[Unseen Italy ตอนที่ 4] เที่ยว Alberobello หมู่บ้านแสนน่ารัก ในแคว้นตรงส้นรองเท้าบู้ท Puglia

admin May 12, 2020

จากความเดิมตอนที่แล้ว เราพาไปเที่ยวอิตาลีกันมา 2 แคว้นแล้ว ก็คือ Lazio และ Campagna ตอนนี้เรากำลังเดินทางเข้าสู่แคว้นที่สามในทริปนี้ นั่นก็คือ แคว้น Puglia (ปูเลีย) หรือ ภาษาอังกฤษคือ Apulia นั่นเอง

ตอนที่ได้ยินชื่อ Puglia ครั้งแรกนั้น เป็นตอนที่เพื่อนสนิทคนอิตาเลียนบอกเราว่า “อาทิตย์หน้าจะไปเที่ยว Bari นะไปมั้ย” ซึ่งเราไม่รู้จัก Bari รู้จักแต่ บาหลี เราก็ตกใจว่า “เดี๋ยวก่อนนนน ไม่มาเรียนหรอ ทำไมไปไกล” เพื่อนก็แบบ “Bari แก บารี ไม่ใช่ บาหลี อยู่ในแคว้น Puglia เป็นแคว้นที่ถ้ามองแผนที่อิตาลีเป็นรูปรองเท้าบู้ทมันคือตรงส้นรองเท้า”

Bari ถือเป็นเมืองหลวงของแคว้น Puglia (ใครงงเรื่องเมืองหลวงและวิธีแบ่งแคว้นอิตาลี กลับไปอ่านตอนที่ 1 นะคะ) ซึ่งในแคว้น Puglia เอง ไม่ได้มีดีแค่ เมือง Bari แต่มีเมืองใหญ่ ๆ ที่คนอิตาลีฮิตมาพักร้อนเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Lecce, Brindisi, Alberobello, Ostuni และอื่นๆ อีกมากมายยยย

อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า แคว้นต่างๆ ในอิตาลี จะมีเอกลักษณ์เฉพาะ มีสเน่ห์ มีคัลเจอร์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร บรรยากาศของผู้คน ศิลปะ ซึ่ง Puglia เป็นหนึ่งในแคว้นที่เราชอบมากที่สุดในอิตาลีเลยค่ะ เพราะมันเป็นเมืองชายทะเล อากาศดีเกือบทั้งปี บ้านเมืองน่ารัก เรียบง่าย ผู้คนอัธยาศัยดี (แอบกระซิบว่านายแบบอิตาเลียนมาจากที่นี่เยอะนะจ้ะ ผิวแทนๆ) ของกินอร่อย ด้วยพื้นที่ที่เหมาะกับการปลูกอะไรหลายอย่าง แล้วเราว่าเป็นเมืองที่คุณจะได้สัมผัสความอิตาเลียนมากกกกก ทั้งการพักใน Masseria แบบดั้งเดิม แก๊งค์คุณย่าที่ออกมารวมตัวนั่งคุยกันหน้าบ้าน คุณลุงมุงกันเล่นไพ่ข้างทาง เวสป้าทั่วเมือง มันเป็นภาพที่เราว่าเห็นได้ยากในเมืองแบบ โรม มิลาน เวนิส แล้วใครที่ไม่ใช่สายแลนด์มาร์ก แต่เป็นสายขับรถชิวเอาบรรยากาศ น่าจะชอบมาก

ข้อดีของ Puglia คือเราจะไม่เจอทัวร์กรุ๊ปใหญ่ๆ แบบในโรมหรือเวนิส แต่ถ้าคุณมาในวันหยุดของคนอิตาเลียนนี่ต้องทำใจหน่อย คนอิตาเลียนชอบมาเที่ยวที่นี่กันมากกกก ที่เคยถามมา คนอิตาเลียนหลายคนไม่เคยไปปิซ่า แต่มาเที่ยว Puglia ทุกปี

ภาพด้านล่างคือแผนที่ แคว้น Puglia แคว้นเดียว แต่มีอะไรให้ดูเต็มไปหมดเลย

ภาพบรรยากาศ Polignano de Mare ใกล้ๆ เมือง Bari ที่ช่วงซัมเมอร์แทบไม่มีที่ให้ยืน

ร้านอาหาร Ristorante Grotta Palazzese อีกร้านดังใน Bari // Image credits: Luxe Adventure Traveler

การเดินทาง

การเดินทางมายังแคว้น Puglia

การเลือกวิธีการเดินทางมายังแคว้น Puglia นั้น นัทคิดว่า ต้องดูว่าเราแพลนทริปไปไหนในอิตาลีบ้าง เช่น ถ้าสมมติว่า ตั้งใจเที่ยวแค่ Puglia แคว้นเดียว (หรือ Puglia + Matera) ถ้ามาจากไทย ก็บินมาลงโรม แล้วบินต่อจากโรมมาเมืองใหญ่ใน Puglia ได้แก่ Bari หรือ Brindisi เพราะมีไฟลท์โลว์คอสท์เยอะมาก เราคิดว่าวิธีนี้ง่ายและประหยัดเวลาที่สุด (ดูสนามบินดีๆ นะคะ โรมมี 2 สนามบิน การบินไทย บินลง Fiumicino)

ซึ่งหากจะนั่งรถไฟหรือบัสมาจากโรมจะใช้เวลา 4.5 – 5 ชม.ขึ้นไปค่ะ แนะนำให้บิน

ส่วนถ้าใครจะทำ Roadtrip ภาคใต้ รูทที่นิยมคือ ขับลงมาที่ Campagna (Naples เป็นหลัก) แล้วเที่ยวไล่มาทาง Caserta เข้า Bari เที่ยว Puglia แล้วขากลับ กลับผ่าน Matera – Castelmezzano แบบเรา ก็ได้ แต่ใช้เวลาขับรถข้ามเมือง 3-4 ชั่วโมงเหมือนกัน ข้อดีคือ ได้ไปเมืองต่างๆ หลายเมือง และกลับมาคืนรถทีเดียวได้ จะนั่งรถไฟความเร็วสูงมาเช่ารถที่ Naples แล้วคืนรถที่ Naples นั่งรถไฟกลับเข้าโรม แบบนี้ก็ได้เช่นกันค่ะ

ซึ่งรูทภาคใต้นี้ สามารถเดินทางได้ด้วยรถบัส (Flixbus, Sitabus) หรือ รถไฟ ได้เช่นกัน แต่แถวนี้รถไฟเป็นความเร็วปกติ ใช้เวลามากกว่านั่งบัสนิดหน่อย แล้วรถบัสราคาถูกมากค่ะ

อีกรูทนึงที่น่าสนใจจะเป็น Rome เที่ยวเลาะชายฝั่ง Sperlonga/Capua พักที่ Sorrento, เที่ยวคาปรี Amalfi Coast ลงไปจบที่ Salerno แล้วขับจาก Salerno เข้า Paestum – Castelmezzano – Matera เข้า Alberobello เที่ยว Puglia แล้วขับกลับไปแวะพักที่ Naples ก่อนเข้าโรม ก็จะได้รูทที่ไม่ซ้ำและบรรยากาศหลากหลายค่ะ

อย่างส่วนตัวเราทริปนี้ เราเดินทางต่อมาจากเมือง Caserta ในตอนที่แล้ว ซึ่งในเวลาขับรถประมาณ 3 ชั่วโมง

นี่คือแผนที่การเดินทางทั้งหมดในทริปนี้ของเรา ตั้งแต่ Unseen Italy EP. 1 – 8 โดยหากใครไม่อยากขับรถจากโรม ก็สามารถบินมาเริ่มที่ Naples (เส้นสีน้ำเงิน) แล้วไปเป็นวงกลมแบบในรูป คือจะบินลง Bari และเที่ยวแค่กรอบสีแดงก็ได้ค่ะ

การเดินทางภายในแคว้น Puglia

หากไปหลายเมือง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เราศึกษามา นิยมเช่ารถขับค่ะ เพราะสะดวกรวดเร็วกว่า ไม่ต้องรอรถบัสหรือรถไฟ แต่จริงๆ เค้าก็มีรถบัสหรือรถไฟเกือบทุกที่นะ แต่รถไฟ มันจะเป็นรถไฟท้องถิ่น มักจะช้ากว่าการขับรถหรือนั่งบัสค่ะ นอกจากนี้ หากไม่สะดวกขับรถจริง ๆ ลองเข้าไปดูทัวร์แบบ Day-tour ตาม Getyourguide ก็ได้เช่นกันค่ะ

แผนการเดินทาง

เราอยู่ Puglia กันแค่ 2 วันค่ะ สั้นไปมากๆๆๆๆ ยังไม่ได้ไปอีกหลายที่ และคิดว่าควรชิวกว่านี้ แต่แผนการเดินทางเราคือ

วันแรก : ออกจาก Caserta แคว้น Campagna ในตอนที่แล้ว ใช้เวลาขับรถ 3.5 ชั่วโมง
ทานอาหารเที่ยงที่เมือง Castellana Grotte และ แวะชมถ้ำใหญ่ Castellana Grotte (ส่วนตัวไม่ค่อยอินเท่าไหร่ ไปชมภาพแล้วตัดสินใจเองนะคะ)
ขับต่อไปอีก 20 นาที ถึงเมือง Alberobello อยู่เที่ยวที่นี่ช่วงบ่ายทั้งบ่าย (ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.)

Stay : Santarosa Relais ในเมือง Noci อยู่ห่างจาก Alberobello 15 นาทีค่ะ เมืองนี้ เป็นเมืองคนอยู่มาก ๆ ไม่ค่อยทัวริสตี้ เราชอบ มันน่ารัก เงียบ ๆ สงบดีค่ะ

วันที่สอง : ขับรถไปเที่ยว Lecce ช่วงเช้า (ใช้เวลาเดินทาง 1.5 ชม.) – ทานอาหารเที่ยงที่ Gallipoli (ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที) – เที่ยว Ostuni ช่วงบ่าย (ใช้เวลาเดินทาง 1.5 ชม.) แล้วพักที่บ้านพักแบบ Masseria ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมของที่นี่ค่ะ

Stay : Masseria Salamina ในเมือง Fasano

วันถัดไป ไปเที่ยวต่อที่ Matera ซึ่งที่นี่เป็นอีกหนึ่งใน A must มากๆ เขียนไว้ตอนถัดๆ ไปนะคะ

Lunch in Castellana Grotte

คำว่า Castellana Grotte เป็นชื่อเมืองนะคะ และก็เป็นชื่อถ้ำด้วย “Grotte (พหูพจน์ของ Grotto)” แปลตรงตัวว่า ถ้ำ เมืองนี้เป็นเมืองที่คนแวะมาชมถ้ำคาสเทลลาน่า ซึ่งเป็นถ้ำใหญ่ 2 อันเชื่อมกัน (เพราะมี 2 ถ้ำ เลยเรียกแบบพหูพจน์ว่า Grotte) ความลึกกว่า 2 กิโล มีหินงอกหินย้อยที่งดงามอลังการ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้น ส่วนตั๊วววว ส่วนตัว เราไม่ค่อยอินเท่าไหร่ค่ะ เลยแนะนำไม่ถูก ลองเอารูปไปเสิร์ชดูนะคะ

แต่ว่าเราก็มาแวะในตัวเมืองก่อน เพื่อทานอาหารเที่ยงค่ะ เมืองน่ารัก ไม่เละเทะวุ่นวาย

เรามาทานอาหารกันที่ร้าน Locanda Romanelli ร้านนี้แนะนำเลยค่ะ ขนาดเรียนอยู่อิตาลี ยังรู้สึกว่า เออ ร้านนี้ฟีลดี บริการดี มีความฮิปอยู่ รีวิวในกูเกิ้ลกับทริปแอดไวเซอร์ก็คะแนนสูงนะคะ

พิกัดร้าน : Via Sant’Onofrio 21, 70013 Castellana Grotte Italy

เมนูที่เราได้ทานวันนี้ มีสตาร์ทเตอร์เป็นไข่ทอดซอสทรัฟเฟิล ไข่แดงตรงกลางยังเยิ้ม ข้างนอกกรอบ ซอสครีมไม่หนัก เข้ากันดี ทีเด็ดอยู่ที่เมนดิช เป็นเนื้อลูกวัวตุ๋น ที่เรียกว่า Brasato เนื้อนุ่ม รสชาติเข้มข้น

Castellana Grotte

ที่ถ้ำคาสเตลาน่า มีการจัดการที่ดีค่ะ มีหัวหน้าไกด์ลงไปกันทีละกรุ๊ป ต้องเดินค่อนข้างเยอะ ส่วนพวกเราไปถึงแค่โถงแรก แล้วฝนตกเบาๆ เลย ตัดสินใจออกมากันค่ะ

Alberobello

มาถึงไฮไลท์ของแคว้น Puglia หนึ่งในหมู่บ้านที่เจ๋งและยูนี๊คที่สุดในประเทศอิตาลี ที่นี่คือ Alberobello หมู่บ้านทรงกรวยสีขาว รูปร่างแปลกตา และถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกเรียบร้อย

บ้านสีขาวๆ แบบนี้ เรียกว่า Trulli ค่ะ (เป็นพหูพจน์ของ Trullo ความหมายเดียวกัน) พอเราเดินเข้ามาในเมืองนี้ ก็จะเป็นบ้านแบบนี้เต็มไปหมดเลย

หลาย ๆ บ้านเปิดให้เข้าชมเป็นกึ่งๆ มิวเซียม บ้านส่วนใหญ่กลายเป็นร้านขายของที่ระลึก และ โรงแรม มากกว่าจะเป็นบ้านที่คนท้องถิ่นอาศัยอยู่จริงๆ แล้วค่ะ เดินไป มุมถ่ายรูปเพียบ

แล้วความพิเศษบ้านแบบ Trulli คืออะไร? คือสมัยก่อน บ้านที่ทุกคนเห็นเนี่ย เค้าไม่ใช้ปูนหรือวัสดุยึดเกาะเลยนะคะ บ้าน Trulli ทั้งหลัง สร้างขึ้นมาจากการก่อหินที่เรียกว่า dry stone ซึ่งเป็นหินที่พบได้ในหุบเขา Itria แถวๆ ที่ราบสูงที่หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่

หนึ่งในทฤษฎีที่ไกด์เล่าให้ฟังแล้วรู้สึกว่าล้ำมากคือ เหตุผลที่เค้าไม่ใช้อะไรยึดเกาะ เพราะเอาไว้หนีภาษีจ้าาาา แถวนี้มีการเก็บภาษีเยอะ แล้วถ้าจะมีคนมาตรวจ ชาวบ้านก็จะหนีแล้ว ดึงหินออกให้บ้านถล่มลงไปเลย แล้วย้ายถิ่นฐานต่อไปโดยไม่เสียภาษีค่ะ

ทุกวันนี้ ก็ถูกปรับปรุงให้แข็งแรง และไว้ให้ชมเป็นมรดกโลกเป็นหลักแล้วล่ะค่ะ ทั้งนี้ ภายในของบ้านหลายหลัง ยังเปิดให้ชม และ มีหินที่ดึงออกได้ไว้สาธิตให้เราดูอยู่นะ

บรรยากาศภายใน บ้าน Trulli ที่เค้าอนุรักษณ์และจัดแสดงไว้ค่ะ

อย่างที่บอกว่า ทุกแคว้นมีอาหารประจำแคว้นของตัวเอง ที่ Puglia ก็มีค่ะ และเราก็ได้มีโอกาสมา Wine Tasting พร้อมทาน Anti pasti ที่เป็นอาหารดั้งเดิมของที่นี่

ชีสที่โด่งดังที่สุดของ Puglia จะเป็น Burrata ซึ่งเป็นชีสที่แพร่หลายทั่วไป แต่มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนแถวนี้แหล่ะ ซึ่ง Burrata ทำสดที่นี่ อร่อยมากกกกกจริง ๆ ค่ะ นอกจากนี้จะมี Hard cheese ชื่อ Caciocavallo ค่ะ ชนิดที่ว่า พอเพื่อนคนอิตาเลียนรู้ว่าจะมาปูเลีย ก็จะบอกให้ อย่าลืมทาน

ส่วน Cold cuts ต้องยกให้ Soppressata เป็นเหมือนซาลามี่แห่งภาคใต้ค่ะ อาหารอิตาเลียนใต้จะรสจัดกว่า แล้วก็มี Capocollo ที่ต้องขอทานทุกวัน

ส่วนขนมวงๆ คือ Taralli ซึ่งเป็นเสมือน Grissini (ขนมปังกรอบแท่งๆ แบบขาไก่) ของภาคใต้เลยค่ะ มาถึงภาคใต้ต้องทาน ทานมันส์มาก หยุดไม่ได้

ไวน์ดีๆ ก็เยอะนะคะ ปลูกทั่วแคว้น Puglia เลย

ลองอ่านป้ายดูนะคะ หลายๆ ร้านจะให้ขึ้นไปชมวิวจากระเบียงได้ฟรี ซึ่งเค้าจะมีกล่องทิป หรือ จะซื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ค่ะ

ใครขับรถมา ปากทางเข้าหมู่บ้านจะมีที่จอดรถใหญ่เลยค่ะ จากตรงนี้ต้องเดินเอา ขึ้นอยู่กับว่าชอบเที่ยวสไตล์ไหน อย่างเราชอบเดิน ชอบดูโน่นดูนี่ ช้าๆ ก็อยู่ได้ทั้งวันเลยค่ะ

Noci

(อ่านว่า โนชี่) เมืองนี้ไม่ได้เป็นไฮไลท์หลักอะไร เราแค่มาพักกันที่นี่ เพราะมีโรงแรมที่โอเคทั้งเรื่องราคาและคุณภาพ แต่กลับเป็นว่า เป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่รู้สึกถึงความทัวริสตี้เลย อิตาเลียนมากกก เมืองสะอาด ไม่วุ่นวาย บรรยากาศดี มีร้านน่ารักๆ หลายร้านเลย

มื้อเย็นนี่ typical Pugliese มากกกก ตั้งแต่ Taralli,ชีส ยันพาสต้า Orecchiete ซึ่งเป็นของดี Puglia เช่นเดียวกัน แป้งสด เป็นพาสต้าที่ใช้ Durum Wheat (เป็นข้าวสาลีชนิดนึง คือ ข้าวสาลีแต่ละอันมันก็มีรสเฉพาะใช่มั้ยคะ ไม่ว่าจะเป็น บาร์เล่ ราย โอ้ต อย่าง Durum มันก็จะมีรสเฉพาะ) จะมีเทกเจอร์หยาบๆ แต่รู้สึกได้ถึงความสด

มื้อเย็นวันนี้ เราทานกันที่ร้าน Montegrappa ในเมือง Noci เลยค่ะ

คืนนี้เราพักกันที่ Santarosa Relais เป็นโรงแรมบูทีคเล็ก ๆ (แต่มีลิฟท์นะคะ) ซึ่งเค้ายังคงบรรยากาศแบบ Trulli ไว้ในห้อง เราอยู่ห้องชั้นบนสุด อ่างอาบน้ำใหญ่แล้วเห็นวิวทั้งเมืองเลย บรรยากาศดี สะอาด

ทางไปจอง >> คลิ๊กที่นี่