหม่ สามารถเดินเลียบหาดผ่านอุโมงค์มาได้เลย

Monterosso  เป็นเมืองที่ไม่ต้องเดินขึ้นเดินลงเยอะค่ะ แต่จะเน้นความเป็นพรอมเมอนาดยาว ซึ่งแตกต่างจากทุกเมืองทั้ง 4 เลย มีความเป็นเมืองรีสอร์ทหน่อยๆ ภาพอาจจะไม่ปังมาก แต่เป็นที่ที่มีร้านอาหาร และ ที่พักให้เลือกเยอะค่ะ


หากใครอยากไปที่อื่นในอิตาลี อ่านต่อได้เลยนะคะ

ครั้งที่แล้วนัทเขียนเรื่องอิตาลีใต้ไว้ ที่เน้น แคว้น Campania และ Puglia ค่ะ

สโลว์ไลฟ์ในอิตาลีตอนใต้ Positano-Amalfi Coast ดินแดนในฝัน ที่เที่ยวคนเดียวง่ายมาก

ลุยเดี่ยวเที่ยว Capri เกาะสวรรค์ของเซเลบริตี้ตัวแม่ ในอิตาลีตอนใต้ [Capri Travel Guide]

[Unseen Italy ตอนที่ 1] เที่ยว ทิโวลี (Tivoli) เมืองสวยใกล้โรม อีกหนึ่งมรดกโลกสำคัญของอิตาลี

[Unseen Italy ตอนที่ 2] เที่ยว Naples-Pompeii ทำพิซซ่าถึงเมืองบ้านเกิด ดินแดนประวัติศาสตร์ จิบไวน์ภูเขาไฟ

[Unseen Italy ตอนที่ 3] เที่ยว Caserta พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และ Outlet ใกล้ Naples

[Unseen Italy ตอนที่ 4] เที่ยว Alberobello หมู่บ้านแสนน่ารัก ในแคว้นตรงส้นรองเท้าบู้ท Puglia

[Unseen Italy ตอนที่ 5] เที่ยว Lecce เมืองศิลปะ Italian Baroque แสนอลังการ และ Gallipoli เมืองท่าย้อนยุค ทางตอนใต้ของอิตาลี

[Unseen Italy ตอนที่ 6] เที่ยว Ostuni เมืองสีขาวบนชายฝั่งอิตาลีตอนใต้ และ ที่พักแบบ Masseria

[Unseen Italy ตอนที่ 7] มหัศจรรย์ “Matera” เมืองถ้ำหินเขาวงกต มรดกโลกจากอิตาลี ที่ต้องมาสัมผัสซักครั้ง

[Unseen Italy ตอนที่ 8] โหนซิปไลน์ข้ามหมู่บ้านที่สวยที่สุดในอิตาลี Castelmezzano – Pietrapertosa


หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ อย่าลืมติดตามไอจี @eatchillwander ขอบคุณมากๆ ค่า




ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: