คู่มือเที่ยว DUBAI ด้วยตัวเอง : ที่พักดูไบ และ ทุกสิ่งที่ควรรู้ก่อนไปดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์
ดูไบ ประเทศสหรัฐเอมิเรทส์ (Dubai, United Arab Emirates) เป็นอีกหนึ่งเมืองที่พัฒนาเร็วที่สุดในโลก ที่มีที่เที่ยวเยอะและหลากหลาย ที่สำคัญยังสามารถบินตรงจากไทย และทำวีซ่าออนไลน์ได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะจัดทริปไปเที่ยวทะเลทราย ชมตึกที่สูงที่สุดในโลก หรือจะไปแวะเปลี่ยนเครื่องก็สามารถไปเที่ยวได้สะดวกมากๆ ค่ะ ส่วนตัวนัทเองไปมาหลายครั้ง เลยอยากรวบรวมทุกสิ่งที่ควรรู้มาเป็นคู่มือเที่ยวดูไบ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ด้วยตัวเองค่ะ
การเดินทางไป ดูไบ
ที่ตั้ง : ดูไบ เป็นนครหนึ่งในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ (United Arab Emirates) หรือที่เรามักเรียกติดปากว่า UAE ซึ่งที่นี่มีทั้งหมด 7 รัฐ ที่คนส่วนใหญ่มักจะเคยได้ยินนอกจาก ดูไบ ก็จะมี อาบูดาบี และ ชาร์จาห์ค่ะ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรทส์นั้น ตั้งอยู่บนอ่าวอาหรับ (หรือจะเรียกว่า อ่าวเปอร์เซีย ก็ได้) มีชายแดนติดกับประเทศโอมาน และ ซาอุดิอาระเบีย
การเดินทาง : มีไฟลท์บินตรงจากไทยทุกวัน วันละหลายไฟลท์ และสนามบินดูไบนั้นเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีการสัญจรสูงที่สุดในโลกเลยค่ะ ตัวย่อของสนามบินดูไบคือ DBX มีทั้งหมด 3 เทอร์มินอลที่ไม่ได้อยู่ติดกัน นอกจากสายการบิน Emirates แล้ว สายการบินแถบตะวันออกกลางอื่นๆ ก็มักจะมีบินมาลงดูไบค่ะ
หากมาทรานสิทเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบแล้วมีเวลาต่อเครื่องเกิน 10 ชั่วโมงขึ้นไป แนะนำว่าออกมาเที่ยวในเมืองดูไบได้สบายๆ ค่ะ
นอกจากนี้ สามารถบินมาลงเมืองอาบูดาบี กับสายการ Etihad แล้วเที่ยวทั้งสองเมืองก็ได้ค่ะ สองเมืองนี้อยู่ห่างกันประมาณ 130 กม. แต่มีโทลล์เวย์ถนนสิบเลนที่ดีมากๆ ขับชั่วโมงเดียวก็ถึงค่ะ
สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ ปกตินัทเทียบราคาที่ Skyscanner.com หรือ Trip.com < คลิ๊กที่ลิงค์ได้เลยค่ะ
VISA : หากมาเปลี่ยนเครื่องแล้วจะออกไปเที่ยว จะมีวีซ่าทรานสิทแบบ 48 ชั่วโมง (ราคา~10USD) และ แบบ 96 ชั่วโมง (ราคา~49USD) ซึ่งใครที่จะมาเที่ยวไม่เกิน 96 ชั่วโมงก็ขอแบบนี้ได้ค่ะ แต่หากใครมาเที่ยวเป็นอาทิตย์แบบนัท ก็ขอแบบ Tourist Visa 30 Day (แบบ Single Entry ราคา~90USD) *ราคานี้ อ้างอิงจากเว็ปสายการบินทั้งเอมิเรทส์และเอทิฮัด เป็นราคาวีซ่า แต่อาจจะไม่รวมค่าดำเนินการของสายการบินหรือเอเจนซี่ค่ะ
วีซ่าทุกแบบ หากบินกับสายการบิน Emirates หรือ Etihad จะสามารถขอผ่านเว็ปไซต์ของสายการบินได้เลย แต่หากบินกับสายการบินอื่น ก็สามารถให้เอเจนซี่หรือโรงแรมที่โน่นทำเรื่องขอให้ได้ค่ะ ตามหลักการเค้าจะบอกว่าใช้เวลา 4-7 วัน แต่นัทไปมา 4 ครั้ง ทุกครั้งคือกดวันนี้ พรุ่งนี้ได้วีซ่าเข้าเมล์ ทุกครั้งเลย รอบล่าสุดนัทไม่ได้ปริ้นท์ไปด้วย เค้าก็ไม่ดูนะคะ เหมือนมันมีในระบบแล้ว
