[เที่ยว จอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 2] จาก King’s Highway สู่ Petra บนเส้นทางเก่าแก่นับพันปี
แน่นอนว่า หากมาถึงประเทศจอร์แดนแล้ว คงจะไม่มีใครพลาดที่จะไปดูนครสีกุหลาบอันโด่งดังอย่าง “เพตรา” แต่ระหว่างการเดินทางจากเมืองหลวงอย่าง กรุงอัมมาน ไปยัง นครเพตรา นั้น ยังมีเมืองและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ทั้งประวัติศาสตร์ที่เราได้ยินกันอย่างคุ้นหู ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าทางศาสนาอย่างโมเสส หรือ ประวัติศาสตร์สงครามครูเสด ไปจนถึงวิวทิวทัศน์แสนแปลกตาที่ทำเอาเรานั่งมองตลอดทาง
หากใครยังไม่ได้อ่านข้อควรรู้เกี่ยวกับการเที่ยวจอร์แดน สามารถคลิ๊กเพื่ออ่านตอนที่แล้วได้ที่นี่
Madaba
เราเริ่มเดินทางจากกรุงอัมมาน หรือ สนามบิน Queen Alia International Airport ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ก็จะมาถึงเมืองแรก เมืองมาดาบา
เมืองมาดาบาโด่งดัง เนื่องจากเป็นที่ตั้งของแผนที่โมเสคเก่าแก่ ที่ถูกทำขึ้นในศตวรรษที่ 6 และมีความสำคัญคือการเป็นแผนที่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ (The Holy Land) ที่เก่าแก่ที่สุดที่ค้นพบในขณะนี้ ซึ่งฉบับเต็มๆ ประเมินว่ามีการใช้โมเสคประมาณหนึ่งล้านชิ้น โดยที่เราเห็นจะเป็นส่วนที่ถูกขุดค้นพบ ภายในโบถส์เซนท์จอร์จแห่งนี้เมื่อปี 1884 ที่ผ่านมานี้เอง
โดยแผนที่โมเสคชิ้นนี้ คาดว่ามีขนาดออริจินอลใหญ่ถึง 15.5 x 5.5 เมตร ซึ่งบนแผนที่เราจะเห็นตั้งแต่เลบานอนไปจนถึงลุ่มแม่น้ำไนล์ แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่นี่เป็นแผนที่ของ Holy Land ที่ตรงที่สุด ก่อนที่เทคโนโลยีการสำรวจทำแผนที่แบบปัจจุบันจะถูกสร้างขึ้นมา
หลังจากออกจากโบถส์ St. George เราก็ไปต่อกันที่ Madaba Archeological Park ซึ่งเป็นสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเก็บรักษาและแสดงวัตถุโบราณจากยุคโรมัน โดยที่นี่มีพื้นโมเสคสมัยไบแซนไทน์อันทรงคุณค่าให้ดูหลายชิ้น
Mount Nebo
ถัดมาประมาณ 15 นาที เราก็จะมาถึงยัง Mount Nebo ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญตามประวัติศาสตร์พระคัมภีร์ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ โมเสส เสียชีวิต ระหว่างการเดินทางกลับสู่ดินแดนแห่งพันธะสัญญา หรือ เยรูซาเลม นั่นเอง (เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นหลังจาก เหตุการณ์สำคัญอย่างการใช้ไม้เท้าแหวกทะเลแดงที่อียิปท์ตอนที่จนมุมฟาโรห์กับกองทัพ)
