ท่ามกลาง ซอย เอกมัย 12 เราได้ก้าวเข้ามายังบาร์ที่ตกแต่งอย่างเรียบหรู เท่ และ มีความสงบ ตามแบบฉบับของปรัชญาญี่ปุ่น ที่นี่ไม่ใช่บาร์นั่งดื่ม หรือ ซูชิบาร์ เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ Hibiki Omakase & Bar นั้น เป็นร้านโอมากาเสะร้านใหม่ที่มีดีกรีและแนวคิดที่ไม่ธรรมดา ตอบฟังก์ชั่นทั้งเรื่องของการมานั่งทานซูชิโอมากาเสะชั้นดี รวมไปถึงการนั่งดื่มทั้งก่อนและหลังมื้ออาหาร โดยคอนเซปต์ของซูชิโอมากาเสะ ในร้าน Hibiki Omakase & Bar จะออกไปทางแนวดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีความเป็น Edomae อยู่มากพอสมควร ไม่แต่งน้าซูชิหวือหวามากแบบที่ร้านโอมากาเสะมัยใหม่นิยมกัน แต่จะเน้นไปที่เรื่องของคุณภาพวัตถุดิบและกรรมวิธีในการดึงรสชาติของปลาให้ออกมาดีที่สุด สำหรับตัวเชฟ Tsukasa นั้นเคยเป็นเชฟปั้นซูชิอยู่ที่ร้านระดับมิชลินสตาร์ ชื่อ Mizumi ที่โรงแรม Wynn Palace Cotai ซึ่งเป็นร้านพี่น้องกับร้าน Mizumi ในโรงแรม Wynn Macau ซึ่งได้รับรางวัล Michelin Star 2 ดาวมาเป็นเวลานาน และเป็นหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในมาเก๊า ส่วนตัวเราได้เคยไปทานอาหารที่ร้าน Mizumi… [READ MORE…]
บนชั้นสอง ของ Nihonmachi Mall ที่เป็นที่ตั้งของร้านอาหารญี่ปุ่นจำนวนมากหลากหลายสไตล์ ที่นี่ มีร้านโอมากาเสะชั้นดีซ่อนตัวอยู่ และที่นี่ ไม่ใช่ร้านซูชิโอมากาเสะทั่วไป แต่เป็น “โอมากาเสะสไตล์คัปโปะ” ซึ่งเป็นการเสิร์ฟอาหารตามใจเชฟที่มีมากกว่าแค่ปลาดิบและซูชิ วันนี้ เราจะพามาที่ร้าน “Kappo Kazunobu”(คัปโปะ คาสึโนบุ) ร้านคัปโปะโอมากาเสะ ระดับพรีเมียม ร้านใหม่ ที่ดีกรีเชฟไม่ธรรมดากันค่ะ โดยคำว่าอาหารสไตล์ “Kappo” นั้น หมายถึง “to cut and to cook” จึงเป็นร้านอาหารที่มีอาหารหลากหลาย ทั้งของดิบ ของนึ่ง ของทอด ของย่าง มาเสิร์ฟเป็นคอร์สๆ ซึ่งจะต่างจากอาหารประเภทไคเซกิก็คือ เชฟจะเป็นผู้ปรุงอาหารในแต่ละคอร์ส ตรงหน้าเรา (เหมือนเคานเตอร์ซูชิ) และนำมาเสิร์ฟเราโดยตรงนั่นเอง ข้อดีของร้านแบบนี้ คือ เชฟจะได้โชว์เทคนิคที่หลากหลาย โดยเฉพาะอาหารปรุงสุก บรรยากาศภายในร้าน ก็สมกับเป็นร้านโอมากาเสะระดับพรีเมียม เพียงก้าวผ่านประตูเข้ามา ก็จะพบกับทางเดินเข้ามาอย่างเป็นส่วนตัว แตกต่างจากบรรยากาศคึกคักภายนอก ก่อนที่จะมาถึงเคานเตอร์ ที่เราจะได้นั่งรับประทานอาหาร และสามารถพูดคุยกับเชฟ ได้อย่างเป็นกันเอง ที่บอกว่าดีกรีไม่ธรรมดานั้น… [READ MORE…]
ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเนื้อ หรือ สายซีฟู้ดปิ้งย่าง ที่ Bugendai Teppanyaki ก็พร้อมยกระดับประสบการณ์การทานเทปันยากิของคุณ ด้วยเทปันยากิพรีเมียมในราคาคุ้มค่า มาพร้อมกับลีลาการทำอาหารสดๆ ทั้งจุดไฟ ควงอุปกรณ์ เรียกได้ว่าเป็น เทปันยากิลีลา ที่ทำให้เราตื่นเต้นและร้องว้าวได้ตลอดมื้อเลยค่ะ ร้าน Bugendai Teppanyaki ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ฝั่งแมคโดนัลด์ ในศูนย์การค้า เดอะไนน์ พระราม 9 ข้างๆ ร้าน Kabocha เลยค่ะ มาค่ะ จับจองที่นั่งเคานเตอร์ พร้อมชมลีลาเชฟกันเลย! ที่นี่มีเนื้อให้เลือกหลากหลาย จะใช้เป็นเนื้อวากิวเกรด A4 เป็นหลัก ซึ่งส่วนตัวเราค่อนข้างเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเวลาทานเนื้อ A5 เป็นสเต๊กหนาทั้งชิ้น เราคิดว่าไขมันมันเลี่ยนหนักเกินไป เนื้อวากิว A4 มักจะให้สัมผัสได้ดีกว่าสำหรับการทานแบบนี้ ในบรรดาวากิว A4 ที่ Bugendai เลือกมา ก็มาจากแหล่งวากิวชื่อดังของญี่ปุ่น ตั้งแต่เนื้อ Kobe, Miyasaki, Iwate, Saga ไปจนถึง… [READ MORE…]
ประสบการณ์การทานเนื้อที่ดีที่สุดหลายๆ ครั้งของเรา มักจะเกิดขึ้น เมื่อไปร้านที่ใช้เนื้อที่ไม่ผ่านกระบวนการแช่แข็ง มีเชฟมาย่างหรือทำหม้อร้อน ด้วยอุณหภูมิและจังหวะที่ถูกต้องทีละชิ้น ซึ่งประสบการณ์แบบนี้ ค่อนข้างหายากในเมืองไทย เราจึงดีใจมากๆ ที่มีร้าน Homura Wagyu Omakase ร้านโอกามาเสะเนื้อ ที่สั่งเนื้อวากิวสดๆ ยกตัว และ เลือกแต่ละส่วนมาทำเป็นเมนูที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเนื้อส่วนนั้น พร้อมการดูแลจากเชฟอย่างใกล้ชิด ในแบบโอมากาเสะนั่นเอง ร้าน Homura Wagyu Omakase มีการจัดร้านที่ดูคล้ายร้านซูชิโอมากาเสะทั่วไป โดยมีที่นั่งสูงสุด 12 ที่นั่งด้วยกัน แต่จะมีส่วนที่แตกต่างคือ ตรงเคาเตอร์ระหว่างสึเคบะกับลูกค้านั้น จะเป็นพื้นทรายสำหรับจุดถ่านย่างเนื้อกันอย่างครุกรุ่น และหอมหวลกันอยู่ตรงหน้าเลยทีเดียว Spoiler Alert : Homura Wagyu Omakase เป็นประสบการณ์การทานเนื้อที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ในเมืองไทย สำหรับเราในขณะนี้ และทำให้เราลืมร้านเนื้อย่างร้านอื่นไปเลย! Homura Wagyu Omakase นั้นเกิดจากความรักในการรับประทาน “เนื้อวากิว” ของเจ้าของร้านอย่างแท้จริง โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับร้าน “โอมากาเสะเนื้อ” นั้น จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก “เนื้อ” โดยร้าน Homura… [READ MORE…]
ในยุคที่กรุงเทพฯ มีร้านโอมากาเสะเกิดใหม่ขึ้นมากมาย เรามักจะเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วอะไรคือความแตกต่างของร้านโอมากาเสะแต่ละร้าน แต่เมื่อได้ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเพลิดเพลินไปกับดินเนอร์โอมากาเสะที่ร้าน Mono Sei (โมโน เซอิ) เราแทบไม่มีคำถามนั้นขึ้นมาเลย เพราะร้าน Mono Sei มีเอกลักษณ์เป็นการรวบรวมเชฟชาวญี่ปุ่นฝีมือดีถึงสี่คนด้วยกัน ซึ่งเชฟแต่ละท่านจะถนัดในการทำอาหารต่างชนิด เพื่อให้ลูกค้านั้นได้ทานคอร์สอาหารที่ไม่ใช่แค่นิกิริซูชิ แต่รวมไปถึงอาหารชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ของนึ่ง ของต้ม หรือของทอด ที่จัดเต็มมาให้เราถึง 27 คอร์ส เต็มอิ่ม 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ร้าน Mono Sei ตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่ชั้น G โรงแรม Intercontinental ในส่วนของเมนูนั้น มีราคาเดียวคือ 12,000++ บาท ซึ่งถือว่าเป็นโอมากาเสะที่ราคาสูงเป็นอันดับต้นๆ ในเมืองไทย ณ ขณะนี้ เดินเข้าร้านมาเราจะพบกับ Furo หรือหม้อต้มน้ำสำหรับพิธีชงชา และกาเหล็ก Tetsubin สำหรับชงชาสวยๆ รวมไปถึงถ้วยชา Mino yaki วางอยู่ เราจะเห็นป้ายร้าน… [READ MORE…]
ในบรรดาเหล่าร้านซูชิโอมากาเสะที่เปิดขึ้นมากมายในกรุงเทพนั้น แต่ละร้านก็มีมาตรฐาน สไตล์ และ จุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป วันนี้เราได้มาทาน MASA – Otaru Masazushi ร้านซูชิจากเมืองที่คนไทยไปเที่ยวกันบ่อยๆ อย่าง โอตารุ บนเกาะฮอกไกโด แต่เราคิดว่า MASA – Otaru Masazushi นั้นน่าจะเป็นร้านโอมากาเสะเพียงร้านเดียวในเมืองไทยตอนนี้ที่เสิร์ฟซูชิ สไตล์ Ezo-mae หรือสไตล์ฮอกไกโด และนั่นทำให้ร้าน Masazushi นั้นมีความพิเศษและแตกต่างจากร้านโอมากาเสะร้านอื่นพอสมควรครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเคยได้ยินคำว่าซูชิสไตล์ Edo-mae หรือซูชิแบบ “เอโดะ” ซึ่งถือว่าเป็นซูชิแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ถือกำเนิดขึ้นในเมืองเอโดะ หรือโตเกียวในปัจจุบัน ในช่วงปี ค.ศ. 1820 ซึ่งในช่วงขณะนั้น การขนส่งและการเก็บรักษาวัตถุดิบยังทำได้ไม่ดีนัก ทำให้ซูชิสไตล์เอโดะนั้นใช้เพียงวัตถุดิบที่หาได้เฉพาะในอ่าวโตเกียวเท่านั้น และเน้นวิธีการปรุงที่ช่วยถนอมอาหารเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการดองน้ำส้ม การดองสาหร่าย (Kombujime) หมักเกลือ แช่ซอส เป็นต้น ในขณะที่โตเกียวมีซูชิ Edo-mae ทางตอนเหนือของประเทศ บนเกาะฮอกไกโด ก็มีซูชิสไตล์ Ezo-mae เกิดขึ้นเช่นกัน สิ่งที่แตกต่างหลักๆของซูชิแบบ… [READ MORE…]
ในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด 19 นั้น ร้านอาหารจะไม่สามารถให้นั่งรับประทานที่ร้านได้ เพื่อเป็นการลดการระบาดของไวรัส ทำให้หลายๆ ร้าน ต้องปรับตัว และเริ่มส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ โดยมีหลายร้านมากๆ ที่เรานึกภาพไม่ออกเลย ว่าจะสามารถ Delivery ได้อย่างไร หนึ่งในนั้นคือร้าน ซูชิโอมากาเสะ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเยอะมากในกรุงเทพมหานครในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ ทาง Eat Chill Wander ขอรวบรวมร้าน ซูชิ โอมากาเสะ ที่เปิดให้ เดลิเวอรี่ ในช่วงกักตัวโควิด 19 นี้ค่ะ (ข้อมูล ณ วันที่ 26 มีนาคม 2563) 1. SUSHI ICHIZU เชฟ Riku Toda เชฟมือหนึ่งของร้าน ได้ออกแบบ Omakase Don หรือ “ข้าวหน้าตามใจเชฟ” ซึ่งเชฟได้เลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ละวัน ปรุงอย่างพิถีพิถัน ที่สำคัญ เชฟยังศึกษาปัจจัยเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับการส่ง Delivery… [READ MORE…]
“Kintsugi” หรือ การเชื่อมรอยแตกด้วยทองนั้น เป็นศาสตร์โบราณของญี่ปุ่นในการซ่อมแซมสิ่งของที่แตกร้าวไม่สมบูรณ์ให้กลับมาเชื่อมต่อกัน เหลือเพียงรอยแผลเป็นสีทองให้รำลึกถึงความไม่สมบูรณ์ในครั้งอดีต ที่ให้เราได้ชื่นชมความงามที่ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมต่อรอยแตกร้าวนั้น นั่นเป็นปรัชญาที่ทำให้ เชฟ Jeff Ramsey แห่งห้องอาหาร Kintsugi by Jeff Ramsey ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์อาหารแนว Kaiseki ที่ย่อยสลายแบบแผนดั้งเดิมของอาหารแบบไคเซกิ และประกอบมันขึ้นมาอีกครั้งด้วยแนวคิดแปลกใหม่ แต่ยังคงเคารพและรักษาแบบแผนดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน จึงมีทั้งความคิดสร้างสรรค์ ความแปลกใหม่ และ ความเข้าใจวัตถุแบบแผนของอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นอย่างดี ตัวเชฟ Jeff Ramsey นั้น เป็นเชฟลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน เชฟมีประสบการณ์ทำอาหารภายใต้เชฟชื่อดังระดับตำนานมากมาย อาทิเช่น José Andrés และ Masayoshi Kazato ที่สำคัญยังเคยได้รับดาวมิชลินมาแล้วอีกด้วยที่ห้องอาหาร Tapas Molecular Bar ที่ Mandarin Oriental Tokyo ที่ทำให้เขาเป็นเชฟชาวอเมริกันคนแรก ที่ได้รับรางวัลระดับมิชลินในต่างประเทศ ทำให้เราคาดหวังกับอาหารมื้อนี้ไว้ค่อนข้างสูงทีเดียว สำหรับเมนูของห้องอาหาร Kintsugi by Jeff Ramsey นั้น แบ่งออกเป็น 3… [READ MORE…]
สำหรับสาวกร้านซูชิแบบ Omakase ถึงตอนนี้ทุกคนคงเคยได้ยินเสียงล่ำลือถึงร้านโอมากาเสะใหม่ล่าสุดในกรุงเทพฯ เจ้าของรางวัลมิชลินสตาร์ 2 ดาว ที่ส่งตรงมาจากเมืองโอซาก้าอย่าง Sushi Yoshi กันแล้วนะคะ ร้าน Sushi Yoshi นั้นตั้งอยู่ในโรงแรม W Bangkok และเป็นสาขาที่ 3 นอกประเทศญี่ปุ่นของเชฟ Hiroki Nakanoue แล้วค่ะ อะไรคือจุดเด่นของร้าน Sushi Yoshi ที่ทำให้ผู้คนากมายชื่นชอบ และโด่งดังกันนะ? คำตอบคือ นี่ไม่ใช่ซูชิ Omakase แบบ ดั้งเดิม Traditional ที่เราคุ้นเคยกันค่ะ ทางเชฟ Hiroki นั้นพยายามใส่ความคิดสร้างสรรค์ และใช้เทคนิกการปรุงอาหารแบบตะวันตก มาเสริมสร้างซูชิของเค้า เพื่อให้เมื่อเราทานแล้วรู้สึกสนุกและแปลกใหม่ เมื่อเข้าร้านมา เราจะพบกับ Sushi Bar ขนาด 12 ที่นั่ง บรรยากาศค่อนข้าง cozy แต่ไม่ทึบ เหมือนโอมากาเสะหลายๆ ร้านทั่วไป ด้านหลังเคาเตอร์ เป็นครัวเปิด ที่ใช้ประกอบอาหารอื่นๆนอกเหนือจากการแล่ปลา… [READ MORE…]
วัฒนธรรมการทาน Kaiseki เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เราชอบมากที่สุด เพราะเราจะได้เห็นความละเอียดอ่อน ประณีต ความใส่ใจ ที่สำคัญ ไปทุกฤดู เมนูไม่เคยเหมือนกันซักฤดู เพราะเชฟจะต้องใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และดึงรสชาติออกมาให้ได้ดีที่สุด ถ้าพูดถึงร้านอาหารญี่ปุ่น แนว Kaiseki ในเมืองไทยแล้ว หนึ่งในร้านที่เต็มที่เรื่องความประณีตและวัตถุดิบอันดับต้นๆ ของกรุงเทพ ต้องยกให้ ร้าน Kitaohji อันโด่งดัง ที่มีสาขาอยู่มากมายในประเทศญี่ปุ่น และได้เข้ามาในเมืองไทยกว่า 5 ปีแล้ว ภายใต้ความร่วมมือของบริษัทบุญรอด และร้าน Kitaohji ที่ต้องการจะนำร้าน Kaiseki เฉพาะทางมาให้คนไทยได้ลิ้มลองกันค่ะ โดยในช่วงแรกที่ร้านเปิดนั้น ทางร้านเสิร์ฟ Kaiseki เท่านั้น และได้ปรับให้มีเมนู A-La-Carte ในครั้งล่าสุดที่เราได้ไปรับประทานมา มีเมนูเด็ดๆ หลายจานเลยค่ะ ขับรถเข้ามาใน ทองหล่อ ซอย 8 ไม่เกิน 300 เมตร เราก็ถึงที่หมาย ก้าวแรกที่เดินเข้าร้านมา เราได้พบกับบรรยากาศความเงียบสงบ และความขลัง ของร้าน Kitaohji ที่ถอดแบบความเรียบหรูมาจากร้านแม่ที่โตเกียวมาอย่างไม่ผิดเพี้ยน Kaiseki… [READ MORE…]