[รีวิว] พาเที่ยว Disneyland Paris และรวมทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนไป ดิสนีย์แลนด์ ปารีส!!

เข้าสู่ดินแดนแห่งจินตนาการ และ จุดหมายในฝันของใครหลายๆ คน ที่นี่ ดิสนีย์แลนด์ ปารีส (Disneyland Paris) สวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกและแห่งเดียวในทวีปยุโรปที่หากคุณมาถึงปารีสแล้ว ไม่ควรพลาด

ในรีวิวนี้ นัทอยากจะแชร์ทิปส์ต่างๆ ที่น่าจะทำให้เพื่อนๆ สามารถวางแผนได้ดียิ่งขึ้น วิธีซื้อตั๋ว วิธีเดินทาง เครื่องเล่นที่น่าเล่น รวมไปถึงบรรยากาศ ดิสนีย์แลนด์ ปารีส (Disneyland Paris) ใน 3 เทศกาลที่เราเคยสัมผัสมา พร้อมแล้วตามมาเลยนะคะ


ดิสนีย์แลนด์ ปารีส (Disneyland Paris)

ดิสนีย์แลนด์ปารีส ประกอบไปด้วย สวนสนุก 2 ปาร์ค ได้แก่ Disneyland Park ที่มีปราสาทเจ้าหญิง เป็นปาร์คหลัก และ Walt Disney Studios Park ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่แม้จะเล็กกว่า นัทก็เชียร์ให้ไปทั้ง 2 ปาร์คนะคะ เพราะเครื่องเล่นเด็ดๆ อยู่ใน Walt Disney Studios Park หลายเครื่อง และ ทั้ง 2 ปาร์ค เดินหากันได้ง่ายๆ เลยค่ะ

นอกจาก 2 สวนสนุก  ก็จะมี Disney Village ที่เป็นฟีลคอมมิวนิตี้มอลล์ มีร้านอาหาร ร้านค้า ตรงนี้ไม่ต้องใช้บัตรเข้าค่ะ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นโรงแรมอีก 6 แห่งค่ะ

ด้วยความที่ Walt Disney Studios Park ไม่ใหญ่มากนัก (เล็กกว่า Hollywood Studio ที่แอลเอ) ดังนั้น หากมีเวลาจำกัดก็สามารถเที่ยว 2 พาร์คใน 1 วันได้เลยค่ะ ต่างจากที่โตเกียวและออแลนโด้ ที่ส่วนตัวนัทจะแนะนำให้แยกวันค่ะ

ที่นี่เปิดให้ทำการครั้งแรกในชื่อ EuroDisney ในปี 1992 ข้อดีที่ยังคงอยู่คือ ด้วยความที่ตอนนั้นสร้างให้เป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งยุโรป จึงมีการออกแบบที่ใช้ภาษาอังกฤษร่วมเป็นภาษาหลักด้วยค่ะ เครื่องเล่นก็จะยังพูดเป็นภาษาอังกฤษสลับกับฝรั่งเศสค่ะ


วิธีการจอง และ ราคาตั๋ว Disneyland Paris

สำหรับตั๋วเข้าดิสนีย์แลนด์จะมี 2 อย่างที่คุณต้องเลือก คือ จำนวนสวนสนุก และ จำนวนวัน ค่ะ อย่างที่บอกไปว่า Disneyland Park และ Walt Disney Studio Park นั้น แยกเป็น 2 ปาร์ค หมายความว่าถ้าเราเลือก 1 Park จะเข้าได้แค่ปาร์คใดปาร์คหนึ่งเท่านั้นค่ะ

ซึ่งนัทแนะนำทั้ง 2 ปาร์คเลยนะคะ อยู่ที่ว่าคุณมีเวลากี่วัน ถ้ามีเวลา 2 วัน ก็ซื้อ วันละ 1 ปาร์คก็ได้ค่ะ แต่ถ้ามีเวลาวันเดียว แนะนำให้เลือกเป็น 1 Day 2 Parks เพื่อที่จะได้เล่นให้ครบ ซึ่งนัทคิดว่าวางแผนดีๆ ก็เดินได้ทั่วและเล่นทันค่ะ

ราคาค่าเข้าดิสนีย์แลนด์ปารีส จะแพงกว่าในช่วงวีคเอนด์ และ วันหยุดยาวค่ะ

ส่วนตัวนัทแนะนำให้ซื้อออนไลน์ไปก่อนเลย เพราะซื้อที่หน้าสวนสนุกนอกจากจะต้องไปต่อคิวแล้ว ยังแพงกว่าด้วยค่ะ สำหรับออนไลน์ นัทลองเทียบกับบนเว็ปดิสนีย์แล้ว ซื้อใน Klook.com จะถูกกว่าเสมอเลย และเรายังสามารถสะสมแต้ม ใช้โค้ดส่วนลดพิเศษต่างๆ ได้อีกต่างหาก แถมได้ตั๋วจริงทางอีเมล์เลยค่ะ เปิดบาร์โค้ดบนหน้าจอมือถือและสแกนเข้าสวนสนุกได้เลย ไม่ต้องแลกตั๋ว ไม่ต้องต่อคิวแล้วค่ะ เดินตรงไปที่ทางเข้าได้เลย

อย่างช่วงที่นัทไป ตั๋วแบบ 1 Day 2 Parks บนเว็ปดิสนีย์จะอยู่ที่ 3,167 บาท แต่บน Klook อยู่ที่ 2,727 บาทเท่านั้นค่ะ

ทางไปซื้อตั๋ว คลิ๊กที่นี่ >> Klook.com

หากซื้อตั๋วแบบ 2 Parks จะสามารถเดินเข้าออกกี่รอบก็ได้นะคะ จะเดินกลับไปกลับมาก็ได้ค่ะ ใช้บาร์โค้ดจากอีเมล์เหมือนเดิมเลยค่ะ สแกนจากมือถือได้เช่นกัน สะดวกสุดๆ


วิธีการเดินทางไป Disneyland Paris

ดิสนีย์แลนด์ปารีส ตั้งอยู่ห่างจากกรุงปารีส 32 กิโลเมตร โดยสามารถเดินทางได้ดังนี้

1. รถไฟ RER – สำหรับนัทคิดว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพราะ รถไฟ RER สาย A ที่สุดสายที่ Disneyland มีรถไฟค่อนข้างถี่ และใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 40 นาทีจากใจกลางปารีส สถานีรถไฟ RER สาย A เอง ยังมีจุดเชื่อมกับเมโทรเกือบทุกสายในปารีสอีกด้วยค่ะ

ตอนขึ้นรถไฟดูป้ายที่ชานชาลาดีๆ นะคะ ให้แน่ใจว่ารถไฟไปสุดสายสถานีปลายทาง Marne-la-Vallee Chessy (Parc Disneyland) เพราะบางขบวนจะไปสุดสายหรือแยกไปอีกทางค่ะ — ค่าตั๋วต่อเที่ยว 7,60 Euro ที่ตู้กดตั๋วมีให้กดว่า Disneyland เลยค่ะ

2. Shuttle Bus – สามารถเลือกได้ตอนซื้อตั๋วของสวนสนุกค่ะ ขึ้นได้จาก 3 จุด กลางเมือง ซึ่งเราต้องเลือกตั้งแต่ตอนซื้อตั๋วค่ะ และมีรอบเดียวคือออกตั้งแต่ช่วง 8.20 น. ส่วนขากลับจะเป็นเวลาตามสวนสนุกปิดค่ะ ข้อดีคือ นั่งตรงยาว ไม่ต้องขึ้นลงรถไฟ หรือ ซื้อตั๋วหลายรอบ แต่ข้อเสียคือ มีรถขาไปรอบเดียว ขากลับรอบเดียว เลยค่ะ ส่วนราคาก็ถือว่าสูงกว่ารถไฟค่ะ

3. ขับรถมาเอง – นัทเคยครั้งนึง จะบอกว่า มันไม่ได้สบายกว่ามารถไฟเลยค่ะ เพราะยังไงก็ต้องจอดรถทิ้งไว้ ค่าจอดค่อนข้างแพง ราคาเพิ่มทุกๆ 15 นาที เริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 3.60 Euro ไปจบที่ 7 ชั่วโมง 24 Euro ก็ราวๆ หนึ่งพันบาท แล้วก็นัทว่าเดินจากที่จอดรถไปถึงทางเข้าดิสนีย์แลนด์ ไกลกว่าเดินจากสถานีรถไฟค่ะ ถ้าใครเคยเดินมาตรงที่มีบอลลูนรูปมิกกี้ใน Disney Village ตัวที่จอดรถคือเดินไปสุดตรงร้านเบอร์เกอร์ Five Guys เลยค่ะ ตอนค่ำที่เหนื่อยแล้วต้องเดินกลับจะรู้สึกว่าไกลมากเลยค่ะ

4. Uber  – แนะนำเป็นอูเบอร์นะคะ เพราะแท็กซี่แพงกว่าเยอะอยู่ นัทเคยนั่งอูเบอร์ อยู่ที่ประมาณ 45 – 60 Euro ขึ้นอยู่กับว่าไปลงแถวไหนในปารีสค่ะ

ซื้อตั๋ว Paris Disneyland ราคาประหยัด – คลิ๊กที่นี่


ข้อควรรู้สำหรับดิสนีย์แลนด์ปารีส 

– โหลดแอพ Disneyland Paris App ก่อนเลยค่ะ เพราะในแอพนี้ สามารถดูเวลารอ (Wait Time) ของแต่ละเครื่องเล่นได้, จองร้านอาหาร, กด Standby Pass, ซื้อตั๋ว Premier Access ได้ค่ะ

– เวลาเปิดปิด ในแต่ละวันและฤดูจะไม่ตรงกันค่ะ เช็คในเว็ปหรือแอพเท่านั้นเลย แต่เปิดทุกวันตลอดปีค่ะ

– การวางแผน นอกจากจะดูเวลาเปิดปิดสวนสนุกแล้ว อาจจะต้องคำนึงถึงเวลาเปิดปิด ของเครื่องเล่นด้วยนะคะ บางเครื่องจะปิดก่อนสวนสนุกปิดชั่วโมงนึง

– ถ้าฝนหรือหิมะตก บางเครื่องเล่นอาจจะปิดนะคะ

– นัทแนะนำให้ดูคร่าวๆ ไปก่อนว่าตัวเองชอบเครื่องเล่นประมาณไหน ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเป็นเครื่องเล่นหวาดเสียว สนุกๆ มักจะต้องรอนานอยู่แล้วค่ะ ส่วนตัวแนะนำให้เลือกจากที่ Wait Time น้อยๆ ไปก่อน อันที่ต้องรอ 60-90 นาที ให้ข้ามไปก่อนค่ะ เพราะซักพัก เวลามันจะเริ่มลดลงค่ะ แต่ถ้าประมาณ 30-45 นาที ก็รอไปได้เลยค่ะ (ทริคนี้เฉพาะที่ปารีสนะคะ ซึ่งมันแปลกมาก นัทมา 4 ครั้ง เป็นแบบนี้ 4 ครั้งเลย คืออันไหนที่รอนานๆ พอผ่านไปซักพัก มันจะลดลง แต่อย่างถ้าเป็นที่โตเกียวกับเซี่ยงไฮ้ จะเล่นอันไหน แม้จะรอนานก็ให้รอไปเลย เพราะมันไม่ลด จะไม่แนะนำแบบนี้เลย)

– แม้ปารีสจะเป็นเมืองแห่งอาหาร แต่อย่าคาดหวังกับอาหารในดิสนีย์แลนด์ปารีสมากนะคะ มันไม่ได้แย่ แต่ไม่สมราคาเท่าไหร่ค่ะ ยังไงแนะนำให้จองก่อนนะคะ จองในแอพได้เลย

– เมนูที่มีแค่ดิสนีย์แลนด์ปารีส ได้แก่ L’Eclaire de Remy จากธีมเรื่อง Ratatouille ที่ร้าน Bistrot Chez Remy, วาฟเฟิลรูป Darth Vader ที่ร้าน Cool Station, Croq de la Savane รูปไลอ้อนคิงที่ร้าน Cool Post แล้วก็ Lady and the Tramp Spaghetti ที่ร้าน Pizzeria Bella Notte

– หากไม่ติดว่าต้องนั่งข้างกันกับคนที่ไปด้วย แถว Single Rider จะเร็วกว่ามากๆ เลยค่ะ

*หมายเหตุ* ต่อจากนี้นัทจะพาไปเที่ยวในสวนสนุกแล้ว และจะมีการรีวิวเครื่องเล่นต่างๆ ค่ะ ความชอบและคอมเม้นท์จะเป็นความคิดเห็นและประสบการณ์ส่วนบุคคลของนัทนะคะ โดยอาจจะมีการสปอยล์ลักษณะเครื่องเล่น ซึ่งนัทมองว่า อาจจะช่วยให้เพื่อนๆ เลือกเครื่องเล่นและวางแผนได้ดีขึ้น แต่ใครที่ไม่อยากโดนสปอยล์เลย แนะนำให้ข้ามไปอ่าน หัวข้อถัดไปได้เลยค่ะ

ซื้อตั๋ว Paris Disneyland ราคาประหยัด – คลิ๊กที่นี่


Disneyland Park / Parc Disneyland

เราพามาทัวร์ปาร์คหลักก่อนนะคะ เพราะมีรายละเอียดเยอะกว่า ใหญ่กว่าอีกปาร์คค่อนข้างมาก ภายในแบ่งเป็น 5 โซน ดังนี้

Main Street USA

เริ่มจากโซนแรก Main Street USA ถนนหลักที่ทอดยาวจากทางเข้าไปสู่ปราสาทดิสนีย์ค่ะ สำหรับโซนนี้ไม่ได้มีเครื่องเล่นค่ะ มีแค่สถานีรถไฟที่วนรอบดิสนีย์แลนด์และสามารถไปลงได้ทั้ง 5 โซน เป็นโซนที่เต็มไปด้วยร้านค้าเหมาะกับการแวะซื้อของที่ระลึกขากลับค่ะ แต่หากมีเวลา นอกจากของที่ระลึกแล้วตรงนี้ยังมีร้านน่ารักๆ เยอะเลยนะคะ เช่น ร้านตัดผม ร้านเสื้อผ้า ร้านพอร์ซเลน และยังมีร้านขนมหลายร้าน ด้านหลังมีเป็นฮอลล์เหมือน Arcade ไปเดินเล่นๆ ได้ แล้วก็ยังเป็นที่อยู่ของพวกที่ทำการค่ะ ไม่ว่าจะฝากกระเป๋า เช่ารถเข็น ฯลฯ

นัทขอวนตามเข็มนาฬิกานะคะ พอเดินมาสุด Main Street ปุ๊ป ทางซ้ายจะเป็น Frontierland ค่ะ

Frontierland

สร้างขึ้นในแบบ อเมริกันฟรอนเทียร์ หรือที่เรียกกันว่า Wild West ฟีลหนังคาวบอยค่ะ จะเป็นธีมหินๆ เหมืองทอง อะไรประมาณนั้น เป็นธีมที่มีทุกสาขายกเว้นเซี่ยงไฮ้ค่ะ

เครื่องเล่นไฮไลท์ใน Frontierland ที่นี่นัทยกให้ 2 อันค่ะ นัทคือ Big Thunder Mountain Railroad และ Phantom Manor ค่ะ 

ช่วงเดือนที่แล้ว เป็นธีมฮาโลวีนค่า

ส่วนเครื่องเล่นอื่นๆ ได้แก่ Thunder Mesa Riverboat Landing เรือที่จะพาเราแล่นชมวิวรอบๆ สระน้ำตรงนี้ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีต่อรอบ ถ้ามีเวลาและชอบชมวิวชิลล์ๆ ก็แนะนำนะคะ ส่วนใหญ่คิวไม่ยาว, Rustler Roundup Shootin’ Gallery เป็นเกมส์ยิงเป้า, Frontierland Playground สนามเด็กเล่นแบบเด็กๆ ปีนป่าย สไลเดอร์เล็กๆ เลย แล้วก็มีโซน Legends of the Wild West ที่ตกแต่งสวยๆ ไว้เดินเล่นได้ค่ะ

Big Thunder Mountain Railroad เป็นเครื่องเล่นแบบรถไฟเหาะค่ะ ถือเป็นรถไฟเหาะที่ทำให้เราร้องกรี้ดได้เรื่อยๆ ค่ะ แต่ไม่ใช่รถไฟเหาะที่โหดหรือหวาดเสียวระดับโลกอะไรแบบนั้นนะคะ มีโซนที่เข้าไปในที่มืดเลย แล้วก็ออกมาไต่ตามตัวภูเขาหินที่เป็นฉากหลักของโซน ซึ่งมุมและบรรยากาศจากมุมสูงสวยดีเลยค่ะ เส้นทางค่อนข้างยาว ต่อคิวแล้วรู้สึกคุ้มค่ะ — ที่สำคัญ ไฮไลท์เลยคือ Big Thunder Mountain Railroad นั้นมีทั้งที่อเมริกาสองสาขา และ โตเกียว แต่ ที่ปารีสเป็นที่เดียว ที่รถไฟ ขึ้นไปวนอยู่บนเกาะกลางน้ำค่ะ เกาะกลางน้ำที่ไม่ได้มีอะไรเชื่อมกับตรงบกเลย มันเจ๋งมากค่ะทุกคน

Phantom Manor เครื่องเล่นแนวห้องมืดๆ ตกแต่งสวยๆ ในธีมบ้านผีสิง (ที่ไม่น่ากลัวค่ะ เป็นบ้านผีสิงแบบแฟนตาซี ฟุ้งๆ คิดว่าดิสนีย์ทำหนังผีจะออกมาเป็นยังไง อะไรประมาณนั้น มีช้อตให้ตกใจเป็นบางจุด) ตัวรถไฟจะวิ่งไปตามห้อง มีจังหวะเหวี่ยงบ้าง แต่ไม่ใช่รถไฟเหาะค่ะ ตัวนี้ถือเป็นเครื่องเล่นธีมบ้านผีสิงของดิสนีย์แลนด์ที่สวยมากกก แสง สี เสียง กราฟฟิคสวย / เด็กๆ หรือ คนกลัวความมืดอาจจะรู้สึกกลัวนะคะ แต่ถ้าคนเล่นเน้นความหวาดเสียวตกใจจะรู้สึกไม่คุ้มต่อคิวค่ะ — เครื่องนี้ ถ้าเทียบเวอร์ชั่นอเมริกาและโตเกียว นัทชอบของที่นี่สุดค่ะ

เดินเลาะไปเรื่อยๆ จะเข้าสู่โซนถัดไป

Adventureland

แอบสารภาพว่า นัทชอบ Adventureland ของดิสนีย์แลนด์ปารีสน้อยที่สุดถ้าเทียบกับสาขาอื่นค่ะ เพราะนัทว่า มันตั้งเครื่องเล่นกระจัดกระจาย และ ธีมมันค่อนข้างกระจายด้วยค่ะ ในโซนนี้จะแบ่งเป็น 3 มุมใหญ่ๆ คือ Indiana Jones ที่ดูฟีลป่าดิบชื้น แต่ร้านอาหารและร้านค้ารอบๆ เป็นไลอ้อนคิงเฉยๆ เลย ทะลุเกาะที่เป็นถ้ำตรงกลางไปจะไปเจอ Pirates of The Caribbean เป็นฉากโจรสลัดกับเกาะรูปหัวกะโหลก แล้วอีกมุมซึ่งต้องเดินย้อนมาจะเป็นมุม Aladdin เล็กๆ ซึ่งยอมรับว่าทุกมุมตกแต่งสวยมากเลยค่ะ

สำหรับนัท ถ้าเดินเลาะมาจาก Frontierland นัทจะมาทางที่ใกล้เครื่อง Indiana Jones แล้วจะเดินทะลุ Adventure Isle ตรงกลาง ไป Pirate of the Caribbean แล้วทะลุไป Fantasyland ตรง Peter Pan’s Flight เลยค่ะ หรือ ถ้ามาจาก Fantasyland ก็คือเดินย้อนทางนี้ — แล้วโซนอะลาดิน ค่อยเดินมาเก็บตอนเดินมาจากปราสาทค่ะ

เครื่องเล่นไฮไลท์ใน Adventureland ได้แก่ Pirates of the Caribbean และ Indiana Jones and the Temple of Peril แต่…. นัทว่าอันหลังไม่ค่อยคุ้มรอคิวค่ะ

Pirates of the Caribbean เป็นเครื่องเล่นแนวล่องไปบนน้ำ ในห้องมืด มีจังหวะตกน้ำ  มีเอฟเฟคท์ไฟต่างๆ เซตติ้งเล่าเรื่อง แจ๊ค สแปโรว์ โมเดลหน้าตาสมจริง สวยงาม — เครื่องนี้มีทุกสาขายกเว้นฮ่องกง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่นัทเลือกจะเล่นซ้ำนะคะ

อย่างไรก็ตาม Pirates of the Caribbean ทุกสาขาจะคล้ายๆกัน ยกเว้นที่สาขาเซี่ยงไฮ้ที่ทำออกมาล้ำมากกกก คนละเรื่องเลยทุกคน เป็นเทคโนโลยี 4D เหมือนเราจมน้ำจริง แบบสุดๆ Pirates ที่เซี่ยงไฮ้เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่น่าเล่นที่สุดของดิสนีย์แลนด์ทั่วโลกแล้วค่ะ

Indiana Jones and the Temple of Peril เป็นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะ และเป็นหนึ่งในรถไฟเหาะที่โหดสุดในดิสนีย์แลนด์ปารีสค่ะ แต่นัทว่าอันนี้เค้าออกแบบมา ไม่ค่อยดี มันมีจังหวะตีลังกาด้วยนะคะ เท่าที่ไปอ่านมา เพราะพื้นที่ของรถไฟเหาะมีจำกัด พวกโค้งมันจะไม่ค่อยสมู้ตและรู้สึกเสียวเท่าไหร่ ที่สำคัญ หนึ่งรอบ สั้นมากกกกกกก น่าจะไม่ถึงนาที คือนัทเคยขึ้นมา 3 รอบกับเพื่อน 3 กลุ่ม ทุกคนพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายตอนจบว่า “แค่นี้หรอ?” (รีวิวเครื่องนี้ในกูเกิ้ลก็เสียงเดียวกัน) — แต่ถ้าคิวไม่ยาว ก็ลองเล่นดูนะคะ ถ้ารอเกิน 30 นาที นัทแนะนำให้ข้ามเลย ไปเล่นเวอร์ชั่นโตเกียวดิสนีย์ซี ดีกว่าเยอะมาก

ส่วนเครื่องเล่นอื่นๆ จะเป็นแบบเดินมุดๆ แบบ Walk-through ค่ะ เช่น Adventure Isle เกาะตรงกลาง เป็นทางที่เดินเลาะแล้วสั้นกว่าอยู่แล้ว ส่วนตัว Le Passage Enchante d’Aladdin ก็ไม่ใช่เครื่องเล่นค่ะ เป็นฉากเซ็ตอัพให้เราเข้าไปเดิน Walk-through เช่นกัน เหมือนเดินอ่านเรื่องราวของ Aladdin แต่ทำสวยค่ะ แวะมาได้ ส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องรอนาน

