[รีวิว] Club Med Tignes หัดเล่นสกีในเทือกเขาแอลป์ประเทศฝรั่งเศส สกีรีสอร์ทที่รวมทุกอย่างแล้ว

เทือกเขาแอลป์ จุดหมายปลายทางวิวภูเขาหิมะอันสวยงามแห่งทวีปยุโรป ทุกครั้งที่เราได้มาเที่ยวขึ้นกระเช้าไปตามยอดเขาต่างๆ เรามักจะเห็นนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก แบกอุปกรณ์สกีหรือสโนว์บอร์ดมาด้วยเสมอ ทำให้เราเริ่มอยากรู้อยากเห็นว่าทำไมกีฬาชนิดนี้ จึงเป็นที่นิยมอย่างสูง และทำไมชาวยุโรปหลายคน จึงเลือกใช้วันหยุดด้วยการพักผ่อนอยู่สกีรีสอร์ทกันเป็นสัปดาห์

ทริปนี้ นัทจึงมาลองหัดเล่นสกีกันที่หมู่บ้านท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ฝั่งฝรั่งเศส (French Alps) ในเมืองสกีที่โด่งดังในหมู่คนท้องถิ่นที่ชื่อว่า Tignes (ติญน์) และด้วยความที่เราไม่อยากห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย เลยเลือกพักที่ Club Med Tignes (คลับเมด ติญน์) สกีรีสอร์ทแบบ All-Inclusive จ่ายทีเดียวจบ ใครอยากลองเล่นสกี หรือแม้แต่มาพักผ่อนสบายๆ ท่ามกลางภูเขาหิมะ เราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ


Club Med Tignes เหมาะกับใครบ้าง

> คนอยากเรียนสกี/สโนว์บอร์ด โดยไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย : ที่ Club Med Tignes มีคลาสทุกวันที่รวมอยู่แล้ว และมีเส้นทางสกีที่เหมาะกับมือใหม่หลายเส้นทาง ครูสอนที่นี่ใช้ครูที่จบจาก ESF สถาบันสกีฝรั่งเศสที่เราได้ยินกิตติศัพท์ในหมู่ครูสกีว่าสอบยากมาก ส่วนตัวที่ได้เรียนก็ต้องบอกว่า เค้าสอนเบสิคดีมากจริงๆ ค่ะ

> คนอยากมาพักผ่อน สัมผัสหิมะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ : ตัว Ski Pass ที่ได้มาจาก Club Med สามารถใช้ขึ้นไปชมวิวยอดเขาได้หลายจุด ใครที่เคยไปฝั่งสวิตเซอร์แลนด์เพื่อไปนั่งกระเช้าขึ้นชมยอดเขาน่าจะทราบกันดีว่า ค่าตั๋วขึ้นมันแพงขนาดไหน อีกทั้งการพักที่ Club Med ยังรวมอาหาร เครื่องดื่มทั้งแอลและไม่แอล มีให้ทานตลอดวัน จะมาแบบตื่นสายๆ กินๆ นอนๆ เแช่น้ำ ซาวน่า ขึ้นไปชมวิวเขา ก็ยังได้

> คนเล่นสกี/สโนว์บอร์ดเป็นอยู่แล้ว : สกีพาสของที่นี่รวมเส้นทางสกี 161 เส้นทาง นับเป็นระยะทางทั้งหมด 300 กิโลเมตร พร้อมสกีลิฟท์ 76 เส้น มือโปรเค้าเล่นข้ามเขากันไปเลยฉ่ำๆ วิวสวยอลังการ มี Mont Blanc ยอดสูงสุดของแอลป์เป็นฉากหลัง และแม้จะเล่นเป็นอยู่แล้ว แต่อยากเรียนเพิ่ม ที่ Club Med ก็รวมคลาสเลเวลถัดไปไว้ด้วยค่ะ


Club Med Tignes สกีรีสอร์ทในแบบ คลับเมด รวมอะไรแล้วบ้าง?

