[รีวิว] รถไฟข้ามประเทศ จอร์เจีย – อาเซอร์ไบจาน [Tbilisi-Baku Train]

หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวกลุ่มประเทศ เทือกเขาคอเคซัส อย่าง จอร์เจีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน หนึ่งในวิธีการเดินทางที่สะดวก นั่นก็คือการเดินทางโดยรถไฟ โดยครั้งนี้ เราได้มีโอกาสนั่งรถไฟแบบ Night Train หรือ รถไฟนอน จากเมือง Tbilisi ประเทศจอร์เจีย ไปยัง เมือง Baku ประเทศอาเซอร์ไบจาน ค่ะ

ย้อนความเดิมตอนที่แล้ว เราตั้งใจมาเที่ยวจอร์เจีย แต่เนื่องจากว่าตั๋วขากลับ ถ้ากลับจากอาเซอร์ไบจาน ราคาจะถูกลงไปหลายพันบาท เราเลยคิดว่าเป็นการดีที่เราจะได้เที่ยวอาเซอร์ไบจานด้วย เพราะเราอยากไปทุกประเทศในกลุ่มเทือกเขาคอเคซัสนี้อยู่แล้ว

ยิ่งทราบมาว่า ประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน มีข้อพิพาทกันอยู่ว่าด้วยดินแดน Nagorno-Karabakh ทำให้ผู้คนทั้ง 2 ประเทศนี้ไม่สามารถไปมาหาสู่กันได้ ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เท่าที่หาข้อมูลมา หากไม่เคยเข้าไปในเขต Nagorno-Karabakh ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ทางตม.ของอีกประเทศ จะถามละเอียด เช็คเอกสารกับกระเป๋าเดินทางมากกว่าปกติเป็นพิเศษ

ส่วนเราเดินทางจาก จอร์เจีย ไป อาเซอร์ไบจาน โดยไม่ได้ไปอาร์เมเนียเลย เลยไม่ได้มีเอกสารอะไรต้องเตรียมมากนอกจากวีซ่าออนไลน์ที่ปริ้นท์ใส่กระดาษเอสี่ มา 1 แผ่นเท่านั้น


ทำไมเราถึงเลือกเดินทางโดยรถไฟ?

ทั้งๆ ที่จาก ทบิลิซี่ ไป บากุ ตั้งอยู่ห่างกันมากถึงเกือบ 600 กม. จริงๆ ใช้เวลาบินเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ด้วยความที่เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางที่สามารถเดินทางข้ามคืนบนรถไฟตู้นอนทั้งขาไปและขากลับ ทำให้ ประหยัดที่พัก 1 คืน และ ไม่เสียเวลาที่จะเดินทางจากตัวเมือง ไปยังสนามบิน และ สนามบินเข้าเมือง และต้องเผื่อเวลาเช็คอินอีก ส่วนตัวเรา เป็นคนอยู่ง่าย นอนง่าย หากใครมีปัญหาเรื่องห้องน้ำกับที่นอน ก็คงไม่เหมาะนัก

ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่ตั๋วเครื่องบินลง Baku มักจะถูกกว่าค่อนข้างเยอะ ทำให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่เราเจอบนรถไฟ ต่างก็เลือกที่จะลง Baku แล้วนั่งรถไฟไปเที่ยวจอร์เจียกันหลายคนเลยค่ะ

จริงๆ นี่เป็นครั้งที่ 5 แล้ว ที่เรานอนบนรถไฟ ข้ามประเทศ ผ่านตม. กันแบบงัวเงียๆ อยู่บนที่นอน รถไฟที่นี่ก็เกรดประมาณรถไฟ Intercity ในยุโรป

รถไฟสายนี้ ออกจาก ทบิลิซี่ 20.35 น. และถึงเมืองบากุ 9.00 น. ตอนเช้าค่ะ

//ส่วนถ้าเป็นการเดินทางจาก เมืองหลวงของอาเมเนีย อย่าง Yerevan มา Tbilisi จะเลือกใช้รถตู้ก็ได้นะคะ เพราะระยะทางไม่ไกลมาก แต่มีรถไฟนอนเหมือนกัน


วีซ่า อาเซอร์ไบจาน

ประเทศอาเซอร์ไบจานต้องขอวีซ่านะคะ แต่ของ่ายมากกกก ง่ายประมาณช้อปปิ้งออนไลน์อ่ะค่ะ แค่เข้าเว็ป กรอกข้อมูล อัพโหลดรูปหน้าพาสพอร์ทรูปเดียว กดจ่ายเงิน รอ 3 วัน วีซ่าก็จะส่งมาทางอีเมล์ เราก็สามารถปริ้นท์ไปผ่านตม. บนรถไฟได้แล้วค่ะ

เราเขียนวิธีการขอไว้อย่างละเอียด คลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ

ส่วนประเทศจอร์เจีย ฟรีวีซ่า 365 วันค่ะ


การซื้อตั๋วรถไฟ

สามารถมาซื้อที่สถานีรถไฟได้เลยนะคะ เนื่องจากการรถไฟจอร์เจีย ไม่มีเปิดขายตั๋วออนไลน์ทางเว็ปไซต์ค่ะ แต่ว่าการรถไฟอาเซอร์ไบจาน จะมีขายบนเว็ปไซต์ค่ะ ยังไง แนะนำไปซื้อที่สถานีรถไฟ ง่ายสุดค่ะ

เท่าที่หาข้อมูลมา หลายๆ คนจะบอกว่า ไปซื้อตั๋วก่อนเดินทางได้เลย หากไม่ใช่ช่วงเทศกาลของที่โน่น แต่เพื่อความปลอดภัยหายห่วง เราก็ไปซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางไปถึงจอร์เจียค่ะ ซึ่งเป็นการซื้อล่วงหน้าประมาณ 3 วัน

การซื้อตั๋วรถไฟจำเป็นต้องมีพาสพอร์ทตัวจริงเท่านั้นนะคะ ไม่งั้นเค้าไม่ขายให้ค่ะ

ช่องขายตั๋วจะอยู่บนชั้น 3 ของอาคารสถานีรถไฟ ขึ้นบันไดเลื่อนมา กดบัตรคิวได้เลยค่ะ

คุณป้าที่ขายตั๋วให้เรา พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ก็พอสื่อสารรู้เรื่องค่ะ บอกแค่ไป Baku , Night และ วันที่จะเดินทาง

ส่วนคุณป้าก็จะถามเราด้วยภาษามือว่าจะเอาห้องแบบไหน มีเคบินแบบ 6 เตียง, 4 เตียง และ 2 เตียง ซึ่งเรากับเพื่อนก็เลือกแบบ 4 เตียง เพราะประหยัดกว่าค่ะ ตก 53.25 ลารี่ต่อคน ถ้าเป็นแบบ 2 เตียง จะประมาณแปดสิบลารี่ ค่ะ ส่วน 6 เตียงก็ถูกกว่านี้อีก

สุดท้ายเราก็ขอคุณป้าว่า เอาเตียงข้างล่างนะ โดยทำท่านอน แล้วชี้นิ้วลง บอกว่า down ป้าก็เข้าใจค่ะ

ตั๋วออกมา ป้าพิมพ์ภาษารัสเซียล้วนๆ เลยค่ะ ชื่อเราก็พิมพ์เป็นภาษารัสเซีย เราตรวจวันเวลา สถานีต้นทาง-ปลายทาง กับป้าอีกรอบ ก็เรียบร้อยค่ะ

ตอนแรกเห็นป้ายบอกรถไฟ ตกใจ แต่อีกแป้ปก็เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษค่ะ


การเดินทางและผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง 

ในตั๋วเราจะระบุ หมายเลขรถไฟ (Tbilisi ไป Baku เป็นรถไฟหมายเลข 37 ค่ะ) ตู้โบกี้ และ เลขที่นั่ง

เราสามารถไปเช็คจากป้ายได้ว่า รถไฟจะออกจากชานชาลาไหน ซึ่งเราออกจากชานชาลา 1 ค่ะ

ชานชาลา 1 จะอยู่ชั้น 2 ส่วน ชานชาลา 2, 3 จะอยู่ชั้น 3 ค่ะ

บนรถไฟไม่มีตู้อาหารนะคะ ซื้อเสบียงก่อนขึ้นรถไฟเท่านั้น เราซื้อตุนมาเรียบร้อยจากซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ Liberty Square แล้ว

เรามาถึงประมาณทุ่มครึ่ง 1 ชั่วโมงก่อนที่รถไฟจะออก ก็จะเห็นผู้คนมารอกันแล้ว ส่วนรถไฟ ใช้วิธีเดียวกับยุโรปทุกอย่างค่ะ เช็คก่อนว่า ใช่รถไฟขบวนที่จะไปรึป่าว เพราะบางที ก็อาจจะมีรถไฟที่ออกก่อนหน้าจอดอยู่

เราโชคดีหน่อย คุณป้าที่ดูแลโบกี้เรา เดินไปมาอยู่แถวขบวนอยู่แล้ว พอดูตั๋วเรา คุณป้าก็จัดแจงดูแลเราทุกอย่าง ดูแลจริงๆ นะคะ ตั้งแต่ตอนนี้ ไปจนถึงลงรถไฟตอนเช้าที่ Baku เลย

คุณป้าไม่พูดภาษาอังกฤษเลยนะคะ แต่น่ารักมาก เราประทับใจมาก คือป้าเหมือนครูปกครองอ่ะ เหวี่ยงๆ ดุๆ พูดภาษาอะไรไม่รู้มาตลอดทาง แต่คอยดูแลทุกเรื่อง จนตอนที่ถึงปลายทาง ป้าก็ลงมายืนส่งทุกคน มาคอยจับมือ อวยพร

ตอนแรกเหมือนรถไฟยังไม่เรียบร้อย ป้าก็ทำท่าบอกให้รอตรงนี้ เราก็ไปเดินซื้อน้ำ ไปช้อปปิ้ง (ที่สถานีรถไฟจะมีร้านเสื้อผ้ายี่ห้อที่แพร่หลายในยุโรปราคาไม่แพงอย่าง LC Waikiki กับ Terranova อยู่ค่ะ) กลับมาป้าก็บอกว่า ขึ้นได้แล้วนะ ให้เรายกกระเป๋าขึ้น แล้วป้าก็เดินนำไปส่งที่เคบินของเรา

เราเลือกเคบิน 4 เตียง เพราะเท่าที่เราอ่านมา มันมักจะไม่เต็ม แต่เราก็ต้องมาลุ้นๆ หน้างาน ว่าจะมีเพื่อนร่วมห้องอีกรึป่าว แต่ไม่เป็นไร เรานอนเตียงล่าง ซึ่ง เก็บของ นั่งกินข้าวได้ สบายๆ

หมอน ที่นอน และ ผ้านวม เดี๋ยวคุณป้าจะนำปลอกมาให้ใส่อีกทีค่ะ ต้องใส่เองนะคะ แต่เป็นผ้าคลุมที่มาในถุงซีลดูสะอาดดีค่ะ

ก่อนรถไฟออก ป้าก็จะมาแง้มดูว่า เรานั่งถูกที่เรียบร้อยมั้ย เช็คว่าเราเตรียมวีซ่ามาเรียบร้อยใช่มั้ย เพราะถ้าใครไม่มีวีซ่าที่ปริ้นท์มา ก็จะผ่านไม่ได้ ต้องโดนไล่ลงนะคะ

ซักพัก ก็เอา ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวม และ ผ้าขนหนูขนาดเล็ก มาให้

เสบียงที่เราเตรียมมากันในวันนี้ค่ะ พวกสลัดที่นี่เราทานง่ายมากเลย ชอบสลัดโอลีฟ กับ พวกเมนูมะเขือม่วง กินเกลี้ยงเลยค่ะ เนคตารีนก็อร่อยฉ่ำมาก

นั่งออกมาแค่ชั่วโมงเดียวก็ถึงสถานีสุดท้ายของจอร์เจีย ก่อนข้ามด่านไปยังอาเซอร์ไบจาน แล้วค่ะ

เรายังนั่งกินข้าวดูหนังเพลินๆ อยู่เลย คุณป้าก็โผล่หน้าเข้ามาแล้วบอกว่า “พาสพอร์ท” “วีซ่า” ให้เราเตรียมไว้ค่ะ ตอนนั้นเราอยู่ในสภาพชุดนอน แบบเสื้อยืดกางเกงขาสั้นย้วยๆ ป้าก็ทำท่าแบบ แต่งตัวหน่อย ตอนแรกนึกว่าต้องแต่งตัวผ่านตม. แต่ว่าไม่ใช่ค่ะ

คือ จนท. ตรวจคนเข้าเมืองฝั่งขาออกเนี่ย เค้าก็จะเข้ามา เก็บพาสพอร์ทและวีซ่าอาเซอร์ไบจาน ไม่ได้ถามอะไร แค่ทวนชื่อแล้วก็มองหน้าแว้ปเดียว ก็ผ่านไปตู้ถัดไปแล้ว เรายังไม่ได้แต่งตัวเลย อยู่ในสภาพแบบชุดนอน และหูฟังยังคาอยู่หนึ่งข้าง

สรุปว่า พอจนท. มาเก็บพาสพอร์ทไปแล้วเนี่ย เค้าจะนำเข้าไปดำเนินการภายในอาคาร ซึ่งเราก็แค่ต้องรอ แต่รอในรถไฟมันหายใจไม่ออกค่ะ แอร์ทำงานเฉพาะเวลารถไฟวิ่ง ถ้าจอดอยู่นิ่งๆ รู้สึกอึดอัด ที่คุณป้าบอกให้แต่งตัว เพราะจะให้ลงไปรอข้างล่างนั่นเอง แต่ไม่ได้บังคับนะคะ จะรออยู่ในเคบินก็ได้

เราลงมาข้างล่าง ก็จะพบกับผู้โดยสารร่วมโบกี้เกือบทุกคนเลยค่ะ ตรงนี้ไม่มีอะไรทำ ทำได้แค่รอ มีซุ้มขายน้ำกับขนมบ้านๆ เล็กๆ ช่วงนี้เราก็จะได้เริ่มทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ เราได้ไปรู้จักกับแก๊งค์ชาวจีนที่โตในยุโรป หลังๆ เริ่มเอาเสบียงขนมมาแบ่งกัน รถไฟจะจอดที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ เพราะตม. ต้องสแตมป์พาสพอร์ทของผู้โดยสารทั้งขบวนเลย

พอจะต้องกลับขึ้นไป คุณป้าก็จะต้อนทุกคนขึ้นรถ และเดินเช็คว่าทุกคนอยู่ในโบกี้ค่ะ เค้าจำคนทั้งโบกี้ที่เค้าต้องดูแลได้จริงๆ นะคะ จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็จะเอาพาสพอร์ทมาคืนให้แต่ละคน เป็นอันเสร็จพิธีฝั่งจอร์เจียค่ะ

รถไฟวิ่งมาอีกประมาณ 15 นาที เราก็มาถึงฝั่งอาเซอร์ไบจาน แล้วค่ะ

เมื่อมาถึงฝั่งอาเซอร์ไบจาน เราก็นั่งกินขนม ดูหนังอยู่ อยู่ๆ เจ้าหน้าที่ก็เปิดประตูมา ขอพาสพอร์ทกับวีซ่า เช่นเคย เค้าทำท่าจะสัมภาษณ์ ซึ่งเรากำลังจะลุกมาจากที่นอน ถอดหูฟัง ตม.ก็ยื่นมือมาหยิบพาสพอร์ทที่เราวางไว้บนโต๊ะเอง แล้วทำมือแบบปรางค์ห้ามญาติ อารมณ์ว่านอนดูต่อเถอะไม่เป็นไร แล้วตม.ก็เดินออกไป

ช่วงนี้เราเลยลุกขึ้นมานั่งสแตนบาย เปิดประตูเคบินไว้ ซักพัก ก็จะมีเจ้าหน้าที่เอาเครื่อง อารมณ์เครื่องตรวจระเบิดมา แกว่งผ่านๆ ในห้อง ไม่พูดไม่จา แล้วก็มีทหารเดินมา มองหน้า ถามว่ามาจากที่ไหน แล้วก็เดินไป

ระหว่างที่เรารอ ตม. ขึ้นมาสแตมป์พาสพอร์ท ครั้งนี้ คุณป้าไม่ให้ผู้โดยสารลงจากรถไฟ ทุกคนจึงรอแบบเอาหน้าไปจ่อๆ อยู่ตรงหน้าต่างที่เปิดได้นิดหน่อย

จากนั้น คุณป้าก็จะเดินเรียกผู้โดยสารทีละคน ให้เข้าไปในเคบินนึง บนรถไฟโบกี้เดียวกับเรา เป็นเคบินเปล่าที่เจ้าหน้าที่ตม. นั่งอยู่พร้อมโน้ตบุ๊คและกล้องเว็ปแคมเล็กๆ เจ้าหน้าที่ ทวนแค่ชื่อ ถามว่าเรามาจากที่ไหน มาเที่ยวหรอ เคยไปอาร์เมเนียรึป่าว แล้วก็ถ่ายรูป เป็นอันเสร็จพิธี

พอตม. ทำตรวจคนเข้าเมืองที่ตู้โบกี้เราเสร็จ เค้าก็ย้ายไปตู้อื่นต่อ ช่วงนี้ เค้าก็จะปล่อยทุกคนมารอด้านล่างได้แล้ว

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้น รถไฟก็จะวิ่งยาวๆ มุ่งหน้าสู่เมือง Baku ประเทศอาเซอร์ไบจาน โดยที่เราสามารถ นอนหลับยาวๆ ล๊อกประตูเคบินได้เลยค่ะ

รถไฟขบวนนี้ จะแวะที่เมืองใหญ่ระหว่างทาง เช่นเมือง Ganja ตอนเวลา 2.46 น. แต่เราไม่รู้เรื่องค่ะ หลับยาวๆ มาตื่นอีกทีประมาณ 8 โมง ที่คุณป้าเริ่มมาเคาะห้อง และทำท่าล้างหน้าแปรงฟัน

เนื่องจากเราไม่ค่อยชินกับห้องน้ำในรถไฟเท่าไหร่ จึงขอผ่าน

ซักพัก คุณป้าก็จะมาเก็บ ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวม และ ผ้าขนหนูเช็ดหน้าค่ะ

และแล้ว 8.50 น. เราก็มาถึง สถานีรถไฟ Baku ประเทศอาเซอร์ไบจาน คุณป้าจะรอส่งทุกคนอยู่ด้านล่าง เอาจริงๆ ป้าเค้าจะหน้าบึ้งๆ มาถึงก็พูดภาษาอะไรไม่รู้ใส่เราตลอดทาง แต่ตรงนี้ เค้าก็ยิ้มแย้ม เค้าจับมือเรา กอดเรา แล้วก็อวยพรแบบดูเอ็นดูพวกเรามาก — ถึงทุกวันนี้เรายังไม่รู้เลยว่า คุณป้าเค้าพูดภาษาอาเซอร์ไบจาน หรือภาษาจอร์เจีย หรือภาษารัสเซีย อยากรู้มากๆ

ตารางรถไฟ Baku-Tbilisi สาย 37-38

นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ การนอนข้ามประเทศที่สนุกดีค่ะ นี่ยังไม่ใช่ครั้งที่เรางัวเงียที่สุด เพราะเราเคยผ่านตม.ในสภาพที่ยังนอนอยู่โผล่มาแค่หน้าแบบตาหยีๆ ยังไม่ตื่นกับมือที่ยื่นพาสพอร์ท ส่วนครั้งนี้ถือเป็นการนอนดูหนัง ผ่านตม.ไปค่ะ


ตอนถัดไป เราจะพาไปเที่ยวเมือง Baku ค่ะ เป็นเมืองที่มีความผสมผสาน มีอะไรน่าสนใจเยอะมาก เป็น contrast ระหว่างความเก่ากับความโมเดิร์น ระหว่างศาสนาวัฒนธรรม กลายเป็นส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์มาก อ่านต่อได้ที่นี่
[เที่ยว อาเซอร์ไบจาน ด้วยตัวเอง] ‘Baku’ เมืองหลวงแห่งความหลากหลายที่ต้องมาให้ได้ซักครั้ง

บทความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรีวิว ทริปจอร์เจีย-อาเซอร์ไบจาน ผ่านบาห์เรน ซึ่งสามารถติดตามอ่านได้ดังนี้

[เที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง Ep.1] รู้จัก จอร์เจีย และตอบคำถามที่ทุกคนสงสัย
[เที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง Ep.2] แผนการเดินทาง และ ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวจอร์เจีย
[เที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง Ep. 3] วันแรกใน Tbilisi ฝั่งใหม่ ย่านฮิปๆ ที่ต้องไปเช็คอิน
[เที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง Ep. 4] ถนนประวัติศาสตร์มุ่งหน้าสู่เทือกเขาคอเคซัส กับที่พักวิวหลักล้าน
[เที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง Ep.5] ‘Gori’ บ้านเกิดสตาลิน เมืองโบราณในหิน และการทำไวน์จอร์เจีย
[เที่ยวจอร์เจียด้วยตัวเอง Ep. 6] ‘Tbilisi’ เมืองหลวงทรงสเน่ห์ เพชรเม็ดงามแห่งดินแดนคอเคซัส

[เที่ยว อาเซอร์ไบจาน ด้วยตัวเอง] ‘Baku’ เมืองหลวงแห่งความหลากหลายที่ต้องมาให้ได้ซักครั้ง

[รีวิว] Gulf Air สายการบินแห่งชาติบาห์เรน กับเส้นทางบิน กรุงเทพ-บาห์เรน-ทบิลิซี่-บากู
[Bahrain Transit] เที่ยวบาห์เรน แบบสั้นๆ ระหว่างแวะเปลี่ยนเครื่องกับสายการบิน Gulf Air

วิธีการขอ วีซ่า อาเซอร์ไบจาน ออนไลน์ สะดวก ง่ายและประหยัด [Azerbaijan E-Visa]

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!

หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ หรือไปตามไอจี @eatchillwander อัพเดทกันแบบเรียลไทม์ขอบคุณมากๆ ค่า



error: