ในตอนที่แล้ว เราได้พิสูจน์ว่า เดดซี คือ ทะเลที่ไม่มีอะไรจมจริงๆ ! เราตื่นมาพอกตัว และ ชิลล์อยู่ที่รีสอร์ทริมทะเลสาบกันพักใหญ่ๆ ก่อนที่จะเข้าสู่โปรแกรมถัดไป ซึ่งนี่จะเป็น 2 วัน กับอีก 1 คืนสุดท้ายในจอร์แดนแล้ว โดยในวันนี้ โปรแกรมของเราคือการไป เดิน trek ฝ่าธารน้ำตามซอกหิน กึ่งๆ Canyoneering ที่ Wadi Mujib จากนั้น ก็เข้าเมือง Amman แล้ววันรุ่งขึ้น จึงไปเยือนนครโรมันโบราณ อย่าง Jerash ก่อนจะเดินทางกลับไทย

แต่ด้วยดวงเรียกฝน ประเทศจอร์แดน ที่เป็นประเทศทะเลทราย แห้งแล้ง ก็ถึงขั้นน้ำท่วมในวันที่เรามา ทำให้ ต้องยกเลิกการไป trek ไต่ลำธารออกไป แต่ก็ยังคงอยากแนะนำเพื่อนๆ เพราะเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกและเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่

หากใครยังไม่ได้อ่านการเดินทางตอนที่แล้ว สามารถกลับไปอ่านได้ คลิ๊กที่นี่

---

Wadi Mujib Siq Trail

มันคือการไต่ส่วนธารน้ำ ใน Canyon เข้าไปค่ะ เราดูรีวิวคนอื่นมา คือมันดูสนุกและชาเลนจ์มากๆ เหมาะกับคนชอบอะไรลุยๆ นะคะ การเข้าไปก็เหมือนจะมีเป็นด่านๆ คล้ายๆ กับ Canyoneering ที่เราไปเล่นที่เซบูมา เปียกทั้งตัวนะ ต้องปีนหินบ้าง ไต่เชือกบ้าง ว่ายน้ำบ้าง ขากลับก็ปล่อยน้ำไหลพัดเรากลับมา รีวิวหลายคน น้ำสีฟ้าสวย ตัดกับหินสีทราย สวยงามมากๆ

---

Ma’in Hot Spring Resort

พอเรารู้ชะตากรรมว่า ยังไงก็โดนแคนเซิล เพราะฝนตกหนัก เลยเปลี่ยนแผน มาเป็นการไปแช่น้ำพุร้อน ที่ Ma’in Hot Spring แทนค่ะ น้ำพุร้อนแห่งนี้ ขับมาจากโรงแรมที่เดดซี แค่ครึ่งชั่วโมงเองค่ะ

ธรรมชาตินี่ก็ช่างสร้างสรรค์นะคะ มีทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลกอยู่ ขับรถขึ้นเนินมานิดเดียว กลายเป็นน้ำตกที่เป็นน้ำพุร้อนออกมา ที่นี่ก็เหมือนออนเซนหรือน้ำพุร้อนทั่วไปค่ะ เชื่อว่าช่วยให้หายปวด ให้เลือดหมุนเวียน  ฯลฯ

จริงๆ ในระแวก Hammamat Ma’in เนี่ย มีบ่อน้ำพุร้อนให้บริการหลายที่เลยค่ะ ตอนแรกเราไปแวะอีกอัน แล้วคนมาเที่ยวเยอะมากกกก เพราะเป็นวันเสาร์อาทิตย์ เลยยอมจ่ายแพงนิดนึงมาจบที่ Ma’in Hot Spring Resort สมัยที่เราไป ยังเป็นของเครือ Evason & Six Senses Spa อยู่ค่ะ แต่ตอนนี้น่าจะบริหารเองแล้ว

น้ำที่เราเห็นในสระว่ายน้ำ เป็นน้ำแร่จากธรรมชาตินะคะ อุ่นๆ เลย แล้วใต้ถ้ำทางขวามือของรูปถัดไป จะเป็นบ่อแบบบ่ออนเซน อยู่ข้างในค่ะ เจ๋งดี แช่น้ำเสร็จเค้าก็มีพวกผ้าเช็ดตัว ห้องน้ำ อะไรให้เรียบร้อย เราก็ทานอาหารเที่ยงที่นี่ ไปด้วยเลย

 

---

Amman Downtown

เราค่อนข้างเวิ่นนิดนึงค่ะ จริงๆ จากบ่อน้ำพุร้อน ขับมาประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็ถึง Amman เมืองหลวงของจอร์แดนแล้วค่ะ

เราเช็คอินที่โรงแรมเสร็จ ก็ขอคนขับรถพากินฟาสท์ฟู้ดค่ะ เพราะคุณพ่อเบื่ออาหารที่นี่แล้ว ส่วนเราสบายๆ ยังอร่อยอยู่ เลยขอเค้าพาไปพาสท์ฟู้ด พวกแมค เคเอฟซี ซักหน่อย ก็เลยได้ไปเดินห้างกันค่ะ

จากนั้น เราก็ขอเค้าไปไหนก็ได้ ที่เป็นฟีลตลาดๆ มีของกิน อะไรแบบนี้ ซึ่ง เราก็ไม่รู้ว่าเค้าพาไปที่ไหนค่ะ แต่รู้ว่า เมืองอัมมาน เดินเหนื่อยมากกกกก เพราะ เมืองอยู่บนเนิน สมมติเราเห็นแผนที่ในกูเกิ้ลแมพ ถนนอยู่ข้างกันเลย เลี้ยวไปก็ถึงแล้ว แต่ไม่ใช่นะคะ มันอาจจะเป็นบันได สูงประมาณสามชั้น อะไรแบบนี้

แล้วหน้าหมวยไปนี่ โดนคนมองหนักมากกกเลยค่ะ แต่ไม่ได้ดูอันตรายนะคะ ไม่ได้มีใครเข้ามาทำอะไร แล้วก็ ไม่ค่อยเห็นผู้หญิงออกมาเดินเที่ยวเท่าไหร่ค่ะ

เราแรนดอมเข้าไปร้านนี้ เพราะคนต่อคิวเยอะมาก ชื่อร้าน Habibah เป็นขนมอาหรับ พวก Baklava อร่อยมากกกก อันนี้แนะนำให้ลองจริงค่ะ

---

Amman Citadel

บรรยากาศในยามเช้าที่ Amman ค่ะ เห็นมั้ยว่า บ้านและอาคารมันสร้างไปกับเนินเขาจริงๆ แล้วเมื่อคืนก็คือเดินแบบ เหนื่อยยยยย

วันนี้เรามาอยู่กันที่ Amman Citadel ค่ะ เป็น Citadel ที่ตั้งอยู่บนเนินที่สูงที่สุด จาก 7 เนินของอัมมานค่ะ (Seven Hills of Amman) ซึ่งเราจะสามารถมองเป็นเมืองเก่าของอัมมานได้ เห็น Roman Theatre ด้วยนะคะ แม้จะไม่ชอบประวัติศาสตร์ แต่บนนี้ถือเป็นจุดชมวิวที่สวยและบรรยากาศดีใช้ได้เลยค่ะ

ที่นี่มีหลักฐานของซากเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่ยุคหินใหม่เลยนะคะ แล้วก็อยู่ผ่านยุค Assyrians, Babylonians มาจนถึงโรมันและ Byzantine ส่วนซากของอาคารที่เราเห็นส่วนใหญ่จะมาจากยุค Roman, Byzantine และ Umayyad ค่ะ

---

Jerash

ขับรถออกจาก Amman มาไม่ถึงชั่วโมง เราก็จะมาอยู่ที่ Jerash ค่ะ ความสำคัญของที่นี่นั้น คือเป็นเมืองกรีกโรมันโบราณ ที่อยู่ค่อนมาทางตะวันออก โดยมีหลักฐานบันทึกว่า เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดย อเล็กซานเดอร์มหาราช และ นายพล Perdiccas ซึ่งตั้งใจให้ทหารมาเซโดเนียที่แก่แล้วอยู่ ในช่วง 331 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงที่เค้าและกองทัพข้ามซีเรียไปยังเมโสโปเตเมีย ในขณะที่มีบางทฤษฎีคิดว่า เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดย กษัตริย์ Antioch IV แห่ง Seleucid (อาณาจักร Seleucid เป็นหนึ่งในสี่อาณาจักรเฮเลนนิสติก ที่ถูกแยกหลัง Alexander สิ้นพระชนม์แล้ว)

อย่างไรก็ตาม Jerash ได้เข้าสู่ยุครุ่งเรืองในสมัยจักรวรรดิโรมัน โดยเป็นเมืองทางตะวันออกที่ทั้ง จักรพรรดิ Trajan และ จักรพรรดิ Hadrian เคยเสด็จมาเยือน

และนี่ก็นับเป็นเมืองกรีกโรมันโบราณที่ยังหลงเหลือซากให้เราได้ชม ที่ใหญ่ที่สุด ในตะวันออกกลางค่ะ

อีกชื่อหนึ่งที่คนชอบเรียกที่นี่กัน ก็คือ เมืองพันเสา เพราะบนเส้นทางหลัก เรายังจะได้เห็นเสากรีกหลงเหลืออยู่เยอะมากจริงๆ ค่ะ

ซุ้มประตูเฮเดรียน (The Arch of Hadrian) สร้างต้อนรับจักรพรรดิเฮเดรียน ตอนเสด็จมาช่วงปีคศ. 129-130 ค่ะ

อีกหนึ่งชิ้นที่สมบูรณ์และโดดเด่นมากคือ Nymphaeum คำว่า Nymphaeum ก็มาจากคำว่า Nymph และแปลว่าตรงตัวว่าเป็นที่อยู่ของเทพ Nymph (เทพนิมฟ์คือ เทพธิดากรีกที่เป็นร่างตัวแทนของธรรมชาติ บางครั้งก็เรียกนางอัปสร หรือ นางไม้) ซึ่งในที่นี้ก็มักจะเป็น Nymph ของน้ำหรือน้ำพุค่ะ

อยู่ที่นี่จะมีคนเข้ามาขอถ่ายรูปตลอดเลยค่ะ ตั้งแต่วันแรกเลย เราน่าจะหน้าแปลกมากๆ

ที่นี่มีโรงละครสองแห่งเลยนะคะ มีโรงละครขนาดใหญ่กับขนาดเล็กอย่างละที่

เราใช้เวลาที่ Jerash ราวๆ 2 ชั่วโมง ก่อนจะแวะทานอาหารเที่ยง แล้วมุ่งหน้าไปยังสนามบินและเดินทางกลับค่ะ

เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ประทับใจมากๆ หวังว่าทุกคนจะมีโอกาสมาตามรอย และเดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ หากมีคำถามอะไร inbox มาที่เพจได้เลยนะคะ 🙂

---

สามารถติดตามการเดินทางในจอร์แดนของเราทั้งทริป ได้ที่

[เที่ยว จอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 1] รู้จักจอร์แดน แผนการเดินทาง และ ค่าใช้จ่าย
[เที่ยว จอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 2] จาก King’s Highway สู่ Petra บนเส้นทางเก่าแก่นับพันปี
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 3] นครสีกุหลาบ ‘เพตรา’ – นอนแคมป์วิวดาวอังคาร
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep.4] ขี่อูฐกลางทะเลทรายสีชมพู ลอยตัวในเดดซี แช่น้ำแร่ Ma’in
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 5] แช่น้ำพุร้อน เที่ยวกรุงอัมมาน เยือนนครโรมันโบราณ Jerash

---

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!

หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ หรือไปตามไอจี @eatchillwander อัพเดทกันแบบเรียลไทม์ขอบคุณมากๆ ค่า

---

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com