ถ้าใครเคยไป คลับเมด จะรู้เลยว่า มันคือความสบายใจจริงๆ อยากกินอะไรก็กิน อยากดื่มอะไรก็ดื่ม แบบไม่ต้องยั้ง ไม่ต้องคิดเยอะเลย ซึ่งในที่นี่ราคาที่เราจ่ายจะรวม :

– ห้องพัก และ Facilities ต่างๆ ได้แก่ สระว่ายน้ำ จากุชชี่ ซาวน่า สตรีม ฟิตเนส โยคะ คลาสออกกำลังกาย
– ของกินและเครื่องดื่มที่มีอยู่ทุกมุม เครื่องดื่มทั้งแอลและไม่แอล มีเสิร์ฟตั้งแต่ห้องอาหารหลัก คาเฟ่ บาร์ ยันหน้าล็อกเกอร์สกีที่คอยส่งเราออกไปเล่นและรับเราหลังเล่นเสร็จ ใครสายแอลก็คือดื่มไปได้เลยฉ่ำๆ ส่วนเครื่องดื่มซอฟท์ดริงค์ก็ตัวเลือกเยอะ
– คลาสเรียนสกีแบบกลุ่ม และ Ski Pass หรือค่าขึ้นลิฟท์เพื่อไปเล่นสกีนั่นเอง ซึ่งที่ Tignes นั้น ถ้าซื้อเองจะอยู่วันละ 71 ยูโร สองคนก็ 142 ยูโรแล้ว
– ตอนกลางคืนจะมีปาร์ตี้กับโชว์จากคลับเมด มีทั้งแนวแฟมิลี่ และ แนวตื้ดๆ เลย ซึ่งพอมันรวมเครื่องดื่มอยู่แล้ว ก็ถือว่าประหยัดค่าไนท์ไลฟ์มากๆ

จากเรทค่าห้องช่วงที่นัทไป นัทลองคำนวณก่อนมาแล้ว ถ้าหักค่ากิน ค่าเรียน และ ค่าสกีพาสออกแล้ว ตัวค่าห้องคือถือว่าไม่แพงเลยในมาตรฐานฝรั่งเศส แล้วยิ่งถ้าเทียบกับจะไปเรียนสกีที่สวิสนะ นี่คือราคาแบบน่ารักมากกกก

สิ่งที่ไม่รวม ได้แก่

– ค่าอุปกรณ์สกี เนื่องจากแขกหลายคนก็เอาอุปกรณ์ของตัวเองมา (เพราะคนที่นี่เล่นสกีทีละสองอาทิตย์ หลายคนเลยคิดว่าซื้อไปเลยคุ้มกว่าเช่า) จึงให้แขกเลือกเช่าตามที่แต่ละบุคคลต้องใช้ดีกว่า
– ค่าเดินทางมายังรีสอร์ทและค่าที่จอดรถ
– อื่นๆ เช่น คลาสเรียนแบบส่วนตัว, สปา, เมนูอาหารและไวน์พรีเมียม ซึ่งเค้าจะมีเมนูแยกต้องสั่งเป็นพิเศษ (แต่ที่มีรวมอยู่ ก็เยอะมากแล้วค่ะ)

หากใครหาสกีรีสอร์ทที่รวมทุกอย่างแล้ว ก็ขอแนะนำเลยนะคะ ไปจองกันได้ที่ https://www.clubmed.co.th/r/tignes/w?locale=th-TH ปกติสกีรีสอร์ทของคลับเมด จะต้องจองอย่างน้อยประมาณ 3 คืนนะคะ ลองกดดูค่ะ ราคาไม่เท่ากันในแต่ละช่วงค่ะ หรือสามารถโทร 02-035-6788 คอลเซ็นเตอร์คลับเมด มีจนท.คนไทย เปิดทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 18.30 น. ค่ะ


การเดินทางไปยัง Tignes

สามารถเดินทางจากสนามบิน เจนีวา หรือ สนามบิน Lyon ใช้เวลาขับรถไม่ถึง 3 ชั่วโมงค่ะ ใครที่ตั้งใจจะมาเที่ยว Mont Blanc, Annecy, Geneva คือจัดเป็นทริปเดียวกันได้เลยค่ะ

ส่วนสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ Bourg Saint Maurice นั่งรถไฟมาจาก Geneva/Lyon ได้เช่นกัน จากสถานี Bourg Saint Maurice ขับรถอีกประมาณ 45 นาทีก็ถึงรีสอร์ทค่ะ (จริงๆ สถานี Lyon นั่งรถไฟจากสถานีสนามบินปารีสชาลล์เดอโกล แค่ 2 ชั่วโมงเองนะคะ มันง่ายขนาดนั้นแหล่ะ)

*ค่าแท็กซี่เหมือนจะแพง เพราะระยะทางไกล แต่ถ้ามาหลายคน หารต่อคนแล้ว อาจจะถูกกว่านั่งรถไฟ/บัส นะคะ

สรุปว่า มาได้ทุกแบบ คือ จอง Private Transfer ผ่าน Club Med มาเลยจะง่ายที่สุด, มาโดย รถไฟ+แท็กซี่, รถชัทเทิลบัสตรงจากสนามบินถึง Tignes , เช่ารถขับ

ส่วนตัวนัทมาเที่ยวแถวนี้ เช่ารถขับตลอดเลยค่ะ มันดีไซน์เส้นทางให้ผ่านเมืองสวยๆ ได้หลายแบบมากกกก อย่างครั้งนี้ เราลงสนามบินมิลาน แล้วมาแวะตูริน ขึ้นมาเล่นสกี แล้วก็ลงไปเที่ยวรอบทะเลสาบเจนีวา กลับอิตาลีทางเมือง Aosta ซึ่งขับกลับสนามบินมิลานง่ายมากค่ะ ถนนดีตลอดทาง


ห้องพัก Club Med Tignes

ห้องพักที่นี่จะเน้นไว้เพื่อพักผ่อนและประโยชน์ใช้สอยจริงๆ ค่ะ เนื่องจากมีกิจกรรม และมีอาหารเสิร์ฟอยู่ตลอดเวลา ทำให้แขกที่มาพัก ใช้เวลานอกห้องค่อนข้างเยอะ ดังนั้นแม้จะเป็นห้องแบบ Superior Room ขนาด 24 ตร.ม. ก็อยู่สบายแบบเหลือๆ เลยค่ะ มีอ่างอาบน้ำตั้งแต่ห้องเริ่มต้นเลย

แต่ถ้าใครต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้นมา ทางโรงแรมก็มีห้อง Deluxe ขนาด 29 ตร.ม. และ ห้อง Suites ที่จะมาพร้อมกับเบเนฟิตของ Exclusive Collection ของคลับเมดด้วยค่ะ

ห้องสะอาด เตียงนอนสบายเลยค่ะ สิ่งที่นัทชอบมากๆ คือตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของที่เป็นชั้นวาง รวมถึงที่แขวนบนผนัง รู้สึกว่าทางโรงแรมออกแบบมาเพื่อคนที่มาอยู่เล่นสกีเป็นอาทิตย์ๆ จริงๆ ค่ะ

ห้องสุขาแยกจากห้องน้ำ ในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำที่น้ำอุ่นและฝักบัวน้ำแรง แช่อ่างอาบน้ำสบายๆ มีสบู่แชมพู ดรายเป่าผมเตรียมไว้ให้

ที่มินิบาร์จะมีแค่กาน้ำร้อน และไม่มีตู้เย็น แต่คลับเมดมีอาหารและเครื่องดื่มให้ทานตลอดวัน จะเดินไปหยิบตอนไหนก็ได้


ห้องอาหารและบาร์

ที่นี่จะมี 4 จุดหลักๆ ค่ะ ซึ่งทุกจุดสามารถใช้บริการได้ ทุกอย่างคือรวมแล้วค่ะ

Main Restaurant : Le Val Claret

ห้องนี้ คือห้องอาหารหลัก อยู่ที่ชั้น 3 ของอาคาร เสิร์ฟไลน์บุฟเฟต์ทั้งเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งความพีคคือเมนูเปลี่ยนทุกวัน!!! ถ้าชอบเมนูไหนให้ตักทานเลยนะคะ เพราะวันถัดไปมันอาจจะเปลี่ยนแล้วไม่มีแล้ว เค้าจะมีเมนูท้องถิ่นเวียนมาเรื่อยๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้น จะมีเมนูหลักที่อยู่ตลอดเช่น เบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ สลัดหลากชนิด ปลาย่าง ไลน์ขนมปัง โคลด์คัทส์ ชีสท้องถิ่น จะมีทุกวันค่ะ

สำหรับอาหารเช้า นัทประทับใจมากที่มีน้ำส้มคั้นสด ส่วนอื่นๆ ก็ครบครัน ภูมิภาคนี้ดังเรื่องชีส ก็มีชีสท้องถิ่นเพียบ ครัวซองท์ ขนมปัง เมนูไข่ สลัด ไส้กรอก ผลไม้ มีครบหมดค่ะ

เมนูอาหารเที่ยงและเย็น อย่างที่บอกว่าเปลี่ยนทุกวัน มันเลยหลากหลายจนถ่ายรูปมาให้ชมไม่หมดเลยค่ะ มีตั้งแต่หอยแมลงภู่อบเนย หมูตุ๋นซอส เนื้อย่าง พิซซ่า ของหวานมากมาย ไอศครีม เครื่องดื่ม ไวน์แดง ไวน์ขาว

Gourmet Lounge : Le Solstice

ห้องนี้ จะเสิร์ฟแค่มื้อเย็นและเสิร์ฟแบบคอร์สเมนู ซึ่งรวมอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม มีแค่บางเมนูที่เป็นเมนูพรีเมียม ซึ่งเค้าจะระบุไว้ชัดเจนเลยว่าต้องเพิ่มเท่าไหร่ค่ะ แต่เมนูที่รวมอยู่แล้ว ก็คือสั่งเท่าไหร่ก็ได้ นัทสั่งได้แค่ สตาร์ทเตอร์ กับ ฟองดูมาเป็นเมนดิช ก็คืออิ่มมากๆ แล้วค่ะ

ของดีของเด็ดประจำห้องอาหารนี้คือ “Fondue Savoyarde” แปลว่า ฟองดูสไตล์ซาวัว ซึ่งหากใครเคยกินสวิสฟองดู แล้วอาจจะไม่ได้ชอบขนาดนั้น นัทขอให้เปิดใจมาลองทานฟองดูซาวัว ดูนะคะ เพราะว่า ชีสกลิ่นไม่แรง อร่อย เหมือนพวกดิปปิ้งชีสที่เราทานกัน มีความเยิ้มมากๆ คือเป็นครั้งแรกที่นัททานฟองดูหมดหม้อ แล้วทานไปสองรอบในช่วงที่อยู่ที่นี่

ภายในมีบาร์อยู่ด้วยค่ะ มีทั้งพวกค็อกเทล ไวน์ เบียร์ต่างๆ ค็อกเทล ใครอยากลองทานอะไรคือสั่งได้เลยนะคะ รวมแล้ว

Main Bar : Equinoxe

ทางเข้าจากล็อบบี้ จะมีบาร์ขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องดื่มให้เราลองเยอะมาก ตรงนี้ เป็นบาร์หลัก ที่มีเลาจ์ที่ผู้คนชอบมานั่งแฮงค์เอาท์ บางเวลาก็จะมีซุ้มของว่างมาตั้ง ตอนเย็นพวกกิจกรรมปาร์ตี้ การแสดง ก็จะเกิดขึ้นที่นี่ค่ะ

สายแอลกอฮอล์น่าจะถูกใจ เพราะมีเบียร์ให้เลือกหลากหลายมาก ส่วนนัทไม่ดื่ม ก็แฮปปี้มาก เพราะพวกโซดาเค้ามีออปชั่นให้เลือกเยอะมาก ทั้งน้ำผลไม้ น้ำสปาร์คลิ่งรสชาติต่างๆ ม็อกเทล ชา กาแฟ สารพัดเลยค่ะ แม้จะเป็นเครื่องดื่มพวกนี้ ซื้อข้างนอกก็ถือว่าราคาสูงนะคะ นี่เราก็หยิบลองได้แบบสบายใจเลย

Coffee Shop

ตรงนี้คือจุดเสบียงของนัทเลยค่ะ เป็นจุดที่มี ขนม ผลไม้ แซนด์วิช มัฟฟิน คุ้กกี้ ชา กาแฟ เสิร์ฟตลอดเวลา เหมือนคาเฟ่ในเมืองในยุโรปปกติเลย ซึ่งแน่นอนว่าเราสามารถสั่งได้แบบไม่อั้น เพราะค่าใช้จ่ายรวมอยู่แล้ว

ในวันที่เราไม่ไปคลาส ก่อนจะไปเที่ยว เราก็มานั่งเล่นตรงนี้ก่อนค่ะ


Swimming Pool / Jacuzzi

สระว่ายน้ำของที่นี่จะเป็นสระว่ายน้ำควบคุมอุณหภูมิขนาดใหญ่อยู่ในอาคาร แต่เป็นหน้าต่างกระจกที่เรามองวิวภูเขาได้ มีสระเด็กอยู่ข้างๆ ในภายยังมีห้องสตีมและซาวน่าไว้ให้บริการอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมี จากุซซี่รวม 2 บ่อ ที่อยู่บริเวณภายนอก น้ำอุ่นกำลังดี และมีสระว่ายน้ำนอกอาคารที่เปิดเฉพาะช่วงฤดูร้อนด้วยค่ะ


Ski Class / Ski Area

ใครที่เริ่มหัดสกีใหม่ๆ น่าจะเคยได้ยินคำว่า “Ski-in Ski-out” มาบ้าง มันหมายถึงที่พักที่คุณสามารถ Ski-out สกีออกจากประตูไป ขึ้นสกีลิฟท์ สกีลงมาตามสโลป แล้ว Ski-in คือสกีเข้ามาที่ที่พักได้เลย ซึ่ง Club Med Tignes เป็นแบบนั้นค่ะ (ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่หมู่บ้าน Tignes เป็นหมู่บ้านสกี ที่มีสเตชั่นเยอะมาก บางครั้ง ครูสอนเค้าจะพาเราไปเรียนที่สโลปอื่น ซึ่งอาจจะมีขึ้นบัสไปนะคะ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ)

และเค้าไม่ได้ Ski-in Ski-out แค่ตัวโรงแรมนะ เค้าใส่ใจถึงขนาดที่ว่า มีล็อกเกอร์เก็บอุปกรณ์สกี “สำหรับทุกห้อง” ใช้ริสท์แบนด์ที่ข้อมือแตะได้เลย ชีวิตมันดีมากค่ะทุกคน เพราะหลายคนจะรู้ว่า สกีบู้ทใส่ยาก สกีหรือบอร์ดก็ต้องแบก หมวกกันน็อค แว่นสกี ถุงมือ การแบกขึ้นลงจากห้อง คือเหนื่อยอยู่ บางที่มีที่วางสกีให้ก็จริง แต่ไม่ได้เป็นล็อกเกอร์ ใครจะมาหยิบสลับไปมั้ยก็ไม่รู้

พอเป็นแบบนี้คือไม่ต้องกลัวของหายเลยค่ะ นัทใส่แค่ชุด เดินลงมาแต่งตัว ใส่อุปกรณ์ตรงนี้ ออกไปสกี พอสกีเสร็จ กลับเข้ามาทิ้งของไว้ตรงล็อกเกอร์ เดินตัวปลิวไปกินข้าว ลั๊นลาสุดๆ

สำหรับคลาสจะมีคลาสทุกระดับ สิ่งที่อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันทำให้เรารู้สึกดีมากๆ คือเราจะเห็นคนยุโรปมาเริ่มหัดสกีตอนโตกันเยอะกว่าที่คิดค่ะ ไม่ใช่ทุกคนจะได้หัดสกีตั้งแต่เด็กๆ เราจะเห็นลุงป้าชาวยุโรปอายุห้าสิบมาเข้าคลาสเริ่มต้น ดังนั้น เราไม่ต้องเขินเลยนะคะ

จุดเด่นของครูที่นี่คือ ทุกคนจะต้องจบหลักสูตรการสอนสกี จากโรงเรียน Ecole de Ski Francais (ESF) ได้ยินมาจากสายสกีว่าเป็นโรงเรียนที่จบยากที่สุด — ออกตัวก่อนว่า นัทไม่ได้มีปัญหา กับการหัดเล่นเอง หรือ การให้คนเล่นสกีเก่งมาสอนเหมือนหลายๆ ที่นะ — แต่ด้วยความที่ตัวนัท ไม่ใช่คนฟิตหรือคนสายสปอร์ตเว่อๆ พอมาเรียนกับครูครั้งนี้ มันมีจุดเปลี่ยนบางจุด เป็นจุดที่เบสิคมาก  แต่ทำให้เรารู้สึกมั่นใจและสบายใจแบบพลิกชีวิตเลยค่ะ

เอาเป็นว่าทั้งทริปนี้อ่ะ สิ่งที่รู้สึกว่าคุ้มที่สุด คือการได้เรียนกับครูจากสถาบันนี้แหล่ะค่ะ การปูพื้นฐานที่แน่น ความนิ่ง ความเป็นโค้ช (บางทีก็ดุนะ คนฝรั่งเศสไม่ค่อยโอ๋ แต่เล่นได้จริงแบบเราก็ไม่คิดว่าเราจะทำได้) คือต้องยกให้เค้าจริงๆ

— การสอนเป็นกลุ่มจะไม่เร็วมาก เค้าประเมินว่า มาพักร้อน 1 สัปดาห์ ก็จะฝึกจนเลื่อนขึ้นได้ 1 เลเวลค่ะ

ใครอยากเรียนไพรเวทก็ติดต่อได้นะคะ มีบริการ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

ส่วนใครที่เล่นเป็นอยู่แล้ว ก็เอนจอยได้เลยค่ะ เส้นทางสกี 161 เส้นทาง นับเป็นระยะทางทั้งหมด 300 กิโลเมตร พร้อมสกีลิฟท์ 76 เส้นวิวสวยอลังการ มี Mont Blanc ยอดสูงสุดของแอลป์เป็นฉากหลัง

ที่นี่มีร้าน Ski Pro-Shop อยู่ภายในโรงแรมเลยค่ะ มีอุปกรณ์ให้เช่าแบบครบครันมากๆ อันนี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่รวมอยู่ในค่าห้อง เพราะว่า ความต้องการมันหลากหลายมาก คนท้องถิ่นหลายคนเอาอุปกรณ์มาเอง บางคนมีแบรนด์ที่ตัวเองชอบ แม้แต่อุปกรณ์ให้เช่าก็มีหลายระดับ ทำให้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคิดรวมไปได้ค่ะ

สิ่งที่นัทชอบสำหรับการเช่าที่นี่คือเค้ามีเครื่องสแกนเท้า ทำให้เค้ารู้เลยว่าต้องใส่บู้ทแบบไหน


ที่เที่ยวสำหรับผู้ไม่เล่นสกี

คนไม่เล่นสกีก็มาพักผ่อนที่นี่ได้เช่นกันนะคะ ลองคิดว่า เราไปนอนชิลล์ๆ ริมทะเลซักอาทิตย์ อันนี้เหมือนกันเลยค่ะ แค่เปลี่ยนจากทะเลเป็นภูเขา คือมันล้อมด้วยธรรมชาติจริงๆ มันชิลล์กว่าการต้องเดินทางมาขึ้นยอดเข้าแบบไปเช้าเย็นกลับมากๆ ลองนึกภาพว่า ตื่นสายๆ ลงมาหาอะไรทาน ขึ้นกระเช้าไปจุดชมวิว เดินเล่น กลับมาทานอาหารเที่ยง ลงไปซาวน่า จากุชชี่ เดินเล่นในเมือง กินๆ นอนๆ อ่านหนังสือ ไปชมวิว Mont Blanc งี้

สำหรับผู้ไม่เล่นสกี จะสามารถขึ้น สกีลิฟท์ 4 เส้น กระเช้า 3 เส้น และ เส้นทางพิเศษรถราง Funicular Perce Neige ที่ไปต่อที่กระเช้า Grande Motte เป็นกระเช้าที่มีรูฟท็อปด้านบนไว้ชมวิวที่สูงที่สุดในโลกตอนนี้

นอกจากไปเรียนสกี นัทก็ไปขึ้นกระเช้าทีละเส้นค่ะ ยังไปไม่ครบเลย นัทว่าขึ้นจุดนึง จะใช้เวลาอย่างน้อยประมาณครึ่งวันเลยค่ะ คือคนเล่นสกีเค้าจะชอบมีคำพูดว่า วิวบางวิว ต้องเล่นสกีเท่านั้นถึงจะเห็น แต่จริงๆ เราที่ไม่เล่นสกีก็ขึ้นไปชมวิวจากข้างบนด้วยเส้นทางเหล่านี้ได้เหมือนกัน อาจจะไม่ทั้งหมด แต่ก็เป็นวิวที่ไม่ได้เห็นในชีวิตประจำวันแน่นอนค่ะ

ขึ้นไปแล้วจะรู้เลยว่า ทำไมหลายๆ คน เลือกที่จะใช้วันหยุดพักร้อน 1 สัปดาห์ อยู่ที่สกีรีสอร์ททั้งสัปดาห์

ในช่วงหน้าร้อน ทางรีสอร์ทก็เปิดทำการนะคะ แต่เป็นคนละวิวเลยค่ะ เป็นวิวสีเขียว ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า กิจกรรมเป็นการเดินไฮกิ้งแทน


Club Med Activities

นอกจากสระว่ายน้ำ จากุชชี่ และ ซาวน่าแล้ว ที่นี่ยังมี สตูดิโอที่มีคลาสโยคะ คลาสสมาธิผ่อนคลายต่างๆ รวมไปถึงคลาสออกกำลังกาย และฟิตเนสที่ใหญ่กำลังดีด้วยค่ะ

สำหรับใครที่มาพร้อมเด็กๆ นัทได้ยินมาว่า ที่คลับเมดเค้าดังมาก เรื่องพ่อแม่เอาลูกมาฝากไว้ที่ Kid’s Club แล้วไปเล่นสกี มีทั้ง Kid’s Club และ Teen’s Club เลยค่ะ

สุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือทางคลับเมด เค้ามองตัวเองเป็นคลับ คือเหมือนเป็นสมาคมที่รวมคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กันมาอยู่ด้วยกัน ดังนั้น สต๊าฟเค้าจะทั้งบริการและดูแลเราอย่างใกล้ชิดมากๆ บางทีเราจะเห็นเค้ามานั่งทานอาหารด้วย หรือในตอนกลางคืน ก็จะมีโชว์พิเศษ ทั้ง Theater show มีปาร์ตี้ ที่มีชุดธีมในแต่ละวัน เป็นอะไรที่สนุกมากๆ เลยค่ะ


หากใครหาสกีรีสอร์ทที่รวมทุกอย่างแล้ว ก็ขอแนะนำเลยนะคะ ไปจองกันได้ที่ https://www.clubmed.co.th/r/tignes/w?locale=th-TH ปกติสกีรีสอร์ทของคลับเมด จะต้องจองอย่างน้อยประมาณ 3 คืนนะคะ ลองกดดูค่ะ ราคาไม่เท่ากันในแต่ละช่วงค่ะ หรือสามารถโทร 02-035-6788 คอลเซ็นเตอร์คลับเมด มีจนท.คนไทย เปิดทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 18.30 น. ค่ะ


ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: