[เที่ยวคิวชู Ep.2] ขับรถเที่ยวจังหวัดซากะ ปราสาททรงยุโรป ศาลเจ้าท็อปสามของญี่ปุ่น และเรียวกังออนเซน [Arita-Ureshino-Kashima]

มาเที่ยว จังหวัดซากะ ต่อกันค่ะ! ความเดิมตอนที่แล้ว เราได้ขับรถไปกินปลาหมึกที่ Yobuko ไปกินโอมากาเสะสองดาวมิชลินที่ Karatsu จากนั้นจึงไปเที่ยวหมู่บ้านเซรามิค โรงสาเกกัปปะ และ มาพักกันที่เมืองเซรามิค อย่างเมือง Arita ค่ะ

ส่วนวันนี้ เราวางแผนจะขับรถไปต่อยังหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซนผิวสวย และ ศาลเจ้าสำคัญของจังหวัดซากะ ค่ะ

หากใครยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้ว สามารถคลิ๊ก >>เที่ยวเกาะคิวชู EP.1 ปลาหมึกซากะ กระดูกกัปปะ ช้อปปิ้งเซรามิกใบละล้านบาท! [Karatsu-Yobuko-Imari-Arita]


Arita Ceramic

ถนนหน้าที่พักเราเป็นที่อยู่ของร้านเซรามิคของศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่นเต็มไปหมดเลยค่ะ เราใช้เวลาช่วงเช้าในการเดินชมและช้อปปิ้ง โดยมีเป้าหมายเป็นร้านของศิลปินที่เราชื่นชอบและเคยมีโอกาสได้ประมูลงานของเค้าตามงานประมูลของ Christie’s ที่ลอนดอนมาแล้ว

บรรยากาศร้านค้าบนถนนเส้นหลักของ Arita ค่ะ ร้านน่ารักๆ เต็มไปหมด

เมื่อมาถึงร้านของศิลปิน Tetsuaki Nakao ผู้มีชื่อเสียงจากการคิดค้นการเผาและเคลือบที่เค้าตั้งชื่อว่า Galaxy Glaze ที่ทำให้เซรามิคดูมีลายแบบอวกาศคอสมิค จากเพียงการเคลือบ เราได้เจอคุณป้า ผู้เป็นภรรยาดูแลร้านอยู่ จริงเดินเข้าไปถามถึงชิ้นที่อยากได้ และพูดคุยด้วย คุณป้าจึงชวนเราไปที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างออกไป 15 นาที

ที่บ้านของคุณป้าและคุณ Tetsuaki Nakao นั้น เป็นเตาเผาเซรามิคและสตูดิโออยู่ในบริเวณบ้านเลยค่ะ เค้าให้เราได้ทดลองทำ เซรามิคของตัวเอง และยังจะดี จะเผาและเคลือบส่งมาให้อีกด้วย น่ารักมากๆ


Arita Porcelain Park

สวนสาธารณะ ที่มีนิทรรศการเซรามิค แต่ที่สำคัญเลยก็คือ ที่นี่มีการสร้างอาคารตามแบบฉบับของเยอรมัน ทำให้มีอาคารและสวนที่สวยงาม มีเด็กๆ และ ผู้คนมาเดินเล่นมากมาย อากาศสดชื่นจากป่าไม้รอบๆ นับเป็นบรรยากาศ ที่แตกต่างจากที่อื่น แม้ว่าเราจะชอบบ่นว่าเมืองเล็กๆ (จะเรียกว่าบ้านนอกก็พอได้) ของญี่ปุ่นนี่ร้านสะดวกซื้อก็ปิดเร็ว ระบบขนส่งมวลชนก็ไม่ค่อยดี ร้านอาหารก็น้อย ไม่มีพวกเอนเตอร์เทนเม้นท์อย่างเกมส์เซ็นเตอร์หรือคาราโอเกะเลย แต่ข้อดีก็เห็นจะเป็นเรื่องความสงบเนี่ยแหล่ะ และอากาศดี เนี่ยแหล่ะ

ถ้าไม่ได้เข้าในอาคารไปดูนิทรรศการ ก็ไม่มีค่าเข้าชมนะคะ


Yaki Curry

หนึ่งในของเฉพาะเมืองคิวชู เมนู Yaki Curry เป็นเมนูข้าวแกงกะหรี่บนกระทะร้อน เราเลือกมาทานร้านที่อยู่ด้านหน้าทางเข้า Arita Porcelain Park ชื่อร้าน Ran Ran แม้จะอยู่ไกลเมืองขนาดนี้ ก็ยังต้องรอคิวแป้ปนึง ได้ทานข้าวแกงกะหรี่ร้อนๆ ในอากาศหนาวๆ แบบนี้ เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ เลยค่ะ


Yutoku Irani Shrine

จากนั้นเราก็ขับรถตรงยาว ประมาณชั่วโมงนึง มุ่งหน้าไปยัง Kashima ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าที่สำคัญของจังหวัดซากะ และยังเป็น 1 ใน 3 ของศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น เราขับรถไปแวะเช็คอินทีเรียวกังที่เราจะพักในคืนนี้ที่ Ureshino แล้วเปลี่ยนชุดเป็นชุดกิโมโนที่เตรียมมาก่อน พอมาถึงศาลเจ้าแห่งนี้ เราก็ขับรถมาจอดที่จอดรถไม่ไกลจากทางเข้าค่ะ


Warakuen Ryokan

ค่ำคืนนี้เราพักที่เรียวกัง ในเมือง Ureshino ค่ะ เรียวกังชื่อว่า Warakuen เราวางแผนจะใช้เวลาตั้งแต่เช็คอิน ไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ในการอยู่ที่เรียวกังตลอด เนื่องจาก เรียวกังส่วนใหญ่มักมีอาหารเย็นและอาหารเช้ารวมอยู่ด้วย ที่ Warakuen ยังมีห้องออนเซนแบบไพรเวท ที่ให้เวลา 1 ชั่วโมงต่อ 1 ห้องพัก

ส่วนออนเซน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักๆ ที่คนญี่ปุ่นจะมาอยู่เรียวกัง ของที่นี่ก็นับว่าดีมากค่ะ พื้นที่ส่วนกลางก่อนเข้าห้องออนเซน Facility ดีมาก ออนเซนมี 2 บ่อ indoor และ outdoor อัน outdoor จะเป็นออนเซนชาค่ะ ซึ่งเค้าจะให้เอาถุงชาเขียวลงไปแช่แล้วแปะๆ ผิว รู้สึกผิวนุ่มดีนะคะ

อ้อ พูดถึงเมือง Ureshino ที่นี่ดังอยู่สองอย่างค่ะ หนึ่งคือ ออนเซนที่ว่ากันว่าทำให้ผิวสวย ถึงขั้นที่ในเมืองมีศาลเจ้าที่ให้พรเรื่องผิวสวยด้วยนะคะ ส่วนอันที่สองคือเต้าหู้ค่ะ

ดังนั้นของที่ขึ้นชื่อของเมืองก็คือ เมนู “เต้าหู้ต้มน้ำแร่ออนเซน” นั่นเอง ใครมาถึงแล้วต้องทานให้ได้นะคะ ถือเป็นของดีของเด็ดประจำเมืองและจังหวัดเลยล่ะค่ะ

มาชมห้องพักกันก่อนค่ะ ตอนก่อนที่คุณป้ามาปูที่นอนให้จะเป็นแบบนี้ค่ะ

เมืองเล็กๆ ค่อนข้างสงบค่ะ

สำหรับห้องออนเซนรวม ห้ามถ่ายรูปเป็นอันขาดนะคะ ไปดูในเว็ปของ Warakuen ได้ค่ะ อย่างที่บอกว่า ออนเซนบ่อข้างนอกเป็นออนเซนชา วันที่เราไปคิวชูหนาวมากๆ แช่ออนเซนสบายตัวมากเลย

ส่วนอันนี้เป็นออนเซนไพรเวท ที่สามารถใช้ได้ห้องละ 1 ชั่วโมงค่ะ

มาถึงช่วงเวลาอาหารเย็นกันบ้างค่ะ การแช่ออนเซน เสร็จแล้ว มาทาน Kaiseki นี่เป็นความรู้สึกฟินสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ

อย่างที่บอกไปว่า ของเด็ดของเมือง Ureshino ก็คือ Onsen Tofu หรือ เต้าหู้น้ำแร่ เซ็ท Kaiseki อาหารเย็นที่เรียวกัง ก็เสิร์ฟเป็นเต้าหู้น้ำแร่ทำเองเช่นกันค่ะ (จริงๆ มีร้านโอมากาเสะเต้าหู้ในกรุงเทพอยู่ร้านนึง ที่นำน้ำแร่มาจากจังหวัดซากะ คิดว่าน่าจะเป็นไอเดียคล้ายๆ กันล่ะค่ะ ของเค้าดีจริงๆ)

นอกจากนี้ก็จะเป็นของตามธรรมเนียมไคเซกิค่ะ นึ่ง ต้ม ย่าง มีหม้อไฟเนื้อด้วย ดีงามมาก เราไม่ชอบกินเต้าหู้ขาวยังว่าเต้าหู้ที่นี่อร่อยจริง

ทานเสร็จ เดินขึ้นห้องมา ก็จะมีคนมาปูฟูก ฟูตง รอแล้วค่ะ ชอบนอนแบบนี้มากเลย สบายตัว


จบไปอีกวัน ในวันรุ่งขึ้นเราจะพาไปดูอาหารเช้าของเรียวกังแห่งนี้ ก่อนที่จะเดินทางไป หนึ่งในไร่ชามัทชะที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น พาไปทานข้าวหน้าปลาไหลมิชลินสตาร์ ค่ะ

ตอนถัดไป คลิ๊กที่นี่ได้เลย

หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

error: