[เที่ยว Burgundy ฝรั่งเศส ตอนที่ 1] โร้ดทริปไร่ไวน์ ท่องหมู่บ้านเทพนิยายในแคว้นเบอร์กันดี

หลายๆคนคงจะได้ยินชื่อ “เบอร์กันดี” (Burgundy) อยู่บ่อยๆเวลาเราพูดถึง “สีแดงเบอร์กันดี” ใช่มั้ยคะ และนั่นหมายถึงสีแดงของไวน์เบอร์กันดีนั่นเองค่ะ เพราะแคว้น Burgundy ของฝรั่งเศสเป็นแคว้นแห่งไวน์ เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตไวน์ชั้นนำและราคาสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และไม่ได้มีแค่ไวน์อย่างเดียวที่น่าสนใจนะคะ แคว้นนี้ ยังเป็นที่อยู่ของหมู่บ้านที่สวยงามอย่างกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย และ เป็นที่อยู่ของเมืองน่าเที่ยวอย่าง Dijon และ Beaune อีกด้วยค่ะ

ทริปนี้เป็นทริปที่ตรงกับชื่อ Eat Chill Wander มากๆ เลยค่ะ เพราะวันๆ เราก็ กิน ชิลล์ เดินเล่น พักผ่อนจิบไวน์อยู่ที่บ้านพักและชาโต้ที่เหมือนปราสาทเจ้าหญิง วนไปอย่างงี้ทุกวัน หากใครชอบความชิลล์และชีวิตที่ไม่เร่งรีบ น่าจะชอบการมาพักผ่อนที่นี่ไม่น้อย

ตามมาเที่ยว Burgundy กันเลยนะคะ!


ข้อมูลเบื้องต้น

– วิธีการเดินทางเข้าฝรั่งเศสอัพเดทล่าสุด อ่านได้ที่นี่นะคะ >> แชร์ประสบการณ์ เดินทางต่างประเทศช่วงโควิด

– Burgundy มีชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Bourgogne ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้จากกรุงปารีส

– มีเมืองหลวงของแคว้นคือ Dijon เป็นเมืองสำคัญ ตั้งอยู่ระหว่างกรุงปารีส ไปอีกเมืองใหญ่อย่าง Lyon ทำให้เป็นเมืองที่หลายๆคนต้องเดินทางผ่าน ทั้งมอเตอร์เวย์สายหลักที่ไปถึงเจนีวา และ สายรถไฟความเร็วสูง TGV เอง

– ตัว Burgundy เอง ไม่มีสนามบินค่ะ ปกติ คนก็จะบินลงปารีส หรือ ลียง ค่ะ

– การเดินทาง ส่วนตัวคิดว่าถ้าอยากชมไร่ไวน์และเมืองเทพนิยายเมืองเล็กเมืองน้อยตลอดทาง แนะนำให้เช่ารถขับค่ะ ทริปนี้นัทขับรถมาจากปารีสเลย พอมาถึงแคว้น Burgundy จะค่อนข้างสะดวก เนื่องจากมีที่จอดรถค่อนข้างเยอะ รถน้อย ถนนขับง่าย วิวสวย กำหนดเวลาได้เอง และพักตามชาโต้นอกเมืองได้ — ข้อเสียคือ ถ้าชิมไวน์ต้องบ้วนทิ้งค่ะ (แต่เค้ามีถังให้บ้วนเป็นปกติเลยนะคะ)

– นัทเคยเขียน ข้อควรรู้สำหรับการขับรถต่างประเทศไว้ ไปอ่านต่อได้นะคะ >> คลิ๊กที่นี่

– หากไม่สะดวกขับรถ ก็สามารถนั่งรถไฟความเร็วสูง TGV จาก Paris มาลง Dijon ได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น พออยู่ที่ Dijon ก็สามารถซื้อ Day Trip ซึ่งทัวร์มีตั้งแต่ไปเที่ยวหมู่บ้าน ทัวร์ชิมไวน์ สะดวกมากๆ เหมือนกันค่ะ ใช้ Dijon เป็นเบส แล้วยังเที่ยวต่อไปถึง Lyon เข้า Geneva อะไรแบบนี้ได้ด้วยค่ะ

