ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 ร้าน Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar by Sri Trat เป็นร้านอาหารไทยที่หยิบยกของดีจากภาคตะวันออกมาให้เราได้ลิ้มลอง ร้านนี้ถูกรังสรรค์โดย เชฟแอ็ค-วงศ์วิชญ์ ศรีภิญโญ ซึ่งเป็นเชฟเจ้าของและทีมจากร้านอาหารตะวันออกที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รักของใครหลายๆ คน อย่าง “ศรีตราด” นั่นเอง ภายในร้านจะดีไซน์เป็นขบวนรถไฟที่จะพาเราข้ามพรมแดนมุ่งหน้าสู่บูรพา ตกแต่งสวยงามทำให้เรานึกถึงรถไฟหรูอย่าง Orient Express ส่วนเมนูนั้น เน้นวัตถุดิบไทย มาทานที่นี่ไม่จำเป็นต้องทานเป็นคอร์ส แต่สั่งเมนูโปรดทานเองได้ ไฮไลท์ของมื้อนี้ จะเป็นแกงพริกเนื้อ ซึ่งในพริกแกงสองชนิด ถึงเครื่องสะใจ เสิร์ฟพร้อมข้าวมันหอมมะพร้าว หมี่เก้อปู และ พล่าปลาตะมะ ก็รสชาติดี กลมกล่อม จนอยากชวนทุกคนมาขึ้นรถไฟสู่บูรพานี้เลยค่ะ หอยเจาะน้ำจิ้มกระบก – หอยเจาะ เป็นหนึ่งในหอยนางรมสามชนิดของไทย ซึ่งเป็นหอยนางรมชนิดที่ตัวเล็ก แต่มีความหวาน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มที่มีการใส่กระบก หรือ อัลมอนด์ของไทย มีความกลมกล่อม ตับไก่หูเสือมันปู – ตับไก่ที่นำมาทำแบบปาเต้ (Pate) แต่ไม่ใส่เนย… [READ MORE…]
หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกับชื่อห้องอาหาร เดอะ สยาม ที รูม (The Siam Tea Room) ห้องอาหารไทยต้นตำรับจากโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์คกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ตอนนี้ ห้องอาหาร เดอะ สยาม ที รูม มีการเปิดสาขาใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ โครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ เปลี่ยนบรรยากาศจากใจกลางเมือง เป็นเรือนไม้สองชั้นริมน้ำ ที่บรรยากาศดีสุดๆ เลยค่ะ เดอะ สยาม ที รูม ที่ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ (The Siam Tea Room at Asiatique the Riverfront) นั้น เป็นทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ทีรูม ที่เสิร์ฟอาหารไทยต้นตำรับกับวัตถุดิบชั้นดี รวมไปถึงขนมและเครื่องดื่มต่างๆ สามารถแวะมาได้ตั้งแต่ มื้อกลางวัน อาฟเตอร์นูนที ดินเนอร์… [READ MORE…]
ภายในล็อบบี้ชั้นล่างของโรงแรม Waldorf Astoria Bangkok (วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ) เป็นที่ตั้งของห้องอาหารห้องอาหาร Front Room (ฟร้อนท์ รูม) ห้องอาหารไทยที่ตั้งใจนำเสนอเสน่ห์ของอาหารไทย 8 รสชาติผ่านอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “รสมือแม่” ที่เน้นการปรุงอย่างพิถีพิถันและปราณีต เสิร์ฟในห้องอาหารที่ตกแต่งได้อย่างโอ่โถงสบายตา อาหารไทย 8 รสชาติที่กล่าวถึงนั้น ได้แก่ เผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม ขม มัน ปร่า (ฝาด) และจืด ซึ่งพอเราได้ชิม เราก็รู้สึกได้ถึงมิติของรสชาติ และ ความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ชูโรงออกมาได้ดีในแต่ละจาน รสชาติกลมกล่อมและมีมิติทุกเมนู ที่สำคัญ หลายเมนูอาจจะเป็นเมนูที่หาทานได้ทั่วไป แต่หาที่ทำแบบพิถีพิถันและใช้วัตถุดิบชั้นดีได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะการจัดการกับเนื้อสัตว์ที่เราเชื่อว่า เชฟได้ใช้ประสบการณ์ในครัวอาหารตะวันตกแบบไฟน์ไดนิ่งเข้ามาพลิกแพลงอีกด้วย ทีมเชฟของห้องอาหาร Front Room นำโดยเชฟบัว สโรชา รัชตะนาวิน ผู้มีประสบการณ์การทำงานทั้งในครัวร้านไฟน์ไดนิ่งและอาหารไทย ได้ร่วมกับ อาจารย์หนิง ดร. นิพัทธ์ชนก นาจพินิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย และ… [READ MORE…]
หลังจากประสบความสำเร็จจากร้าน Khao (ข้าว) ร้านอาหารไทยชื่อดังในย่านเอกมัย ที่เป็นที่รักของแขกผู้มาเยือนจนได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว มาตั้งแต่ปี 2020 ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยแท้ๆ ที่ไม่ได้เน้นความหวือหวา ไม่ต้องดัดแปลงอะไรให้มากเกินไป แต่ตั้งใจที่จะทำอาหารไทยที่พวกเราคุ้นเคยโดยใช้วัตถุดิบคุณภาพ คัดสรรกันมาเป็นอย่างดีจากแหล่งท้องถิ่นภายในประเทศ ปรุงสดใหม่ ให้เราได้ลิ้มลอง ต้องขอเกริ่นเป็นการส่วนตัวก่อนว่า ร้าน Khao สาขาแรกที่เอกมัยนั้น เป็นร้านที่นัทใช้รับรองเพื่อนจากต่างประเทศบ่อยมากๆ เลยค่ะ เหตุผลก็เพราะว่า อันดับแรก – เมนู มีให้เลือกหลากหลายมากๆ แกงมีทุกแบบ (และทำได้ดีทุกแบบที่เคยลองมา) ต้ม ผัด ทอด ยำ เรียกว่าเป็นเมนูที่ เราสามารถนำเสนอให้เพื่อนต่างชาติดูได้เลยว่า อาหารไทยไม่ได้มีแค่ต้มยำกับแกงเขียวหวานนะ และ เป็นเมนูที่เวลามาทานกับครอบครัว ก็จะรู้สึกว่าไม่ซ้ำ มีหลากหลายสำหรับทุกคน ส่วนข้อที่สองคือ โลเคชั่นที่ยังถือว่าไปไม่ยาก แต่หลบจากความวุ่นวายไม่พลุกพล่าน ซึ่งพอร้าน Khao เปิดสาขาใหม่ ที่อาคาร Piya Place ซอยต้นสน ในย่านเพลินจิตนี้ ก็นับว่ายังคงคุณภาพและสิ่งที่นัทชอบทุกอย่างไว้ ในโลเคชั่นที่อาจจะใกล้หลายๆ ท่านมากขึ้น และเนื่องจากทางร้านมีเมนูเยอะมาก… [READ MORE…]
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของร้าน Nahm (น้ำ) ในฐานะร้านอาหารไทยร้านแรกในโลกที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินในสมัยที่อยู่ลอนดอน ไปจนถึงการได้อันดับหนึ่ง ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย มาถึงตอนนี้ ร้าน Nahm ได้เข้าสู่บทใหม่ หลังจากต้อนรับเชฟสาวชาวไทยผู้ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง เชฟ พิม เตชะมวลไววิทย์ เชฟผู้เชื่อว่าเธอคือแม่ครัว ผู้ที่ทำอาหารที่บ้าน และ เธอพร้อมจะสืบทอดอาหารไทยที่เธอได้รับการถ่ายทอดมาจากในครัวที่บ้านสู่ผู้มาเยือนทุกคน ร้าน Nahm ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ย่านสาทร ในโรงแรม COMO Metropolitan กรุงเทพฯ ถนน สาทรใต้ สามารถจอดรถได้ที่โรงแรม เมื่อเดินเข้ามาก็จะพบกับร้าน Nahm ที่ให้บรรยากาศร่วมสมัย Eat Chill Wander เชื่อว่า หนึ่งในเหตุผลที่ทุกคนเข้ามาอ่านรีวิวกันอยู่ตอนนี้ เพราะต้องการทราบว่า การมาทานอาหารที่ Nahm นั้นคุ้มค่ามั้ย ซึ่งเราอยากปรับความเข้าใจกับผู้อ่านก่อนว่า การที่เราอยู่ประเทศไทยและมีอาหารไทยหลากหลายประเภทและราคาให้เราเลือกนั้น ทำให้บางครั้ง เราไม่ได้ให้คุณค่าอาหารไทย และยอมจ่ายเงินกับอาหารตะวันตก หรือ อาหารญี่ปุ่นมากกว่า โดยลืมคิดไปว่า จริงๆ แล้ว ถ้าจะต้องทำอาหารไทยตั้งแต่เริ่มต้น ไม่มีพริกแกงสำเร็จ ไม่ใช้ปูถุง ขูดมะพร้าวคั้นกะทิกันสดๆ… [READ MORE…]
ในช่วงสองถึงสามปีที่ผ่านมา กระแสอาหารไทยแบบ Fine Dining ได้ปะทุขึ้น ทำให้ผู้คนทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทยด้วยกันเอง ได้หันมาเห็นคุณค่าของอาหารไทยเพิ่มมากขึ้น และห้องอาหาร “Celadon” หรือ “ศิลาดล” ก็ถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารไทยที่อยู่ในแถวหน้าของวงการอาหารไทยมาอย่างช้านาน ตั้งอยู่ใจกลางสาทร ภายในโรงแรม Sukhothai Bangkok ห้องอาหาร Celadon ในปัจจุบันอยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของเชฟหญิง “รสริน ศรีประทุม” ที่มีความสนใจอย่างลึกซึ้งในศาสตร์อาหารไทยโบราณ โดยอาหารของห้องอาหาร Celadon นั้น เชฟรสรินได้นำเสนออาหารไทยชาววังที่หาทานได้ยากยิ่งในสูตรของ เจ้าจอมหม่อมราชวงศ์ สดับ ลดาวัลย์ ในรัชกาลที่ 5 และหม่อมหลวง เนื่อง นิลรัตน์ ให้พวกเราได้ลองลิ้มรสกัน ห้องอาหาร Celadon ยังได้รับรางวัล Michelin Plate อีกด้วยค่ะ ห้องอาหาร Celadon นั้น เสริฟอาหารทั้งแบบ A la carte และแบบ Tasting Menu ซึ่งนำเมนูจากใน A la… [READ MORE…]
ปีที่ผ่านมา นับเป็นปีทองแห่งอาหารไทยระดับ fine dining ก็ว่าได้ค่ะ ร้านอาหารไทยดีๆ ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สืบเนื่องจากการมี Michelin Guide ที่ทำให้เราตื่นตัวว่าอาหารไทยก็ไม่ได้แพ้ชาติใดในโลก และ ร้าน Osha Thai Restaurant & Bar ก็เป็นหนึ่งใน “ไทย-ไฟน์ไดนิ่ง” ที่น่าค้นหา Osha นั้นเป็นร้านอาหารไทย upscale ที่ได้รับรางวัลมากมายทั้งในและต่างประเทศ ร้านนี้เคยเป็นร้านสาขามาจากเชนร้านอาหารไทยชื่อดัง Osha ในเมือง San Francisco ที่มีมากกว่า 9 สาขาด้วยกันค่ะ ปัจจุบันร้าน Osha ประเทศไทยได้เปลี่ยนการดำเนินงานใหม่ทั้งหมดเมื่อไม่นานมานี้ โดยอาหารจะเน้นเป็นแนวทาง fine dining ที่พิถีพิถันและน่าสนใจมากขึ้นค่ะ ร้าน Osha นั้นมีอาหารให้เลือกมากมาย ทั้งแบบ A la Carte และแบบ Set menu ค่ะ โดย Set Menu จะมีสามแบบด้วยกันคือ… [READ MORE…]
“ร้าน วังหิ่งห้อย จะเปิดแค่ 18 เดือน ตามวัฏจักรชีวิตของหิ่งห้อยเท่านั้น” เราเสียดายมาก ร้านคอนเซปท์ดีๆ แบบนี้ จะเปิดในช่วงเวลาสั้นๆ แต่จริงๆ แล้ว นั่นอาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ประสบการณ์การมาทานอาหารที่วังหิ่งห้อยของเราสมบูรณ์ ใช่แล้ว เราคิดว่ามันคือการมาสัมผัสประสบการณ์มากกว่าการทานอาหารหนึ่งมื้อ เรามักจะเปรียบทุกมื้อ Fine Dining ของเราว่า มันเหมือนการเข้าไปดูภาพยนต์ซักหนึ่งเรื่อง ที่เราจะได้รับอารมณ์ความรู้สึกไปกับช่วงเวลา 3 ชั่วโมงนั้น วังหิ่งห้อยก็เช่นกัน ทางร้านดูแลรายละเอียดทั้งเรื่องของ รูป รส กลิ่น เสียง และ คอนเซปท์ ที่ต้องการจะสื่อสารกับเราได้อย่างชัดเจน จุดเริ่มต้นของที่นี่ เริ่มจากการอยากนำธรรมชาติมาให้คนในเมืองอย่างเราๆ ได้สัมผัส หิ่งห้อยเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่แสดงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ และแน่นอน เป็นหนึ่งในประสบการณ์โรแมนติกที่เราเชื่อว่าคู่รักหลายๆคู่จะต้องชอบ ประสบการณ์ของเรานั้น เริ่มตั้งแต่จุดที่เราเดินผ่านป้ายหน้าร้านเข้าไป ร้านวังหิ่งห้อย ตั้งอยู่ในสนามกอล์ฟ RCA Driving Range ซึ่งถือว่าอยู่ใจกลางเมือง แต่กลับได้บรรยากาศที่เงียบสงบ ทางเดินจะค่อยๆ ปรับความสว่างของสายตาเรา ให้เหมาะกับห้องที่มืดลง และพร้อมสำหรับการชมหิ่งห้อยเป็นพันตัว นอกจากไอเดียเรื่องหิ่งห้อยแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของร้านนี้ คือการหยิบเอเลเมนท์ตามธรรมชาติ มาเป็นแรงบันดาลใจหลัก ในการคิดเมนูแต่ละฤดูกาล… [READ MORE…]