เนื่องจากเป็นสถานที่ตามความเชื่อ เลยเป็นเหมือนเนินเขา ที่มีปะติมากรรมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวต่างๆ ของโมเสส ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ถึงอย่างนั้น หากลองนึกถึงคำกล่าวที่ว่า ที่นี่เป็นที่ที่โมเสสได้เข้าเฝ้าพระผู้เป็นเจ้า และ เห็นดินแดนแห่งพันธะสัญญาก่อนเสียชีวิต แล้วมองออกไปที่วิวข้างหน้าจาก Memorial Viewpoint ในวันที่ฟ้าเปิด เราจะสามารถมองเห็นดินแดนแห่งพันธะสัญญา หรือ เยรูซาเลม ได้จริงๆ ซึ่งนั่นทำให้เรารู้สึกขนลุกขึ้นมาไม่น้อย
หากใครที่ยังไม่อินมาก แนะนำให้ดูภาพยนต์ที่เกี่ยวกับเรื่องราวของ “โมเสส” ค่ะ โมเสสเป็นศาสดาที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ แห่งศาสนายูดาย แต่ก็มีความสำคัญในศาสนาคริสต์และอิสลามเนื่องจากเป็นผู้บัญญัติ The Ten Commandments ค่ะ อย่างภาพยนต์ที่ดูง่ายสุดๆ ก็คือ Prince of Egypt ที่เป็นการ์ตูนจากดิสนีย์ค่ะ
ระหว่างทางจาก Mount Nebo ไปยัง Kerak Castle จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
เราก็ชมวิว จอดแวะไปเรื่อยเปื่อย ทั้งร้านขายของฝาก ร้านทำโมเสค รวมไปถึงแวะทานอาหารเที่ยงค่ะ อย่างที่บอกไปในตอนที่หนึ่งว่า อาหารจอร์แดน มีลักษณะเหมือนอาหาร Levantine ทั่วไป คือจำพวก Hummus, Falafel สำหรับเราทานไม่ยากค่ะ
Kerak Castle / Crusader Fortress
ก่อนจะอธิบายว่าป้อมปราการแห่งนี้ คืออะไร มีที่มาอย่างไร ขอบอกก่อนเลยว่า ถ้าอยากอิน ให้ไปดูภาพยนต์เรื่อง Kingdom of Heaven และ/หรือ Saladin มาได้เลยค่ะ อย่างเรื่อง Kingdom of Heaven มีช่วงนึงที่เหตุการณ์ในหนังเกิดขึ้นตรงนี้เลย และด้วยความที่ป้อมแห่งนี้เป็นป้อมปราสาทสมัยครูเสด ซึ่งสงครามเกิดเป็นสิบครั้ง รบกันเป็นร้อยๆ ปี และแต่ละครั้ง ยังมีเรื่องปมความขัดแย้ง การเมือง ต่างๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้น ทางลัดที่จะเห็นภาพว่าที่นี่สำคัญอย่างไร น่าจะเป็น หนังเรื่อง Kingdom of Heaven เนี่ยแหล่ะค่ะ
อย่างที่บอกว่า ที่นี่เป็น Crusader Fortress/Crusader Castle หรือ ป้อม ปราสาทสมัยสงครามครูเสด โดยเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นที่นี่ เกิดขึ้นในปี 1183 ยุคที่ Raynald of Chatillon ขุนนางคนสำคัญของราชอาณาจักรเยรูซาเลม ตั้งตนเป็นใหญ่และหาเรื่องตีกองอูฐการค้าของอาหรับ แถมยังหาเรื่องว่าจะรุกเข้าเมกกะ ซาลาดิน ผู้นำกองทัพอิสลามในขณะนั้น โกรธมาก เลยยกกองทัพมาล้างแค้น แต่ตอนนั้นกษัตริย์ Baldwin IV เจรจาสงบศึกสำเร็จ ซาลาดินจึงกลับดามัสกัสไปก่อน แต่หลังจากนั้นอีก 4 ปี เกิดความขัดแย้งในราชสำนักเยรูซาเล็ม เรื่องใครจะเป็นผู้ขึ้นครองบัลลังค์ ทำให้ซาลาดินใช้จังหวะนี้ในการรุกรานเยรูซาเลมอีกครั้ง และชนะ Battle of Hattin ในปี 1187 มาได้
แต่ปราสาทแห่งนี้ ก็ถูกเปลี่ยนมือ และเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ มาอีกกว่า 700 ปี จนถึงยุคจักรวรรดิออตโตมันกันเลยทีเดียวค่ะ
King’s Highway
ใช้เวลาเดินทางอีกราวๆ 2 ชั่วโมง ก่อนถึง เพตรา เราก็จะได้ผ่าน King’s Highway ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าเก่าแก่ของคาบสมุทรนี้ค่ะ เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตามากๆ อย่าลืมบอกคนขับให้จอดแวะถ่ายภาพนะคะ
Petra By Night
หลังจากเช็คอินเข้าโรงแรม และ รับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็พร้อมเข้าชม Petra by Night ค่ะ
Petra by Night เป็นการเปิดให้เข้าชมเพตราในยามค่ำคืน ซึ่งเค้าจะจุดเทียนกว่า 1,500 เล่ม เพื่อให้เราเดินเข้าไปตามทาง และไปนั่ง ฟังดนตรีพื้นเมือง อยู่ตรงด้านหน้า The Treasury ค่ะ
ซึ่งบอกตรงๆ เลยว่า เราไม่อิน เรารู้สึกว่า มันไม่มีอะไร แต่มันเป็นบรรยากาศที่ดีนะคะ จะมีซักกี่ครั้งในชีวิต ที่จะได้มาเดินกลางแสงเทียน ผ่านร่องหิน เข้ามาแบบนี้ ก็น่าตื่นเต้นแรกๆ แต่ด้วยความที่ทางเดินจากทางเข้ามาถึงตรงนี้ของเพตรา น่าจะราวๆ 2 กม. ได้ เราเลยเบื่อซะก่อน
โปรแกรมนี้ จัดขึ้นแค่คืนวันจันทร์ พุธ และ พฤหัส เท่านั้น เริ่มเวลา 20.30 น. และ เสร็จออกมาประมาณ 22.30 น.ค่ะ ค่าเข้า 17 JOD แยกจากตั๋วเข้าเพตราปกตินะคะ
ที่พักในเพตรา
เราพักที่ Movenpick Resort Petra ค่ะ ตกประมาณคืนละแปดพันกว่าบาท แต่ว่าที่พักอื่นๆ รอบๆ ก็ราคาไม่แพงนะคะ อยู่ที่คืนละประมาณสองพันกว่าบาท เราแนะนำให้พักที่อยู่ใกล้ๆ ทางเข้าเพตราค่ะ เพราะแถวนี้มีร้านอาหารเยอะ สามารถเดินเล่นได้ แล้วก็เดินเข้าเพตราได้เลยค่ะ
ที่พักแนะนำได้แก่
Movenpick Resort Petra >> ทางไปจอง
Petra Boutique Hotel >> ทางไปจอง
ตอนถัดไปจะพามาชม เพตรา แบบเต็มๆ วัน แล้วไปนอนแคมป์ที่ทะเลทรายสีชมพูกันค่ะ! คลิ๊กที่นี่ได้เลย
สามารถติดตามการเดินทางในจอร์แดนของเราทั้งทริป ได้ที่
[เที่ยว จอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 1] รู้จักจอร์แดน แผนการเดินทาง และ ค่าใช้จ่าย
[เที่ยว จอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 2] จาก King’s Highway สู่ Petra บนเส้นทางเก่าแก่นับพันปี
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 3] นครสีกุหลาบ ‘เพตรา’ – นอนแคมป์วิวดาวอังคาร
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep.4] ขี่อูฐกลางทะเลทรายสีชมพู ลอยตัวในเดดซี แช่น้ำแร่ Ma’in
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 5] แช่น้ำพุร้อน เที่ยวกรุงอัมมาน เยือนนครโรมันโบราณ Jerash
สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!
หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ หรือไปตามไอจี @eatchillwander อัพเดทกันแบบเรียลไทม์ขอบคุณมากๆ ค่า
ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com