ที่พักในดูไบ
หากถามว่าไปดูไบพักที่ไหน นัทจะอธิบายภาพรวมคร่าวๆ ว่า ดูไบนั้น เป็นเมืองใหญ่ แต่ก็เป็นเมืองสร้างใหม่ที่มีผังเมืองและถนนหนทางที่ไปไหนมาไหนสะดวก จากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งอาจจะไกลกันถึง 10 กม. แต่ถ้าใช้แท็กซี่หรือเช่ารถขับคือ 10-15 นาทีถึงหมด ถ้ามองในแผนที่คร่าวๆ จะมีโซนที่เริ่มจากสนามบิน ไปจนถึงดาวน์ทาวน์ที่มีตึกเบิร์จคาลิฟา แล้วเลยออกไปตรงที่มีเกาะรูปต้นปาล์ม ซึ่งส่วนตัวนัทจะแบ่งประมาณนี้ค่ะ
– โซนใกล้สนามบินและเมืองเก่าดูไบ (สนามบิน, ตลาดทอง, Deira, Bur Dubai) – แถวนี้ที่พักจะราคาถูกกว่า ซึ่งนัทเคยมาพักแบบยาวๆ หลายอาทิตย์เลยค่ะ นัทเคยพักย่าน Al Rigga ซึ่งคนฟิลิปปินส์ที่มาทำงานที่ดูไบจะอยู่แถวนี้เยอะ ร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างเพียบ ส่วน Bur Dubai อาจจะเป็นชาวอาหรับประเทศอื่น หรือ เอเชียใต้อยู่เยอะค่ะ ก็จะมีความคึกคักของแต่ละย่านต่างกันไป แต่ก็รู้สึกปลอดภัยค่ะ
แถวนี้โรงแรมราคาดีค่ะ หาได้ไม่เกิน 2,000.- ต่อคืน >
Premier Inn Dubai International Airport ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Millennium Airport Hotel Dubai ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Ibis Al Rigga ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Copthorne Hotel Dubai ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Days Hotel By Wyndham Dubai Deira ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Al Seef Heritage Hotel Dubai, Curio Collection by Hilton : โรงแรมนี้ นัทชอบมากกกกก ราคาดี แล้วมันเป็นธีม Arab Souk สร้างเลียนแบบเมืองเก่าอาหรับ ซึ่งมันสวยมากๆ เลยค่ะ ตัวโรงแรมจะกระจายอยู่ใน Al Seef เลย แนะนำมากๆ อาหารเช้าดีด้วย ค่ะ ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
–โซนดาวน์ทาวน์ รอบๆตึกเบิร์จคาลิฟา ไปจนถึง เดอะปาล์มดูไบ แถวนี้ จะเป็นย่านหลักของสถานที่ท่องเที่ยวดังที่เป็นแลนด์มาร์ก และพวกโรงแรมชื่อดังก็จะอยู่แถวนี้เยอะ ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อย แต่คิดว่ามาตรฐานดี สะดวก ราคาก็ไม่ได้โดดจากโรงแรมเชนตามสุขุมวิทเลยค่ะ
โรงแรมเครือดัง ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก >
Sofitel Dubai Downtown ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Dusit Thani Dubai ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Jumeirah Emirates Towers ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
voco Dubai, an IHG Hotel ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Ibis One Central – World Trade Centre Dubai : น่าจะเป็นโรงแรมที่ราคาจับต้องได้ที่สุดในย่านนี้ค่ะ ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Address Downtown : โรงแรมที่มีสระว่ายน้ำเห็นวิวตึกเบิร์จคาลิฟา ตึกที่สูงที่สุดในโลก ชัดที่สุด อลังการสุด ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Palace Downtown : โรงแรมที่อยู่เชื่อมกับดูไบมอลล์ และ ตึกเบิร์จคาลิฟา อยู่แถวนี้ ช้อปปิ้งสนุก ร้านอาหารเพียบ ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
– โซน The Palm Jumeirah หากใครเคยเห็นแผนที่ดูไบ จะเห็นเกาะรูปต้นปาล์มอยู่ ตรงนี้เป็นชายหาดที่สร้างขึ้น กลายเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์และบ้านพักตากอากาศริมหาดไปโดยปริยาย ทำให้มีโรงแรมขึ้นมาอยู่ในโครงการนี้หลายสิบโรงแรมเลยค่ะ ตรงนี้คือเลือกแบรนด์โรงแรมที่ชอบและดีไซน์ได้เลย เพราะบรรยากาศทั้งย่านคือดีมากๆ แต่ก็ต้องขับรถไปกลับที่เที่ยวเป็นหลักเลยค่ะ
NH Collection Dubai The Palm : เป็นโรงแรมที่นัทชอบมากๆ เพราะสระว่ายน้ำวิวสวย ราคาดี ห้องกว้าง ใหม่ สามารถไปใช้บีชคลับที่น่ารักมากๆ ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Anantara The Palm Dubai Resort ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Waldorf Astoria Dubai Palm Jumeirah ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Kempinski Hotel & Residences Palm Jumeirah ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Hilton Dubai Palm Jumeirah ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
สุดยอดโรงแรมหรูที่โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์แห่งดูไบ
โรงแรมหรูเหล่านี้เรียกว่าเป็น Once in a Lifetime experience เลยค่ะ เรียกได้ว่า เซเลบริตี้และเหล่าอีลีททั่วโลกต้องเคยมาเช็คอิน เป็นโรงแรมที่ทำให้เห็นความก้าวหน้าและฟู่ฟ่าของดูไบ ที่หากใครมีโอกาส แนะนำให้ไปซักครั้งนะคะ
Atlantis The Royal : โรงแรมใหม่ล่าสุด (ที่ให้บียอนเซ่มาร้องเพลงในวันเปิดโรงแรม) ดีไซน์สวย มีหาดส่วนตัว โรงแรมใหญ่มากกกก สระว่ายน้ำวิวอลังการ ราคาห้องเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ สองหมื่นบาท แต่ห้องที่เป็นที่พูดถึงกันทั่วโลกคือ Penthouse ราคาคืนละหนึ่งล้านสามแสนบาทค่ะ
One&Only Za’abeel : อีกหนึ่งโรงแรมใหม่ (ที่สู้ Atlantis The Royal โดยให้เจโลมาร้องเพลงวันเปิดโรงแรมแบบปังไม่แพ้กัน) ที่นี่เป็นคอนเซปท์ รีสอร์ทแนวสูงใจกลางเมือง แล้วตั้งแต่เปิดมาแค่ไม่กี่เดือน เรียกว่า รูปบนโซฟาที่สระว่ายน้ำพร้อมวิวสกายไลน์ของดูไบ เป็นรูปเซเลบริตี้ทั่วโลกมาเช็คอินกันไม่หยุดเลย
Jumeirah Mina A’Salam : โรงแรมสวยอลังการ ติดหาด และมีวิว Burj Al Arab อยู่ด้วยค่ะ ที่นี่บริการดีมากๆ ประทับใจ อีกหนึ่งในโรงแรมในตำนานของดูไบที่มีการรีโนเวทใหม่ทั้งหมดในปี 2022 ด้านในบรรยากาศดีมากๆ ค่ะ เป็นเหมือนอาณาจักรของตัวเอง
Bulgari Resort Dubai ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Mandarin Oriental Dubai ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
Four Seasons Dubai at Jumeirah Beach ทางไปจอง > คลิ๊กที่นี่
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับดูไบ
ภาษา : เอมิเรทส์ เป็นที่อยู่ของคนกว่า 200 เชื้อชาติ มักจะเป็นที่กล่าวกันว่า ใน UAE นี้ มีประชากรสิบล้าน แต่มีชาว Emirati จริงๆ แค่ล้านคน ที่เหลือเป็น Expats หรือคนต่างชาติที่เข้ามาทำงาน (และทุกคนมีงานเป็นหลักแหล่ง เลยไม่มีผู้อพยพหรือคนไร้บ้านค่ะ) ข้อดีคือ ทุกคนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ มีอาหารหลากหลาย ที่นี่เป็นประเทศอิสลามที่เน้นการเปิดกว้างสำหรับทุกคน มีโบถส์ มีวัดแขก ส่วนในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มีโซนสำหรับ non-muslim มีเนื้อหมู และ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จำหน่าย ในร้านอาหารและบาร์ส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ร้านอาหรับจ๋าๆ ก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ขายปกติค่ะ
ไปเที่ยวช่วงไหนดี? : ซัมเมอร์ที่นี่ช่วงเดือน พค.-กย. อากาศร้อนมากกกกกถึงมากที่สุด นัทรู้สึกร้อนแบบตายได้จริงๆ เวียนหัวจะเป็นลม แต่ถามว่า เค้าใช้ชีวิตอยู่กันยังไง จริงๆ มันเที่ยวได้นะคะ เพราะคนที่นี่เค้าก็เน้นขับรถแล้วไปจอดในตึกเข้าห้องแอร์เหมือนเรา ที่เที่ยวในห้องแอร์ก็เยอะมากๆ แม้แต่สวนสนุกใหญ่ๆ ก็อยู่ในร่มติดแอร์ แค่ใครที่ชอบเดินตลาด เดินเที่ยวตามเมือง มันร้อนค่ะ อย่างจะเที่ยวทะเลทรายหรือพวกร้านตามหาดก็ต้องเลี่ยงไปตอนเย็นแทน หากสะดวกแนะนำให้ไปเดือน พย. – กพ. เพราะอากาศเย็นสบาย ทะเลทรายนี่ค่อนไปทางหนาวเลยค่ะ เดินเที่ยวพวกตลาดก็สบายค่ะ
ค่าเงิน : เงินที่นี่เป็นหน่วย Dirham ค่ะ แต่ทุกที่รับบัตรเครดิต แม้กระทั่งแท็กซี่ รถไฟฟ้า หรือร้านเล็กๆ เลยใช้บัตรเครดิตเป็นหลักเลย ทั้งทริปนัทใช้เงินสดแค่ตอนขึ้นเรือข้ามฟากค่ะ ครั้งละ 1 Dirham ประมาณ 9-10 บาท
ความปลอดภัย : ไปคนเดียวมาสองครั้ง รู้สึกปลอดภัยมาก พาที่บ้านไปที่บ้านก็ชิลล์ ผู้หญิงที่ดูไบก็ค่อนข้างอิสระในการแต่งตัว ใส่อะไรก็ได้ค่ะ ถ้าสังเกตจริงๆ ที่นี่จะมีมาดามอาหรับที่ถมแบรนด์เนมหนักอยู่ และก็ไม่ได้ต้องระวังเหมือนเวลาไปยุโรปค่ะ
อาหาร : ที่นี่มีอาหารทุกชาติจริงๆ อาหารท้องถิ่นคืออาหารอาหรับซึ่งมีหลายร้านที่อร่อยมากๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบหรือไม่กินอาหารแถบนี้ ก็ทานอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาเลียน ฝรั่งเศส วนไปได้ค่ะ ไฮตี้เหลาก็มี บุฟเฟต์ปิ้งย่างชาบู ส้มตำ มีหมด แค่ไม่มีหมูค่ะ ถ้าอยากทานหมู ต้องไปซื้อซุปเปอร์
หรือถ้าเป็นสายฟู้ดดี้ ก็จะมีร้านที่ได้มิชลินสตาร์ดังๆ อย่าง Hakkasan, Dinner by Heston Blumenthal, Armani Ristorante หรือใครที่ชอบไป Zuma, Roka, Nobu ที่นี่มีหมดค่ะ ส่วนตัวนอกจากอาหารอาหรับ นัทแฮปปี้กับอาหารละตินอเมริกันมาก เพราะหาทานที่ฝั่งเอเชียยาก แต่ดูไบมีร้านดีมากๆ หลายร้านเลย
ลิสท์ร้านอาหาร อ่านได้ที่ >> พาเที่ยว คาเฟ่และร้านอาหารในดูไบ สวยชิค บรรยากาศดี ไปดูไบกินอะไรดี [Dubai Cafe & Restaurant Guide 2024]
วิธีเดินทางในดูไบ
ถามว่าเดินทางยังไงดี นัทว่าขึ้นอยู่กับว่า จะไปไหนบ้าง มีเวลาเยอะน้อยขนาดไหน มีคนหารมั้ย อย่างตอนนัทไปคนเดียวแล้วไปสั้นๆ นัทใช้เมโทร + รถบัสท่องเที่ยวแบบ Hop-on Hop-off เพราะมันพาไปตามจุดท่องเที่ยวครบ, แต่ตอนที่อยู่นานๆ ก็มีทั้งเมโทร บัส และ แท็กซี่, ถ้ามีคนหาร ยังไงเช่ารถก็สะดวกสุดค่ะ
1. เช่ารถขับ : คือวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะเป็นเมืองที่ออกแบบมาให้ขับรถง่าย แทบไม่เจอรถติด น้ำมันรถที่นี่ราคาจะถูกกว่าไทยประมาณครึ่งนึงค่ะ (แต่เค้าไม่มีโซฮอลล์นะคะ มีแต่เบนซิล 95 ไปเลย) ทุกที่มีที่จอดรถ โรงแรม ร้านอาหาร ที่เที่ยวต่างๆ แทบไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถเลยค่ะ
ปกตินัทหารถเช่าอยู่ 2 เว็ปคือ Klook.com กับ Rentalcars.com เพราะทั้งสองอันคือเทียบราคามาจากหลายๆ บริษัทอีกที ก็จะได้เลือกอันที่เหมาะกับความต้องการของเราที่สุดค่ะ
หารถเช่าในดูไบบน Klook.com >> คลิ๊กเลย
หารถเช่าในดูไบบน Rentalcars.com >> คลิ๊กเลย
2. Metro + Bus : เวลาจะไปไหน ถ้ากดกูเกิ้ลแมพ จะมีหมายเลขบัสและเส้นทางของรถไฟเมโทรขึ้นมาเลยค่ะ เมโทรมีสถานีออกจากสนามบินเข้ามาในเมืองเลย ใช้ง่าย แนะนำให้ซื้อบัตรแบบเติมเงินที่สถานีสนามบินได้เลยนะคะ จะได้ไม่ต้องต่อแถวที่สถานี
3. แท็กซี่ : บางที่นั่งบัส+รถไฟฟ้าใช้เวลาครึ่งชั่วโมง แต่ใช้รถแค่ 10 นาที นัทก็เรียกแท็กซี่ง่ายกว่าค่ะ สำหรับ แอพลิเคชั่นเรียกรถที่เหมือน Grab ของที่นี่จะมี UBER กับ Careem ค่ะ ซึ่ง Careem สั่งอาหารได้ด้วย เรียกแท็กซี่ธรรมดาได้ด้วย เราใช้ Careem เป็นหลักเพราะถูกกว่าค่ะ
4. รถบัสท่องเที่ยวแบบ Hop-On Hop-Off : แนะนำสำหรับคนที่มา 1-2 วัน ไม่สะดวกขับรถและไม่มีคนหารค่ะ รถบัสแบบนี้ จะเป็นแบบที่ไปกว่า 40 จุดท่องเที่ยว โดยรถจะมาทุกๆ 30 นาที นั่นหมายความว่า สมมติเราอยากลงตรงไหน ก็ลงไปเที่ยวแล้วกลับมาขึ้นรถไปจุดที่เราสนใจจุดถัดไป ซึ่งเราอาจจะไม่ได้มีเวลาลงครบทุกจุด แต่เราก็จะได้ผ่านครบทุกจุดและรถเป็นแบบมีสองชั้น ชั้นบนเปิดประทุน ก็ยังสามารถถ่ายรูปได้ค่ะ ทางไปซื้อตั๋ว City Sightseeing Bus > คลิ๊กที่นี่
รีวิวอื่นๆ ในดูไบ
หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ หรือไปตามไอจี @eatchillwander อัพเดทกันแบบเรียลไทม์ขอบคุณมากๆ ค่า
ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com