หลังจากประสบความสำเร็จจากร้าน Khao (ข้าว) ร้านอาหารไทยชื่อดังในย่านเอกมัย ที่เป็นที่รักของแขกผู้มาเยือนจนได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว มาตั้งแต่ปี 2020 ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยแท้ๆ ที่ไม่ได้เน้นความหวือหวา ไม่ต้องดัดแปลงอะไรให้มากเกินไป แต่ตั้งใจที่จะทำอาหารไทยที่พวกเราคุ้นเคยโดยใช้วัตถุดิบคุณภาพ คัดสรรกันมาเป็นอย่างดีจากแหล่งท้องถิ่นภายในประเทศ ปรุงสดใหม่ ให้เราได้ลิ้มลอง

ต้องขอเกริ่นเป็นการส่วนตัวก่อนว่า ร้าน Khao สาขาแรกที่เอกมัยนั้น เป็นร้านที่นัทใช้รับรองเพื่อนจากต่างประเทศบ่อยมากๆ เลยค่ะ เหตุผลก็เพราะว่า อันดับแรก – เมนู มีให้เลือกหลากหลายมากๆ แกงมีทุกแบบ (และทำได้ดีทุกแบบที่เคยลองมา) ต้ม ผัด ทอด ยำ เรียกว่าเป็นเมนูที่ เราสามารถนำเสนอให้เพื่อนต่างชาติดูได้เลยว่า อาหารไทยไม่ได้มีแค่ต้มยำกับแกงเขียวหวานนะ และ เป็นเมนูที่เวลามาทานกับครอบครัว ก็จะรู้สึกว่าไม่ซ้ำ มีหลากหลายสำหรับทุกคน ส่วนข้อที่สองคือ โลเคชั่นที่ยังถือว่าไปไม่ยาก แต่หลบจากความวุ่นวายไม่พลุกพล่าน

ซึ่งพอร้าน Khao เปิดสาขาใหม่ ที่อาคาร Piya Place ซอยต้นสน ในย่านเพลินจิตนี้ ก็นับว่ายังคงคุณภาพและสิ่งที่นัทชอบทุกอย่างไว้ ในโลเคชั่นที่อาจจะใกล้หลายๆ ท่านมากขึ้น

และเนื่องจากทางร้านมีเมนูเยอะมาก วันนี้ เราจึงเลือกทาน Khao Tasting Menu ซึ่งเป็นคอร์สอาหารไทยที่ทางร้านเลือกเมนูยอดนิยม มาจัดเป็นคอร์สให้เราได้ลิ้มลองกัน ซึ่งมีด้วยกัน 4 คอร์ส ตั้งแต่ เมนู 11 คอร์ส ราคา 950 .- ต่อท่าน, เมนู 13 คอร์ส ราคา 1,350 .- ต่อท่าน, เมนู 15 คอร์ส ราคา 1,750 .- ต่อท่าน และ เมนู 17 คอร์ส ราคา 2,300 .- ต่อท่าน

โดยวันนี้เราได้ลองคอร์สใหญ่สุด มาชมกันเลยค่ะ

เริ่มจาก Appetizer จานแรก ประกอบไปด้วย ช่อม่วงไส้หมู ขนมจีบไทยไส้ไก่ และ ปั้นสิบปลา แป้งหนุบ รสชาติกลมกล่อม และ แสดงถึงความปราณีตมากๆ เลยค่ะ

จากนั้นจึงตามมาด้วย หมี่กรอบ ที่เราชอบมากๆ เพราะตัวหมี่นั้บางกรอบ รสสัมผัสดี และ ยังมีความหอมจากน้ำส้มซ่าทำให้รู้สึกไม่หนัก ตามด้วย ยำส้มโอกุ้ง ที่เพิ่มความข้นด้วยน้ำกะทิ

ถัดมาเป็นคอร์สซุป ที่ให้เลือกได้ท่านละ 1 อย่าง โดยให้เลือกระหว่าง แกงเลียงกุ้งสด หรือ แกงส้มกุ้งแม่น้ำ ตัวโตมากๆ รสชาติเข้มข้น และเป็นการปูรสชาติเข้าไปสู่เมนคอร์สเซ็ทใหญ่ได้ดีมาก

จากนั้น ก็จึงเข้าสู่ช่วง เมนคอร์ส ซึ่งมาเป็นชุดใหญ่และครบรสมากๆ ที่สำคัญ เป็น portion ที่จัดมาให้แขกแต่ละท่านแล้ว จึงถือว่าราคาสมเหตุสมผลมากๆ และ ยังง่ายสำหรับผู้ที่อาจจะไม่สะดวกแชร์กับข้าวจานกลางด้วยกัน(โดยเฉพาะในช่วงโควิดนี้ แต่ปกติเวลารับแขก ทานแบบนี้ก็ง่ายมากเลยค่ะ)

ขอเริ่มจากเมนูที่เราชอบที่สุดก่อน นั่นคือ ผัดพริกขิงปลาดุกฟู ซึ่งมีการแทรกไข่เค็มเล็กๆ อยู่ด้วย ทำให้ทุกอย่างเข้ากัน มีความเค็ม ความหวาน ที่พอดี

ตามด้วย แกงปูใบชะพลู ปูเนื้อแน่นเต็มคำ

น้ำพริกไข่ปู รสจัดจ้าน พร้อมปลาทูทอดและผักแนม

จานนี้ตอนมาเสิร์ฟตกใจมากค่ะ เพราะใหญ่มากกกกก มัสหมั่นเนื้อน่องแกะ ที่เนื้อนุ่มหลุดออกมาเลยค่ะ คิดว่าเครื่องแกงทำให้แทบไม่มีกลิ่นสาบแกะ และ เข้ากันดีมาก

ของหวานก็จัดเต็มไม่แพ้กัน เริ่มจาก หนึ่งในขนมที่ขึ้นชื่อสุดๆ ของทางร้าน อย่าง หยกมณีสตรอว์เบอร์รี่ หอมกลิ่นอบควันเทียนแป้งนุ่มเข้ากับสตรอว์เบอร์รี่, ข้าวฟ่างเปียกลำไย อันนี้นุ่มละมุน แบบ หอมมัน ไม่หวานเกินไป ลำไยสดๆ เข้ากันดีมากค่ะ สุดท้ายเป็น สังขยาน้ำตาลไหม้ เสิร์ฟคู่หวานเย็นส้มชื่นใจ

นอกจากเมนูแบบคอร์สแล้ว ยังมีเซ็ทเมนูช่วงกลางวัน มีเมนูจานเดียว เมนู A la carte หลากหลายมาก ใครที่อยากทานอาหารไทย วัตถุดิบสดใหม่ เมนูหลากหลาย ก็ลองมากันได้ทั้งที่ร้าน Khao สาขาเพลินจิต และ สาขาเอกมัยเลยนะคะ สาขาใหม่ที่เพลินจิต ทำได้ดีตามมาตรฐานสาขาแม่ที่ได้ดาวมิชลินเลยค่า

---

ร้าน Khao (สาขาเพลินจิต)

ตั้งอยู่ในอาคาร ปิยะ เพลส (Piya Place) ซอย ต้นสน แขวง ลุมพินี เขต ปทุมวัน กรุงเทพฯ

เปิดให้บริการทุกวัน
มื้อเที่ยง เวลา 12.00 – 14.30 น.
มื้อเย็น เวลา 18.00 – 22.00 น.

เว็ปไซต์ : http://www.khaogroup.com/
โทร. : 02-252-1619