Fantasyland

เข้าสู่โซนที่เป็น คลาสสิกดิสนีย์ ที่เราทุกคนรักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ โซนนี้นัทว่า มีความเป็น Disneyland มากที่สุดเลย ทุกเครื่องเล่นเป็นธีมจาก Disney Classics แต่ไม่มีเครื่องเล่นโหดๆ หรือ หวาดเสียวเลยค่ะ

ตัวปราสาทเจ้าหญิง ก็จะนับว่าอยู่ใน Fantasyland ค่ะ โดยที่ปารีสจะเป็นปราสาทเจ้าหญิงนิทรา ซึ่งเป็นปราสาทขนาดกลางๆ แต่ดีเทลสวยมาก มีน้ำรอบๆ และ แฟนดิสนีย์หลายคนยกให้เป็นปราสาทดิสนีย์ที่สวยและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลกค่ะ (แต่ตอนช่วงปิดโควิดฮ่องกงทำปราสาทใหม่ ไม่รู้จะพลิกโผลมั้ยนะคะ)

ซึ่งความสวยงามของปราสาทที่ดิสนีย์แลนด์ปารีส มันมีความพิเศษมากๆ คือเราขึ้นไปดูวิวข้างบนได้ เป็นกระจกสีที่เล่าเรื่องราวของเจ้าหญิงนิทรา และ มีมังกรพ่นไฟตัวใหญ่ซ่อนอยู่ใต้ดิน มีที่นี่ที่เดียวในโลก เป็นดีเทลเล็กๆ และมันเจ๋งมากๆ เลยค่ะ มังกรนี่คือห้ามพลาดเด็ดขาด!!

เครื่องเล่นไฮไลท์ใน Fantasyland ได้แก่ ตัวปราสาทกับมังกรเนี่ยแหล่ะค่ะ The Dragon’s Lair เป็นแบบเดินสำรวจปราสาทและไปดูมังกรข้างล่าง ไม่ต้องรอคิว นอกจากนี้ต้องบอกว่า แล้วแต่ว่าชอบดิสนีย์เรื่องไหนเป็นพิเศษ เพราะของใน Fantasyland ค่อนข้างจะเป็นแบบเด็กๆ ส่วนใหญ่จะเป็น Ride ที่พาท่องไปในการ์ตูนต่างๆ

ถ้าอันที่นัทชอบมากที่สุดในโซนจะเป็น Peter Pan’s Flight เป็นเครื่องเล่นแนวนั่งไปบนยานเหาะ ไม่ได้หวาดเสียวเหมือนรถไฟเหาะ แต่มีจังหวะขึ้นลง จังหวะเลี้ยว เป็นห้องมืด แล้วเป็นฉากในปีเตอร์แพน สีสันสวย เหมือนเราบินไปกับปีเตอร์แพนเลยค่ะ ทำฉากเมือง เล่าเรื่องได้สวยมาก (ถ้าเล่นที่สาขาอื่นแล้ว ก็เหมือนกันเป๊ะค่ะ แต่ถ้ามีโอกาส เล่นที่เซี่ยงไฮ้จะดีสุดค่ะ เครื่องเล่นเหมือนกัน ต่างกันที่ความลื่นของเครื่องรุ่นใหม่ ไม่มีจังหวะกระตุกเลย)

นอกจากนี้ แนวนั่งรถเข้าไปดูเรื่องราวจะมี Snow White and the Seven Dwarfs และ Pinocchio’s Daring Journey ค่ะ

เครื่องเล่นแนวม้าหมุน ได้แก่ Lancelot’s Carousel, Dumbo the Flying Elephant ที่นอกจากจะหมุนแล้วจะมีบางตัวที่ยกขึ้นสูงด้วยค่ะ และ Mad Hatter’s Tea Cups อันนี้นั่งในถ้วยชา หมุนๆ ไปด้วย

เครื่องเล่นแนวล่องเรือ ได้แก่ It’s a Small World เป็นเครื่องเล่นเอกลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์ มีทุกสาขายกเว้นเซี่ยงไฮ้ เป็นเรือล่องไปแล้วเป็นหุ่นใส่ชุดประจำชาติของทุกชาติค่ะ , Storybook Land Canal Boats ล่องเรือกลางแจ้ง ไปตามเมืองจำลอง ดินแดนขนาดจิ๋ว ทั้งหอคอยราพันเซล ปราสาทเจ้าชายอีริค หมู่บ้านเบลล์ อันนี้จะมีแค่ที่ปารีสกับแคลิฟอเนียเท่านั้นค่ะ ควรเก็บนะคะ

เครื่องเล่นทั้ง 3 แนวนี้ ถือว่าเป็นช่วงนั่งพักได้นะคะ อย่างแนวล่องเรือเนี่ย นั่งดูชิลล์ๆ พักขาเพลินเลยค่ะ เครื่องนึงก็ได้นั่ง 3-5 นาที

สุดท้ายเป็นแบบ Walk-through คือเดินหลงเข้าไปในสวนเขาวงกตของอลิซ Alice’s Curious Labyrinth ซึ่งมีแค่ 2 สาขาเท่านั้นคือที่ ปารีส กับ เซียงไฮ้ แนะนำให้แวะถ่ายรูปเล่นนะคะ ที่เหลือจะเป็น Meet Mickey Mouse กับ Princess Pavilion ที่ไว้ถ่ายรูปคู่คาแรคเตอร์ค่ะ ตัวพาวิลเลียนเจ้าหญิงเค้าจะมีป้ายบอกเลยว่า ช่วงนี้เจอเจ้าหญิงคนไหน เวียนๆ มาค่ะ

เข้าสู่โซนสุดท้าย

Discoveryland

ที่ปารีสเป็นที่เดียวที่ใช้ชื่อนี้ ในขณะที่ทั่วโลกจะใช้ชื่อ Tomorrowland ค่ะ โซนนี้จะเป็นโซนที่ดูล้ำๆ สไตล์อวกาศๆ

เครื่องเล่นไฮไลท์ใน Discoveryland ได้แก่ Hyperspace Mountain, Star Tours: L’Aventure Continue และ Buzz Lightyear Laser Blast

และขอแถมอีกอันในดวงใจ เป็นฉากแบบ Walk-through ชื่อว่า Les Mystères du Nautilus ซึ่งมีแค่ที่ปารีสที่เดียว และเค้าทำฉากข้างในสวยมากๆ เลยค่ะ

นอกจากนี้จะมี Orbitron เป็นเครื่องเล่นแนวหมุนๆ เร็วกว่าม้าหมุนหน่อย เป็นแบบขึ้นยาน จะเห็นวิวมุมสูงด้วยค่ะ ลองไปดูคนอื่นเล่นก่อนค่อยตัดสินใจก็ได้ค่ะ, Autopia เป็นขับรถบนรางสำหรับเด็กค่ะ

Star Wars: Hyperspace Mountain รถไฟเหาะที่เร็วและแรงที่สุดในดิสนีย์แลนด์ปารีสค่ะ ตัวรถไฟเหาะจะเซ็ทอัพอยู่ในอวกาศ ห้องมืดแล้วมีฉากเรืองแสง นิดหน่อย ซึ่งจริงๆ มันสนุกมากเลยนะคะ แต่หลายคนที่ไปพูดตรงกันว่า เอ๊ะ เหมือนรถไฟตะลุยอวกาศที่ดรีมเวิลด์เลย ซึ่งเหมือนจริงๆ ค่ะทุกคน แหะๆ… คือมันใช้ชื่อสตาร์วอร์หลังจากที่ดิสนีย์ซื้อลิขสิทธิ์มา แต่เครื่องเล่นเป็น Hyperspace Mountain ดั้งเดิม ตั้งแต่ปี 1995 ค่ะ ซึ่งมันไม่ได้มีธีมอะไรเลย มีแค่เพลงเปิดสตาร์วอร์ ตอนยานขึ้นกับตอนกลับสเตชั่น ซึ่งก็ฟินดีนะคะ แต่ถ้ารอเกิน 45-60 นาที ส่วนตัวก็แอบรู้สึกไม่คุ้มรอค่ะ

Star Tours: L’Aventure Continue เป็นเครื่องเล่นแนว 3D Stimulator ธีมเรื่องสตาร์วอร์เหมือนกัน เพิ่งมาเมื่อปี 2017 เองค่ะ อันนี้ทำกราฟฟิคและเรื่องออกมาสวยค่ะ เครื่องจะขยับไปตามหนังบนจอ สมจริงมากค่ะ มีจุดที่รู้สึกเหมือนตกจริงๆ หรือ โดนดูดจริงๆ แล้วก็ตัวหนังจะแรนดอมนะคะ เข้าไปแต่ละครั้งจะได้การเดินทางที่ไม่เหมือนกันค่ะ – ถ้าเคยเล่นที่อื่นแล้ว เหมือนกันค่ะ ส่วนตัวคิดว่าไม่ต้องซ้ำก็ได้ค่ะ

ใกล้ๆ จะมี Starport ไว้ถ่ายรูปกับคาแรคเตอร์จาก Star Wars ด้วยค่ะ

Buzz Lightyear Laser Blast เครื่องเล่นแนวนั่งรถ และมีปืนให้ยิงเลเซอร์ไปที่เป้าค่ะ พูดตรงๆ ว่าถ้ามาคนเดียวแอบไม่สนุก แต่ถ้ามากับเพื่อนหรือแฟน สายแข่งกันเนี่ย เล่นซ้ำเป็นสิบรอบเลยค่ะ มันจะคำนวณคะแนนตอนจบว่าเรายิงเลเซอร์ที่ติดอยู่ที่รถ โดนกี่แต้ม แข่งกันมันส์มากค่ะ บรรยากาศข้างในก็น่ารัก ธีมทอยสตอรี่ ที่ปารีสจะยาวกว่าที่อื่นนิดนึง อันนี้นัทซ้ำทุกสาขาที่มีเลย

จบ Parc Disneyland แล้ว ไปต่อกันที่อีกปาร์คกันเลยค่ะ


Walt Disney Studios Park

เป็นอีก 1 สวนสนุกในดิสนีย์แลนด์ปารีส ที่มีขนาดเล็ก แต่เครื่องเล่นเด็ดหลายชิ้นค่ะ ตัว Walt Disney Studios Park ก็ธีมเหมือนชื่อเลยค่ะ เน้นเครื่องเล่นที่มาจากธีมภาพยนต์ งานโปรดักชั่น งานเบื้องหลัง แล้วก็เครื่องเล่นที่เป็นธีม Pixar ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ปาร์คนี้ค่ะ

ที่นี่แบ่งเป็น 4 โซน แต่จริงๆ ขนาดไม่ได้ใหญ่นะคะ 4 โซนที่นี่ น่าจะเท่ากับฝั่งดิสนีย์แลนด์ประมาณโซนครึ่งอ่ะค่ะ เดี๋ยวถ้าเค้าเปิดโซน Avengers + Frozen ก็น่าจะใหญ่ขึ้นค่ะ

เครื่องเล่นไฮไลท์ในWalt Disney Studios Park ได้แก่ Ratatouille: The Adventure, The Twilight Zone Tower of Terror และ Crush’s Coaster 

เข้ามาปุ๊ปจะเจอโซน Front Lot เป็นร้านอาหาร ร้านค้า ธีมฮอลลีวู้ดมาเลยค่ะ เข้าไปถึงจะเจอกับรูปปั้น คุณลุง วอล์ท ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งทุกอย่างที่เราเห็นในวันนี้

เดินถัดไปเยื้องทางซ้ายมือจะเป็นโซน Production Courtyard ซึ่งมี สตูดิโอ Stitch Live! ที่มีการแสดงของสติช ลึกเข้าไปเป็นโซน Avengers ที่กำลังทำอยู่ค่ะ ส่วนตรงหน้าเราจะเห็นอาคารใหญ่ตั้งอยู่ ซึ่งเป็นเครื่องเล่นที่นัทชอบมากๆ ค่ะ นั่นก็คือ

The Twilight Zone Tower of Terror เป็นเครื่องเล่นแนว Free Fall แบบปล่อยตก ที่มีสตอรี่เป็นโรงแรมผีสิง แล้วมีจังหวะปล่อยตก 60 ม. แต่ไม่แอบกระซิบว่า มันไม่เหมือนเครื่องเล่นปล่อยตกทั่วไปที่ขึ้นไป ปล่อยลงมาแล้วจบนะคะ มันมีอะไรเยอะกว่านั้นมาก นัทชอบมาก — ต่อคิวซ้ำทุกที่ทั้งอเมริกา โตเกียวดิสนีย์ซี และ ที่นี่ค่ะ

เดินต่อมานิดนึงจะเจอ Flying Carpets Over Agrabah เครื่องเล่นแนวม้าหมุนขึ้นลง เหมือน Dumbo ในอีกปาร์คเลยค่ะ อันนี้เป็นพรมวิเศษ และเครื่อง Cars Race Rally แนวม้าหมุนคล้าย Tea Cup ตัวรถจะหมุนไปด้วย

จากนั้นเราจะเข้าสู่โซน World of Pixars ซึ่งเราจะเจอกับเครื่องเล่นไฮไลท์อันที่สองนั่นก็คือ

Crush’s Coaster เป็นรถไฟเหาะในห้องมืด คล้ายๆ Hyperspace Mountain เลยค่ะ แต่นัทว่าเครื่องใหม่กว่า พริ้วกว่า เป็น Spinning Coaster ตัวที่นั่งมันจะหมุนได้ ให้เรานั่งอยู่บนหลังเต่าทะเล เข้าไปผจญภัยใต้ทะเลลึกกับคาแรคเตอร์จากเรื่อง Finding Nemo ค่ะ แม้จะเป็นห้องมืด แต่ก็จะมีพร๊อพแบล็กไลท์ในธีมทะเล แล้วก็จะโผล่ออกมานอกอาคารนิดนึง ก่อนจะจบค่ะ เป็นรถไฟเหาะที่มีธีมและลงตัวมากๆ รู้สึกมันส์แต่ไม่โหดเกินไป — เครื่องเล่นนี้มีที่ปารีสที่เดียวในโลกนะคะ

Cr. disneylandparis.com

ถัดมาจะเป็นเวิ้ง Toy Story ซึ่งเครื่องเล่นจะเด็กๆ นิดนึงค่ะ ประกอบไปด้วย Toy Soldiers Parachute Drop เป็นเครื่องเล่นสไตล์ปล่อยดร๊อปลงมา สูงประมาณ 20 เมตรค่ะ ดร๊อปไม่แรงมาก, Slinky Dog Zigzag Spin รถไฟเหาะเด็กๆ เช่นกันค่า, RC Racer เป็นรถที่เหวี่ยงขึ้นลงเหมือนพวกเรือไวกิ้งค่ะ ทั้ง 3 เครื่องเล่นนี้มีแค่ที่นี่กับฮ่องกงเท่านั้นค่ะ

เข้ามาลึกสุดจะเจอกับเวิ้งหน้าตาเหมือนกรุงปารีสตั้งอยู่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นไฮไลท์แห่งดิสนีย์แลนด์ปารีส เครื่องเล่นที่ใหม่ ฮิต และ เป็นเครื่องเล่นที่เข้ากับปารีสที่สุด นั่นคือ

Remy’s Ratatouille Adventure ผจญภัยไปกับเจ้าหนูและเชฟจากเรื่อง Ratatouille ซึ่งในเครื่องเล่นนี้จะจำลองเหมือนเราย่อส่วนกลายเป็นหนูแล้วมุดไปอยู่ในปารีสค่ะ เป็นเครื่องเล่นแบบ 4D ไร้ราง นั่งรถเข้าไปในแต่ละห้องที่มีทั้งการตกแต่งสมจริง จอ3 มิติ และการพ่นควัน พ่นน้ำ มาจริงๆ ซึ่งเทคโนโลยีที่ยูนิเวอแซลใช้มานานมากกกแล้วแต่ดิสนีย์แลนด์เพิ่งเริ่มนำมาใช้ค่ะ (ใครเคยเล่นสไปเดอร์แมนของยูนิเวอร์แซล มันคือเครื่องเล่นแบบนั้น) แต่อันนี้ยอมรับว่าเนื้อเรื่องสนุก นำธีมมาใช้ได้สวยงาม และมีหลายฉากที่นึกไม่ถึง ทำให้เราอินกับปารีสได้จริงๆ ค่ะ หากต้องเลือก 1 เครื่องเล่นในดิสนีย์แลนด์ปารีส นัทจะเลือกเครื่องเล่นนี้ค่ะ — เมื่อก่อนมีที่นี่ที่เดียว แต่ตอนนี้ ออแลนโด้เอาไปตั้งไว้ใน Epcot แล้วค่ะ


สรุป เครื่องเล่นใน Disneyland Paris ที่นัทชอบมากที่สุด 10 อันดับ

1. Remy’s Ratatouille Adventure – เครื่องเล่นที่ล้ำและใหม่ที่สุดในปาร์ค จำลองฉากปารีส เล่นที่นี่แล้วอินมากค่ะ ตอนนี้ยังมีแค่ที่ปารีสที่เดียว แต่กำลังจะเปิดที่ออแลนโด้ค่ะ
2. The Twilight Zone Tower of Terror – เครื่องเล่นสไตล์ปล่อยตก ที่นัทชอบความครีเอทีฟเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซ้ำทุกครั้งที่มา และ ซ้ำทุกสาขาที่ไป
3. Crush’s Coaster – เป็นรถไฟเหาะ ท่องโลกใต้ทะเลกับนีโม มีแค่ที่ปารีสที่เดียวในโลก
4. Big Thunder Mountain – รถไฟเหาะที่ลงตัวที่สุดในปาร์ค
5. Phantom Manor – เครื่องเล่นธีมบ้านผีสิงที่สวยที่สุดจากทุกสาขา
6. Buzz Lightyear Laser Blast – เกมส์เลเซอร์ยิ่งเป้าที่มีคะแนนให้ สายแข่งจะชอบค่ะ ถ้าไม่ได้ไปคนเดียวก็จะเล่นทุกสาขา เล่นซ้ำหลายครั้งด้วย 😀
7. Castle and The Dragon’s Lair – ปราสาทที่นี่ยูนี้คสุดแล้ว อย่าลืมไปหามังกรนะคะ มังกรมีแค่ที่ปารีสค่ะ
8. Peter Pan’s Flight – เครื่องเล่นคลาสสิกที่เติมเต็มจินตนาการค่ะ ยิ่งถ้าไปดิสนีย์ครั้งแรกก็แนะนำมากๆ แต่ซ้ำกันเกือบทุกสาขา
9. Star Tours: L’Aventure Continue เครื่องเล่น Stimulator 3D จำลอง ในเรื่องราวของสตาร์วอร์ ที่เข้าไปแต่ละครั้งจะได้เนื้อเรื่องไม่ซ้ำ ได้เจอกับคาแรคเตอร์ที่เรารัก
10. Pirates of the Caribbean – ตอนแรกจะไม่ให้ละ เพราะยังไงก็สู้เทคโนโลยีใหม่ที่เซี่ยงไฮ้ไม่ได้ แต่ในหมู่เครื่องเล่นคลาสสิกของดิสนีย์ด้วยกัน ที่นี่ทำ Jack Sparrow โคตรเหมือน และฉากอลังมากเลยติดอันดับไปเลยค่ะ

อันนี้เขียน ณ ปี 2021 นะคะ เดี๋ยวเค้ามีการขยายโซน Avengers, Frozen, Star Wars มาใส่อีก แพลนถึง 2025 เลย ไว้กลับมาอัพเดทให้ฟังค่า

ซื้อตั๋ว Paris Disneyland ราคาประหยัด – คลิ๊กที่นี่


ไป Disneyland Paris ช่วงไหนดี?

อากาศที่นี่ก็จะตามอากาศในปารีสเลย แบ่งเป็น 4 ฤดู

ช่วงที่นัทว่าไม่น่าไปที่สุดคือ หน้าร้อนเพราะร้อนมากจริงๆ และเป็นวันหยุดฤดูร้อน คนจะเยอะ แต่ข้อดีคือ 2 ทุ่มก็ยังไม่มืด ปาร์คเปิดยาวหน่อย ส่วนอีกช่วงคือหน้าหนาว ซึ่งปาร์คจะปิดเร็ว มีเวลาให้เล่นสั้น และเครื่องเล่นอาจจะปิดเพราะหิมะตกด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม เทศกาลที่นัทคิดว่าสวยที่สุด คือ คริสต์มาส และ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ/อีสเตอร์ค่ะ

ช่วงคริสต์มาส ปาร์คจะดู Magical กว่าปกติ เพลงเอย การตกแต่งเอย มันสวยไปหมดเลยค่ะ ข้อเสียก็คือมืดเร็ว แต่ส่วนใหญ่ถ้าก่อนวันคริสต์มาส มันจะยังไม่หนาวจัดขนาดนั้นค่ะ นั่งรถไฟเหาะแล้วยังไม่ถึงขั้นเย็นจนหน้าชา เป็นช่วงที่นัทชอบค่ะ

อีกช่วงนึงคือ ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเค้าจะจัดสวนสวยยยย มีซากุระ (Cherry Blossom) สีชมพูบานเต็มไปหมด อากาศดี ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป น่าเที่ยวสุดเลยค่ะ

ช่วงฮาโลวีนเนี่ย อากาศก็ดี ฤดูใบไม้ร่วง ตกแต่งน่ารัก แต่ถ้าเทียบกับฝั่งอเมริกา ที่มีการจัดงานฮาโลวีนจริงจังเป็นอีเว้นท์เลย ที่นี่คือเทียบที่อเมริกาไม่ได้เลยค่า


หวังว่าข้อมูลทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ และ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการเที่ยวดิสนีย์แลนด์ปารีสนะคะ Have a Magical Day!!

ซื้อตั๋ว Paris Disneyland ราคาประหยัด – คลิ๊กที่นี่

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!


ใครกำลังแพลนทริป สามารถไปอ่านรีวิวปารีสกันต่อได้เลยนะคะ >>

ไป Paris พักที่ไหนดี? – รวมที่พักปารีส ปลอดภัย / ราคาถูก / วิวสวย

ปักหมุด 12 โลเคชั่น ตามรอยเอมิลี่ไปปารีส กับ Emily in Paris Locations

คู่มือเที่ยว พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum Paris) ให้ได้ทั่วพร้อม 10 ไฮไลท์ที่คุณไม่ควรพลาด

รีวิว 10 พิพิธภัณฑ์ ใน ปารีส สำหรับคนรักศิลปะและประวัติศาสตร์

7 จุดถ่ายรูป กับ หอไอเฟล ในกรุงปารีส ที่จะทำให้คุณรู้สึกแบบปารีเซียงสุดๆ

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

 




ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: