[รีวิว] Guilty Bangkok – ยกความสนุกสนานแบบละตินอเมริกามาไว้ใจกลางกรุง ณ โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ

admin July 27, 2022

เรียกว่ายกกลิ่นอายความสนุกสนานและสดใสของละตินอเมริกามาไว้ใจกลางกรุงเทพเลยทีเดียวกับร้าน Guilty (กิวตี้) ร้านอาหารแห่งใหม่ ภายในในโรงแรม Anantara Siam Bangkok (โรงแรม อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ) ที่เสิร์ฟอาหารจากภูมิภาคละตินอเมริกา โดยเน้นที่อาหารเปรูเวียน นำทีมโดยเชฟ Carlos Rodriquez ชาวเมืองเวเนซูเอล่า ผู้มีประสบการณ์การทำงานในวงการไฟน์ไดนิ่งเมืองไทยมาหลายปี

ร้าน Guilty นั้นเต็มไปด้วยดีเทลที่ให้ความรู้สึกสนุก ทั้งแชนเดอเลียอันใหญ่ด้านบน ภาพป๊อปอาร์ตจากศิลปินไทยบนจอดิจิตอล การตกแต่งไฟนีออน ซึ่งเหมาะกับการมานั่งสังสรรค์กับเพื่อนหลังเลิกงาน หรือจะมาเดทก็ไม่เคอะเขิน มีการเสิร์ฟ shot ที่เป็นลูกเล่นน่ารักๆ เหมือนอยู่ในงานเฉลิมฉลอง

เราเริ่มมื้ออาหารกันด้วย Starter สุดแสนคลาสสิกอย่าง กัวคาโมเล่ แต่กัวคาโมเล่ที่ร้าน Guilty นั้นไม่ธรรมดา เพราะจัดหนักจัดเต็ม มาจานใหญ่มากๆ คนรักอโวคาโดต้องหลงรัก กับ Holy Guacamole! (ราคา 550.-) จานนี้ เสิร์ฟคู่กับแป้งนาโซ่กรอบๆ ทำเองสดๆที่ร้าน

จานนี้พนักงานจะมาทำให้ดูกันสดๆ ที่ข้างโต๊ะของเราเลย เป็นการเปิดมื้ออาหารที่เยี่ยมยอด กัวคาโมเล่ที่นี่รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เค็ม มัน คลุกเคล้ากันอย่างลงตัว ที่สำคัญ portion ใหญ่มากกก ประทับใจ

จานถัดมา คือ Jicama Mango Salad (ราคา 450.-) สลัดมันแกวมะม่วง เพิ่มรสอูมามิด้วยอโวคาโดและมะเขือเทศกองฟี ราดด้วยน้ำสลัดที่มีส่วนผสมของส้มจี๊ด นำความเปรี้ยวมาตัดกับความหวานของวัตถุดิบ ความโดดเด่นของสลัดจานนี้คือ เทกเจอร์ที่หลากหลายของวัตถุดิบ ทั้งความกรอบของมันแกว ความฉ่ำน้ำของมะม่วง ความมันของอโวคาโด และความหนึบเบาๆ ของมะเขือเทศ confit จานนี้ถือเป็นจานที่ทั้งโต๊ะลงความเห็นร่วมกันว่าชอบค่ะ

ตามมาด้วย Toda La Vida Ceviche (ราคา 800.-) เซวิเช่นั้น น่าจะเป็นเมนูเปรูเวียนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในระดับสากล ทางเชฟ Carlos นำเสนอเซวิเช่ด้วย ปลาฮามาจิสด แล่บาง ปรุงรสด้วยน้ำยำสูตรพิเศษ “Tiger Milk” ที่ใช้น้ำสต๊อกปลาเข้มข้น เคี่ยวกับ ขิง กระเทียม หอมใหญ่ และ ผักชีฝรั่ง จนงวด ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวและเกลือ พริกไทย ตัวซอสนั้นเข้มข้น และสดชื่นเป็นอย่างมาก

Starter จานสุดท้ายชองเราคือ Barbacoa Wagyu Beef (ราคา 700.-) ที่ใช้เนื้อวากิวออสเตรเลียที่ถูกรมควันจนหอม ปรุงรสด้วย น้ำผึ้ง ผงยี่หร่า ผงปาปริก้ารมควัน เสิร์ฟมาบนแป้งตอติญ่า

ส่วนที่เหลือเป็น Side dish ที่เราสั่งมาทานกับอาหารจานหลักในวันนี้ สำหรับ เมนคอร์ส เชฟแนะนำหนึ่งในอาหาร signature ให้กับเรา นั่นก็คือ Arroz Cartagenero y Lubina Chilena (ราคา 1,250.-) ที่ทำ Coconut Rice แบบฉบับเมือง Cartagena ประเทศโคลอมเบีย เสิร์ฟมาพร้อมกับปลา Chilean Sea Bass ที่พวกเราเรียกกันติดปากว่าปลาหิมะ เสริมความเข้มข้นด้วยซอสที่ทำจาก rockfish ตัวข้าวมีความเข้มข้น หนึบ และเข้ากับปลาได้ดีค่ะ

จานเมน จานที่สองของเราเป็นเนื้อวากิวสันนอก เกรด A5 จากจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ย่างและเสิร์ฟมาบนหินเกลือหิมาลายัน แนะนำว่าต้องรีบทานนิดนึง เพราะความเค็มของเกลือจะซึมเข้าเนื้อไปเรื่อยๆ

ความพิเศษของร้าน Guilty อีกอย่างคือ vibe ของการสังสรรค์ ซึ่งทุกๆ คืน พนักงานก็จะนำเครื่องดื่มที่เป็น shot มาแจก สร้างความสนุกสนาน มีชีวิตชีวาให้กับห้องอาหารได้อย่างดีเยี่ยม

ขนมหวานของร้าน Guilty นั้นก็น่าทานไม่แพ้ของคาวเลย เริ่มจาก Mango Latino (ราคา 350.-) ที่ด้านนอกเป็นช็อกโกแลตจำลองรูปมะม่วง ด้านในเป็นชีสเค้กมะม่วงเนื้อเนียนละลายในปาก เสิร์ฟคู่กับไอศกรีมรสลูกแพร์

ปิดท้ายด้วย Tres Leches de Maracuya (ราคา 295.-) สปอนจ์เค้กแป้งอัลมอนต์ ที่สอดไส้ด้วยครีมนมต่างชนิดกันถึง 3 ชนิด ราดด้วย coconut rum sauce เค้ก Tres Leches นี่ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมสำหรับอาหารเปรูเวียนเลยค่ะ