ดูไบ ประเทศสหรัฐเอมิเรทส์ (Dubai, United Arab Emirates) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่พัฒนาเร็วที่สุดในโลก ที่มีที่เที่ยวเยอะและหลากหลาย ที่สำคัญยังสามารถบินตรงจากไทย และทำวีซ่าออนไลน์ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะจัดทริปไปเที่ยวทะเลทราย ชมตึกที่สูงที่สุดในโลก หรือจะไปแวะเปลี่ยนเครื่องก็สามารถไปเที่ยวได้สะดวกมากๆ ค่ะ ส่วนตัวนัทเองไปมาหลายครั้ง เลยอยากรวบรวมทุกสิ่งที่ควรรู้มาเป็นคู่มือเที่ยวดูไบ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ด้วยตัวเองค่ะ การเดินทางไป ดูไบ ที่ตั้ง : ดูไบ เป็นนครหนึ่งในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ (United Arab Emirates) หรือที่เรามักเรียกติดปากว่า UAE ซึ่งที่นี่มีทั้งหมด 7 รัฐ ที่คนส่วนใหญ่มักจะเคยได้ยินนอกจาก ดูไบ ก็จะมี อาบูดาบี และ ชาร์จาห์ค่ะ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์นั้น ตั้งอยู่บนอ่าวอาหรับ (หรือจะเรียกว่า อ่าวเปอร์เซีย ก็ได้) มีชายแดนติดกับประเทศโอมาน และ ซาอุดิอาระเบีย การเดินทาง : มีไฟลท์บินตรงจากไทยทุกวัน วันละหลายไฟลท์ และสนามบินดูไบนั้นเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีการสัญจรสูงที่สุดในโลกเลยค่ะ ตัวย่อของสนามบินดูไบคือ DBX มีทั้งหมด 3… [READ MORE…]
เชื่อว่าใครที่ไปดูไบในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะต้องได้นั่งรถผ่านอาคารรูปทรงแปลกตา เป็นอาคารทรงรีที่มีช่องว่างตรงกลาง โดดเด่นอยู่บนถนนเส้นหลักที่ยาวที่สุดในดูไบ ที่นี่คือ Museum of The Future หรือ พิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต พิพิธภัณฑ์เปิดใหม่ในดูไบที่กลายมาเป็นแลนด์มาร์กและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาด และวันนี้ Eat Chill Wander จะพามาชมด้านในกันค่ะ ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ชื่อดังทั่วโลกกำลังจัดแสดงวัตถุโบราณและงานศิลปะชิ้นสำคัญทางประวัติศาสตร์นั้น ที่ Museum of The Future, Dubai เลือกที่จะพาเราไปเที่ยวดูไบในปี ค.ศ. 2071 หรือ 50 ปีหลังจากที่พิพิธภัณฑ์นี้เปิด เพื่อที่จะหาความเป็นไปได้อันหลากหลายของอนาคตของมวลมนุษยชาติค่ะ ที่นี่มีความล้ำในทุกมิติ ทั้งแนวคิด ตัวอาคาร การสร้างสรรค์นิทรรศการด้านใน การออกแบบประสบการณ์ที่เราได้สัมผัส ทุกอย่างที่จัดแสดงที่นี่เกิดขึ้นจากจินตนาการของทีมผู้สร้างและนักออกแบบ โดยการที่เราได้เดินอยู่ในมิวเซียมในปี ค.ศ. 2071 นั้น ก็ทำให้เราได้มองย้อนกลับมาว่าเรารู้สึกอย่างไรกับปัจจุบัน ซึ่งนักออกแบบได้ทำไว้เป็นคำถามปลายเปิดในทุกแง่มุมทั้งวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคม สิ่งแวดล้อม ให้ทุกคนได้กลับคิดถึง ‘อนาคตของตัวเอง’ ด้วยตัวของเราเองว่าอยากเห็นมันเป็นอย่างไร แต่หากใครไม่อินกับคอนเซปท์ที่จับต้องไม่ได้ เรามาชมความล้ำของสถานที่แห่งนี้กันเลย อาคาร Museum of The… [READ MORE…]
เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดในเมืองดูไบ กับ ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) ตึกที่สูงที่สุดในโลก โดดเด่นอยู่ในสกายไลน์ของเมืองดูไบ ครองสถิติโลกมานานตั้งแต่ปี 2009 และยังไม่มีใครล้มล้างได้ เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าของมนุษย์ และวันนี้เราจะพาไปเที่ยวตึกเบิร์จคาลิฟากันค่ะ! ตึกเบิร์จคาลิฟานั้นมีความสูง 828 เมตร จำนวน 163 ชั้น หากนึกไม่ออกให้ลองเทียบว่า สูงกว่าตึกมหานครที่กรุงเทพฯ ถึง 2.6 เท่า นั่นหมายความว่าต้องเอาตึกมหานครมาต่อกันสองตึกครึ่งถึงจะเป็นความสูงของที่นี่ คำว่า Burj นั้นแปลว่า ตึกหรืออาคาร และ Khalifa เป็นชื่อของ Khalifa bin Zayed Al Nahyan ซึ่งเป็นอดีตประธานธิบดีของสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ใช้เวลาก่อสร้างตั้งแต่ปี 2004 และแล้วเสร็จในปี 2009 และเปิดสู่สาธารณชนในปี 2010 ครองสถิติตึกที่สูงที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน พอได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกแล้ว เลยได้สถิติโลกอื่นๆ ตามมา อาทิเช่น อาคารที่มีจำนวนชั้นเยอะที่สุดในโลก จุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดในโลก ลิฟท์ที่มีระยะทางยาวและสูงที่สุดในโลก ที่อยู่อาศัยที่สูงที่สุดในโลก ฯลฯ เพื่อได้รับประสบการณ์ที่เต็มอิ่ม นัทแนะนำให้ขึ้นไปชมวิวจากชั้นบนค่ะ… [READ MORE…]
สวนดอกไม้แห่งนี้ ใหญ่เหมือนสวนสนุก และก็เป็นเหตุผลว่า ทำไมใครๆ ก็มาเที่ยว Dubai Miracle Garden สวนดอกไม้ที่เป็นเจ้าของสถิติโลกในการจัดดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บนผลงานเครื่องบินแอร์บัส A380 ที่ถูกปกคลุมด้วยดอกไม้กว่าห้าแสนดอก และทั้งสวน Dubai Miracle Garden นั้น มีดอกไม้อยู่กว่า 150 ล้านดอกเลยทีเดียวค่ะ แม้ว่าดูไบจะเป็นเมืองที่สร้างขึ้นกลางทะเลทราย และเราอาจจะไม่นึกถึงสวนดอกไม้ แต่ต้องบอกว่า สวนดอกไม้ที่นี่ ไม่ได้เหมือนที่อื่น การจัดดอกไม้ให้เป็นรูปต่างๆ นั้น ใหญ่อลังการมาก โดยเราจะเห็นทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาชมสวนดอกไม้แห่งนี้ซึ่งจะเปิดให้ช่วงปลายเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนเมษายนของทุกปี ทำให้อากาศไม่ร้อนเกินไปที่จะมาชมความสวยงามของที่นี่ บัตรเข้าชม : นัทซื้อตั๋วเข้า Dubai Miracle Garden ผ่าน Klook.com เลยค่ะ เพราะใช้ QR Code ที่ได้มาในแอพเดินเข้าได้เลย ไม่ต้องไปต่อคิวแล้ว ส่วนตัวนัทจองสถานที่ท่องเที่ยวทุกอย่างในดูไบผ่าน Klook ไปเลย รวมไว้ในแอพเดียวก็จะง่ายที่ไม่ต้องไปล็อกอินซื้อตั๋วทีละเว็ปไซต์ และมีตั๋วทุกที่อยู่เราก็จะไม่งงด้วยค่ะ วางแผนทริปง่ายไปเลย ค่าเข้าชมอยู่ที่ 95 AED ทางไปซื้อบัตร Dubai… [READ MORE…]
เชื่อว่าหนึ่งในภาพที่ใครหลายคนเคยเห็นจากดูไบ คือภาพเกาะที่เป็นรูปต้นปาล์มยื่นออกไปกลางทะเล ที่นี่คือ Palm Jumeirah เกาะที่สร้างขึ้นจากการถมทะเล หนึ่งในความก้าวหน้าทางวิศวกรรมและการออกแบบที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ และเมื่อกลางปี 2023 ที่ผ่านมา ก็มีการเปิด The View at The Palm จุดชมวิวความสูง 240 เมตรแห่งแรก ที่จะทำให้เราได้เห็นเกาะ The Palm ด้วยตาตัวเอง นัทไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เวลาทุกคนเห็นภาพมุมสูงของ The Palm แล้ว จินตนาการว่าของจริงเป็นอย่างไร แต่ตอนที่นัทมาเที่ยวดูไบครั้งแรก นัทหลงนั่งบัสเข้าไปเที่ยวในโครงการ และพบว่า เห็นแบบนี้ ใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการวนชายฝั่งรอบนอกจนได้เข้าใจว่า โค้งนอกสุดนั้น ระยะทางยาวเป็น 10 กม. มีรีสอร์ทใหญ่ระดังโลกอยู่เป็นสิบ เมื่อก่อนนั้น เราจะเห็นภาพของ Palm Jumeirah มุมสูงได้จากภาพถ่ายทางอากาศเท่านั้น นี่เลยเป็นครั้งแรกที่มีจุดชมวิวให้เราได้เห็นด้วยตาตัวเองค่ะ โดย The View at The Palm นั้น จะตั้งอยู่ชั้น 52… [READ MORE…]
ดูไบ (Dubai) ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เที่ยวง่าย มีกิจกรรมให้ทำเยอะ มีที่เที่ยวน่าสนใจหลายอย่าง สามารถทำจัดเป็นทริปมาจากไทย หรือ มาแวะเที่ยวระหว่างทรานสิทเปลี่ยนเครื่องก็สะดวก วันนี้ นัทและ Eat Chill Wander ขอพาทุกคนไปเที่ยวเมืองสุดอลังการที่สร้างขึ้นมาบนทะเลทราย ที่อยู่ของตึกที่สูงที่สุดในโลกและสถิติโลกมากมาย ยิ่งมีเที่ยวบินตรงเยอะ ขอวีซ่าออนไลน์สะดวก ทำให้เมืองดูไบ กลายเป็นอีกเมืองที่น่าเที่ยวสุดๆ ไปเลยค่ะ โพสท์นี้มาพบกับ 20 ที่เที่ยวในดูไบที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ยังมีโพสท์ลายแทงคาเฟ่-ร้านอาหารสวยๆ แยกไว้เผื่อไปตามรอยอีกด้วยนะคะ แนบไว้ให้ท้ายบทความนะ การเดินทางไปดูไบ ที่ตั้ง : ดูไบ เป็นนครหนึ่งในประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ (United Arab Emirates) เป็นเมืองติดทะเลในอ่าวอาหรับ (หรือเรียกว่าอ่าวเปอร์เซียก็ได้) การเดินทาง : มีทั้งไฟลท์บินตรงและแบบต่อเครื่องจากไทยทุกวัน หากมาทรานสิทเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบแล้วมีเวลาต่อเครื่องเกิน 10 ชั่วโมงขึ้นไป แนะนำว่าออกมาเที่ยวในเมืองดูไบได้สบายๆ ค่ะ สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com หรือ Trip.com < คลิ๊กที่ลิงค์ได้เลยค่ะ VISA :… [READ MORE…]