– สามารถจองรถไฟ TGV ได้ที่ https://en.oui.sncf/en/tgv

– Burgundy เต็มไปด้วยไร่ไวน์ — และการท่องเที่ยวส่วนใหญ่ของที่นี่จะมีความเกี่ยวข้องกับไวน์ค่ะ แต่ถึงใครจะไม่อินกับไวน์.. เมืองเล็กๆ ที่อยู่ทั่วแคว้นแห่งนี้ ก็สวยงามมากๆ อยู่ดีค่ะ เพราะ ที่นี่ยังเต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรมจากตั้งแต่ยุคฟิวดัล ที่ยังปกครองกันเองด้วย Dukes ที่นี่มีสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ไปจนถึงโกธิคให้ชมมากมาย และยังมีปราสาทจากยุคกลาง ที่เปิดให้ชมหรือเข้าพักได้อีกด้วย

หมายเหตุ — เวลาเราพูดถึง Burgundy นั้น เราพูดถึงแคว้นเบอร์กันดีตามประวัติศาสตร์ค่ะ ซึ่งปัจจุบัน การบริหารของประเทศฝรั่งเศสเค้าจะนับภูมิภาคนี้ว่า Bourgogne-Franche-Comté ซึ่งพื้นที่มันกว้างมากๆ และมันเป็นการรวม 2 แคว้นมาไว้ด้วยกัน / โซนที่เราเที่ยวจริงๆ ในครั้งนี้ จะเป็น Historical Burgundy หรือ แคว้น Bourgogne ตามประวัติศาสตร์ ซึ่งในปัจจุบันจะถูกเรียกว่าเป็นเขต Cote d’Or Department ค่ะ ซึ่งคำว่า Cote d’Or นี้มีความเกี่ยวเนื่องกับไร่ไวน์ด้วย เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะคะ


Burgundy Itinerary

สำหรับการวางแผนเที่ยว Burgundy นั้น จะอยู่ที่ความสนใจเป็นหลักเลยค่ะ หากชอบหมู่บ้านเล็กๆ อยากไปทัวร์ไร่ไวน์ หาร้านมิชลินทาน ก็เริ่มตั้งแต่ 3-4 วันเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าใครที่เป็นสายไวน์จริงจัง นัทว่าอาจจะต้องอยู่กันเป็นสัปดาห์ๆ เลยค่ะ

แพลนคร่าวๆ จะได้ประมาณนี้ค่ะ แต่จริงๆ มันพอจะสลับได้บ้างนะคะ แล้วแต่ว่าจองร้านไหนได้ หรือ ติดต่อชมไร่ไวน์กับผู้ผลิตไวน์เจ้าไหนได้วันไหนค่ะ

Day 1 ขับรถออกมาจากปารีสช่วงเช้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจะถึงเมือง Auxerre  แวะทานอาหารเที่ยงที่ Chablis ขับรถต่อไปยัง Vezelay, Avallon, Semur-en-Axois พักที่นี่หรือจะขับไปพักที่ Dijon ก็ได้ค่ะ

Day 2 เที่ยวเมือง Dijon เมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี ทั้งวัน

Day 3 ออกจาก Dijon ไปเที่ยวไร่ไวน์ฝั่ง Cote de Nuit ซึ่งเป็นบริเวณจาก Dijon ลงไปถึงตอนเหนือของเมือง Beaune ค่ะ นัทเที่ยวไร่ไวน์และใช้เวลาอีกครึ่งวันไปพักผ่อนที่ ที่พักแบบปราสาทชาโตว์ค่ะ

Day 4 เที่ยวเมือง Beaune และ เที่ยวไร่ไวน์ฝั่ง Cote de Beaune ปิดท้ายด้วยปราสาท La Rochepot

หลังจากตรงนี้นัทขับยาวไปพักที่เมือง Lyon เพื่อจะไปเที่ยวแถวๆ Savoie กันต่อค่ะ


Burgundy Road Trip

เราขับรถออกจากปารีสกันมาช่วงสายๆ ค่ะ ตามแพลนจะต้องไปแวะเมือง Auxerre อีกหนึ่งเมืองสวยก่อน แต่เนื่องจากออกมาเลทนิดนึงเลยตรงมากันที่หมู่บ้านแรกอย่าง Chablis เลยค่ะ

Chablis

หมู่บ้านนี้ โดดเด่นเรื่องการปลูกไวน์ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เหมาะกับการแวะทานอาหารและอาจจะไปชมไร่ไวน์ได้ค่ะ

เวลาพูดถึง “Chablis” แล้วคนกินไวน์บางคนอาจจะบอกว่า Chablis ไม่ใช่ Burgundy… ซึ่งต้องอธิบายว่า หมู่บ้าน Chablis นั้น อยู่ในเขตการปกครองของภูมิภาค Burgundy แน่ๆ (แคว้น Bourgogne-Franche-Comté) แต่หากพูดถึงภูมิภาคการปลูกไวน์แล้ว บางคนก็จะพูดว่าให้แยก Chablis ออกจาก Burgundy เพื่อความเข้าใจง่าย ด้วยโลเคชั่นที่อยู่แยกออกมาและ terroir ที่ทำให้คาแรคเตอร์ของ Chablis ต่างออกไปค่ะ

ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ไวน์ Chablis มีความพิเศษนั่นก็คือ ปลูกบนดินแบบ Kimmeridge Clay ซึ่งมีหลักฐานว่าพบฟอสซิลของหอยแปลว่าดินส่วนนี้อยู่ใต้ทะเลมาก่อน  ทำให้ไวน์ขาวของที่นี่มีมิเนอรัล ที่ทานคู่กับอาหารทะเลได้ดีอย่างเหลือเชื่อ

แต่ถ้ามองอีกแบบ Chablis มันก็คือ Burgundy นั่นแหล่ะค่ะ แค่ไม่ใช่เขตปลูกไวน์ Cote d’Or เฉยๆ

ร้านอาหารที่เราเลือกกินมื้อเที่ยงนี้คือ Au Fil du Zinc ซึ่งราคาไม่แพงเลยถ้าเทียบกับของที่ได้รับ อาหารดีมากๆ และที่เด็ดสุดคือ เค้ามีไวน์หายากๆ ของ Chablis ซึ่งบังคับว่า ต้องเปิดดื่มที่ร้านเท่านั้น อย่างไวน์ขวดที่เราเลือก ทานที่นี่ขวดละประมาณสามพันบาท แต่ราคาตลาดที่ขายกันจะอยู่ที่ประมาณหมื่นกว่าบาทเลยค่ะ


Avallon – Vezelay

ขับรถถัดมาประมาณ 45 นาที เราจะเข้าสู่หมู่บ้านที่ชื่อ Avallon ค่ะ เป็นเมืองป้อมที่สำคัญในประวัติศาสตร์ เมืองนี้เราผ่านแค่แป้ปเดียว ก่อนที่จะมายังหมู่บ้าน Vezelay เป็นหมู่บ้านที่อยู่บนเนินเขาสูง ตอนเราขับรถไป  จะมองเห็นทั้งหมู่บ้านอยู่บนเนินเขาจากไกลๆ ด้านล่างเป็นไร่ไวน์ราบๆ มีความแปลกตาดีค่ะ พอขึ้นไปอยู่บนเนิน ก็จะเห็นวิวรอบเลย หมู่บ้านเล็กมากค่ะ เดินประมาณ 1 ชั่วโมงก็ทั่วแล้ว แต่ขึ้นลงเนินค่อนข้างเหนื่อยเลยค่ะ มีอาคารยุคกลาง และ สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ให้ชมทั่วเลยค่ะ

จาก Avalon เราก็เข้าสู่ Vezelay ค่ะ เป็นเมืองเนินเลย มีเดินขึ้นลงหน่อยนะคะ วิวจากรอบๆ Vezelay Abbey สวยมากๆ

ตัว Vezelay Abbey นั่น ถือเป็นโบถส์ยุคกลางที่สำคัญ และได้ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกจาก Unesco ด้วยค่ะ เป็นตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรมสไตล์โรมาเนสก์ในเบอร์กันดีที่โดดเด่นมากค่ะ


Semur-en-Auxois

ขับรถมาอีกราวๆ 1 ชั่วโมง จะมาถึงอีกหนึ่งหมู่บ้านสวยอย่าง Semur-en-Auxois เมืองนี้เราชอบที่สุดเลยค่ะ รู้สึกว่าเดินไปทางไหนก็สวย มีความเป็นเมืองยุคกลาง อยู่บนเนินนิดๆ ทำให้อาคารบ้านเรือนไร่เรียงกันอย่างสลับซับซ้อน หากมีเวลาสถานที่ที่ควรไปชมได้แก่ Collégiale Notre-Dame โบถส์สวยสไตล์โกธิค, Tour de l’Orle d’Or หนึ่งในสี่หอคอยที่ไว้ปกป้องเมือง และยังมีมิวเซียมที่เข้าไปชมของเก่าเก็บได้อีกด้วยค่ะ ส่วนจุดชมวิวที่เราถ่ายภาพมาจะเป็นตรง Le Pont Pinard จะมองกลับไปจะเห็นทั้งเมืองเลย ตรงนี้สวยมากๆ ค่ะ

คืนนี้เราพักกันที่ Dijon ค่ะ มีร้านอาหารที่ได้รับรางวัลดาวมิชลิน 2 ดาวอยู่ 1 ร้านด้วยค่ะ

ต้องบอกว่าที่พักใน Dijon นั้นราคาดีเลย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับปารีสคือดีกว่ามาก และมักมีที่จอดรถให้ด้วยค่ะ หาโรงแรมราคาดีๆ ใน Dijon >> Click Here


จากนั้นเราก็จะเข้าสู่เมืองใหญ่อย่าง Dijon (ดิจง) ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคนี้อีกด้วยค่ะ Dijon ขึ้นชื่อในเรื่องมัสตาร์ด และก็มีที่เที่ยวน่าสนใจเยอะมาก และเรายังจะพาไปไร่ไวน์ พักที่พักแบบปราสาทกันอีกด้วย

รีวิวเที่ยวแคว้น Burgundy มีทั้งหมด 3 ตอน

[เที่ยว Burgundy ฝรั่งเศส ตอนที่ 1] โร้ดทริปไร่ไวน์ ท่องหมู่บ้านเทพนิยายในแคว้นเบอร์กันดี

[เที่ยว Burgundy ฝรั่งเศส ตอนที่ 2] หนึ่งวันใน Dijon เมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี และ ที่พักแบบปราสาท Chateau

[เที่ยว Burgundy ฝรั่งเศส ตอนที่ 3] ทัวร์ไร่ไวน์เบอร์กันดีใน Cote d’Or, เที่ยวเมือง Beaune และ ปราสาท La Rochepot

รีวิวอื่นๆ ในประเทศฝรั่งเศส

[เที่ยว ฝรั่งเศส ด้วยตัวเอง] เที่ยว Bordeaux ชมไร่ไวน์ดัง หมู่บ้านสวย Saint Emilion พักในปราสาทแบบ Chateau

[เที่ยวฝรั่งเศสด้วยตัวเอง] เมือง Annecy เมืองริมทะเลสาบ น่ารักดั่งเทพนิยาย ใกล้เทือกเขาแอลป์ ประเทศฝรั่งเศส

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: