เที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง ตอนที่ 2 : ไหว้พระขอพรที่วัดอาม่า ชมบ้านจีน Mandarin House

จากการเที่ยวมาเก๊าด้วยตัวเอง ตอนที่แล้ว เรายังคงมุ่งหน้าตามรอยร้านที่ได้รางวัลมิชลินสตาร์ จาก Michelin Guide Hong Kong Macau กันต่อไป แล้ววันนี้ ยังจะพาไปมุมถ่ายรูปสวยสายอนุรักษ์ด้วย หากใครยังไม่ได้อ่าน ตอนที่ 1 สามารถคลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ!
เราใช้เวลาช่วงเช้าอยู่ที่โรงแรม Wynn Palace ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำ จากุชชี่ และ กระเช้า SkyCab ที่เราสามารถชมน้ำพุเต้นระบำจากมุมสูงได้ แถมยังมีรูปปั้นตกแต่งดอกไม้สดและงานศิลปะหลายชิ้นให้ชมอีกด้วย
เราข้ามมาฝั่งมาเก๊า ในช่วงเที่ยง เพื่อที่จะมารับประทานอาหารเที่ยงที่อีกหนึ่งร้านมิชลิน 3 ดาว Robuchon Au Dome ร้านอาหารบนยอดโดมของโรงแรม Grand Lisboa Hotel ร้านนี้มื้อเที่ยงราคาสมเหตุสมผล และของที่ได้นับว่าเกินราคา ไม่ว่าจะเป็น ไวน์ ชีส หรือ dessert trolley เป็นหนึ่งในร้านที่เราขอแนะนำค่ะ บรรยากาศดี เห็นวิวมาเก๊าอีกด้วย
อ่านรีวิว Robuchon Au Dome ฉบับเต็ม คลิ๊กที่นี่
ทานอาหารเสร็จ เรานั่งบัสไปยัง Mandarin House ที่นี่เป็นบ้านจีนที่ถือว่าเป็นบ้านพักอาศัยที่ใหญ่ที่สุดในมาเก๊า สร้างขึ้นเมื่อปี 1869 โดยตระกูล Zheng และมีพื้นที่ถึง 4000 ตร.ม.
อาคารนี้ ถือเป็นอาคารที่เป็นตัวอย่างของการผสมผสานอาคารแบบจีนและตะวันตกเข้าด้วยกันเป็นอย่างดี ภายในมีห้องกว่า 60 ห้อง ค่ะ
Mandarin House เปิดให้เข้าชมฟรีนะคะ
บรรยากาศรอบๆ ภายในบริเวณ แมนดารินเฮ้าส์ ค่ะ
ส่วนตรงนี้คือ บรรยากาศของจัตุรัสด้านหน้าค่ะ
จาก Mandarin House เรามุ่งหน้าไปยังวัดอาม่าโดยการเดินค่ะ เป็นการเดินลงเนินชิวๆ ค่ะ แต่ถ้าใครเดินจากวัดอาม่า มาแมนดารินเฮ้าส์ จะเป็นการขึ้นเนิน เหนื่อยอยู่นะคะ
บรรยากาศระหว่างทางก็จะมีทั้งตึกราบ้านช่อง มีอาคารแนวโปรตุเกสสลับกันบ้าง
ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งมุมสวยๆ ระหว่างทางค่ะ
มาถึง A-Ma Temple หรือ วัดอาม่า กันแล้วค่ะ
วัดอาม่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า เริ่มก่อสร้างขึ้นในยุคราชวงค์หมิง ปีคศ. 1488 เพื่อเป็นการสักการะเทพเจ้า Mazu หรือที่เราอาจจะเคยได้ยินในนาม ม่าจ้อโป๋ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งทะเล ผู้ดูแลชาวประมง
วัดแห่งนี้เป็นเสมือน Complex มีสถาปัตยกรรมจีนหลายอาคาร ขึ้นเนินเข้าไปได้ถึงด้านบน
บรรยากาศลานด้านหน้าวัด
จากนั้นเรานั่งแท๊กซี่กลับมาที่ Wynn Macau กันอีกครั้ง เพื่อจะมาทานอีกหนึ่งร้านอาหารจีนรสเลิศ สองดาวมิชลิน อย่าง ห้องอาหาร Golden Flower ที่นี่เป็นห้องอาหารที่เราประทับใจมาก เราคิดว่าอร่อยมากๆ และจะกลับมาอีก
อ่านรีวิวฉบับเต็ม ห้องอาหาร Golden Flower คลิ๊กที่นี่
เราปิดท้ายวันด้วยการนั่ง Shuttle Bus ข้ามฝั่งมาพักที่เดิม แต่ในวันนี้ ขอไปเดินสำรวจอาคารเปิดใหม่ ที่ดูน่าตื่นตาสุดๆ กันก่อน ที่นี่คือ Morpheus , City of Dream เป็นโรงแรมที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Zaha Hadid ถ้ามองจากด้านนอก อาคารจะเป็นรูปทรงอิสระไม่สมมาตร แล้วมีรูอยู่ตรงกลาง แต่หากเข้ามาที่นี่ แล้วได้มีโอกาสขึ้นลิฟท์ไปชั้นบน เราจะรู้สึกเหมือนอยู่ต่างดาวมาก มันล้ำมากๆ เลยค่ะ
ความพิเศษของที่นี่ คือมีร้าน Pierre Herme ร้านขนมหวานจากปารีสที่เราชื่นชอบ มาเปิดและออกแบบเมนูสำหรับที่นี่โดยเฉพาะ มันสวยมากเลย
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ ถ้าใครมามาเก๊า เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ
ตอนต่อไป วันสุดท้ายในมาเก๊า ที่เราจะพาไปเดินเล่นใน เวเนเตียน หมู่บ้านไทปา และ คาเฟ่สวยๆ กันค่ะ
ไปมาเก๊า ไปกับแอร์เอเชีย อ่านรีวิวได้เลย