มีแพลนไปเที่ยวหรือเปลี่ยนเครื่องกันที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ อยู่รึป่าวคะ? นอกจากที่เที่ยวเก๋ๆ ชิคๆ ทั้งในเมือง และ ทะเลทรายแล้ว ดูไบนี่เป็นเมืองที่คาเฟ่ฮอปปิ้งสนุกมาก และมากี่ครั้งก็มีร้านใหม่ให้ไปตลอดเลย วันนี้ เราขอพาไป คาเฟ่ บาร์ ร้านอาหาร 12 แห่ง 12 สไตล์ ในเมืองดูไบ ที่ห้ามพลาดเลย!! อัพเดทปี 2024 เลยค่ะ ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการไปดูไบ วีซ่า การเดินทางรอบๆ รายละเอียดต่างๆ นัทเขียนแยกไว้ในอีกตอนนะคะ> คลิ๊กที่นี่เพื่ออ่านข้อควรรู้ก่อนไปดูไบ นัทรวบรวม 20 ที่เที่ยวในดูไบไว้ด้วยค่ะ มีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะมาก >> คลิ๊กที่นี่เพื่ออ่าน The beautiful cafes and restaurants in Dubai 2024 1. Arabian Tea House Restaurant & Cafe – Al Fahidi ร้านนี้เป็นคาเฟ่และร้านอาหารค่ะ… [READ MORE…]
ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์นั้น เป็นเมืองสุดล้ำที่กลับมาเที่ยวทุกครั้ง ก็จะมีอะไรใหม่ๆ น่าตื่นตาตื่นใจทุกครั้ง และในครั้งนี้ เรามีโอกาสได้มาพัก NH Collection Dubai The Palm ซึ่งถือเป็นโรงแรมเปิดใหม่ และ เป็นโรงแรมจาก NH Hotels แห่งแรกในดูไบ อยู่ในโลเคชั่นที่ดี มีสระว่ายน้ำรูฟท็อปวิวอลังการ มีบีชคลับในบริเวณโรงแรม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน NH Collection Dubai The Palm แบรนด์โรงแรม NH Hotels and Resorts นั้นเป็นโรงแรมอัพสเกลชั้นนำที่มีกว่าสามร้อยสาขาและก็มักจะอยู่ในโลเคชั่นที่ดีมากๆ ทั้งในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ในฝั่งยุโรปและอเมริกา โดย NH Collection Dubai The Palm นั้นเป็น NH Collection แห่งแรกในดูไบ ที่ยังคงคอนเซปท์เรื่องโลเคชั่นและความสะดวกสบาย ตั้งอยู่บน West Palm Beach ซึ่งอยู่บริเวณทางเข้า The Palm Jumeirah ซึ่งภายในนั้นเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์และมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายอย่าง ถือว่าเดินทางโดยรถยนต์และแท็กซี่สะดวกมากๆ… [READ MORE…]
ไหนๆก็ต้องไปแวะต่อเครื่องที่ดูไบอยู่แล้ว งั้นแวะเที่ยวเลยละกัน!! ใครไปต่อเครื่องนานๆ ที่ดูไบ มามุงทางนี้เลย เรื่องของเรื่องคือเราจองตั๋วสายการบิน Emirates ซึ่งต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบิน Dubai ประมาณ 3 ชั่วโมง เลยตัดสินใจว่า เปลี่ยนจาก 3 ชั่วโมง เป็น 21 ชั่วโมงไปเลยดีกว่า เพื่อที่จะได้แวะเที่ยวมหานครยิ่งใหญ่แห่งตะวันออกกลางอย่าง ดูไบ อีกด้วย ข้อมูลทั่วไป (Update 2024) – ดูไบ อยู่ในประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า U.A.E. – เอมิเรทส์ เป็นที่อยู่ของคนกว่า 200 เชื้อชาติ มักจะเป็นที่กล่าวกันว่า ใน U.A.E. นี้มีชาว Emirati จริงๆแค่ 20% ที่เหลือเป็นคนทำงานหรือ Expats ที่ถือว่าที่นี่เป็นบ้าน – และนั่นหมายความว่า ทุกคนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ซึ่งเป็นข้อดีมากค่ะ – ที่นี่เป็นประเทศอาหรับที่ค่อนข้างเปิดกว้าง เรายังจะเห็นร้านที่ไม่เสิร์ฟแอลกอฮอลล์ และ การปฏิบัติตามหลักศาสนา… [READ MORE…]