[รีวิว] Chimelong Ocean Kingdom ทุกสิ่งที่ควรรู้ พาชมทุกเครื่องเล่น ทุกโซน ฉางหลง โอเชียนคิงดอม จูไห่ ประเทศจีน

นับว่าเป็นสวนสนุกที่มาแรงมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย กับ Chimelong Ocean Kingdom (ฉางหลง โอเชียน คิงดอม) เมืองจูไห่ ประเทศจีน สวนสนุกธีมทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และด้วยความที่เป็นธีมทะเล ที่นี่จึงเป็นทั้งสวนสนุกและอควาเรียมขนาดยักษ์ ออกแบบมาอลังการสุดๆ ที่สำคัญ เดินทางง่าย อยู่ห่างจากสนามบินมาเก๊าเพียงสิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้น ตั้งแต่ประเทศจีนฟรีวีซ่า ก็ทำให้เราสามารถบินมาจากไทยได้ง่ายเพียงสองชั่วโมง และนั่งรถแป้ปเดียวก็ถึงสวนสนุกแล้ว

ในรีวิวนี้ นัทรีวิวเครื่องเล่นทุกชิ้น จุดน่าสนใจ ของกินในสวนสนุก พาเรด และการแสดงต่างๆ ไว้ครบทุกโซน รวมถึงวิธีการเดินทาง หวังว่าจะช่วยทุกคนวางแผนทริปนี้ให้ง่ายยิ่งขึ้นนะคะ


Chimelong Ocean Kingdom คืออะไร

ที่นี่เป็นสวนสนุกธีมทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ สำหรับนัทมันคือสวนสนุกเลย แต่มันมีความพิเศษตรงที่เค้าเล่าเรื่องทะเลต่างๆ โดยการมีอควาเรียมอยู่ในนี้ และมีสัตว์ทะเลอยู่จริง เป็นหนึ่งในอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีการแสดงของเหล่าโลมา สิงโตทะเล และ วาฬเบลูก้าอีกด้วยค่ะ

ถือเป็นการเล่าเรื่องทะเลได้อย่างสนุกและแทรกความรู้เข้าไปด้วย เหมาะกับเด็กๆ และครอบครัวมาก ส่วนวัยรุ่นและผู้ใหญ่ หากใครชอบไปอควาเรียมบวกกับชอบเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุกอยู่แล้ว ก็มากันได้นะคะ เครื่องเล่นมีเฉลี่ยๆ ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ ตามสูตรสวนสนุกปกติเลยค่ะ

**รีวิวนี้ เป็นรีวิวของ Chimelong Ocean Kingdom ซึ่งเป็นสวนสนุกแบบเอาท์ดอร์ขนาดใหญ่ แต่ในบริเวณเดียวกัน Chimelong ก็ได้สร้างอาณาจักรที่มีโรงแรมหลายโรงแรม โรงละคร และ สวนสนุก Chimelong Spaceship Park ที่เป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนัทได้รีวิวแยกไว้อีกโพสท์นะคะ — เพราะรีวิวคือยาวมาก เกรงว่ารีวิวรวมกันแล้วงง เพราะอย่างวาฬออร์ก้า คือมีแค่ที่ Spaceship Park ไม่มีที่ Ocean Kingdom ในขณะเดียวกัน ฉลามวาฬ คือมีแค่ที่ Ocean Kingdom ไม่มีที่ Spaceship Park เป็นต้นค่ะ**


วิธีการเดินทาง

สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเหิงฉิน เมืองจูไห่ ประเทศจีน (Hengqin Island, Zhuhai) ฟังดูเหมือนจะเดินทางยาก แต่จริงๆ คือตั้งอยู่ห่างจากสนามบินมาเก๊า (Macau International Airport : MFM) เพียง 14 กม. เท่านั้น ถ้าสมมติว่าไม่ต้องผ่านตม.จีน-มาเก๊าเลยจะใช้เวลาขับรถแค่ 20 นาทีเองค่ะ แต่ระยะเวลาในการเดินทางจริง จะแล้วแต่ว่าเราไปโดยวิธีไหน ซึ่งการเดินทางก็ทำได้ดังนี้

1. Private Transfer วิธีนี้ง่ายสุด สะดวกสุด แต่ก็ราคาสูงสุด เป็นรถส่วนตัวนั่งได้ 6-7 คน หรือถ้ากระเป๋าเยอะก็อาจจะจำนวนคนน้อยลงหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบาย มีเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ แล้วต้องการอยู่ในรถคันเดียวกันไม่เรียกแท็กซี่แยกคัน รถจะรับจากสนามบินมาเก๊า (หรือที่ไหนก็ได้ในมาเก๊าทั้งสองฝั่ง) มาส่งเราถึง Chimelong เลยค่ะ สามารถระบุชื่อโรงแรมได้ รถจะเป็นคันเดียวทั้งหมด เค้าจะพาเราไปถึงด่านมาเก๊า-จีน รอเราผ่านตม. เค้าก็จะมารอรับอีกฝั่งค่ะ อย่างไรก็ตาม ตอนที่ผ่านตม. จะต้องขนของลงจากรถทั้งหมด เพราะจีนบังคับผ่านสแกนศุลกากรค่ะ — นัทไปถึงค่อนข้างดึก ใช้เวลาจากสนามบินมาเก๊าไปถึงโรงแรม Chimelong Spaceship Hotel ทั้งหมด 35 นาทีค่ะ

— นัทจองผ่าน Klook นะคะ >> ลิงค์นี้ << ก่อนหน้าวันเดินทาง 1 วัน เค้าจะติดต่อมาทาง WhatsApp ตามเบอร์ที่เราใส่ไปค่ะ แล้ว WhatsApp นี้คือตอบตลอด ตอบเร็วมาก ภาษาอังกฤษคล่องค่ะ ถ้าใครกลับมาเที่ยวมาเก๊า แล้วพักฝั่งมาเก๊าไทปา (สนามบินคือมาเก๊าฝั่งโคไท) ใช้วิธีนี้คุ้มค่ะ เพราะค่าแท็กซี่มาเก๊าแรงอยู่

2. Taxi Macau + Didi อีกวิธีที่ง่ายคือเรียกแท็กซี่จากสนามบินมาเก๊าไปส่งที่ด่าน Hengqin (เรียกภาษาจีนว่า “เหิงฉินโข่วอัน”) ราคาประมาณ 80-100 MOP ผ่านตม.เสร็จ ก็ออกมาหน้าอาคารอีกฝั่ง เรียก Didi ราคาประมาณ 10-15 หยวนค่ะ

3. LRT + Didi วิธีนี้ไม่ยาก แต่ต้องเปลี่ยนรถไฟ 1 สาย คือออกมาจากสนามบิน ตามป้าย LRT มา ซื้อตั๋วไป Hengqin เปลี่ยนสายที่สถานี Lotus หนึ่งครั้ง สถานีรถไฟที่มาเก๊าค่อนข้างใหม่ ทำให้มีบันไดเลื่อนและลิฟท์ถือว่าโอเค แต่ด้วยความที่ บางทีรถไฟไม่ได้ถี่ ต้องรอ 8-10 นาที อาจจะใช้เวลาไปถึงด่าน Hengqin สูงถึง 40 นาทีเลยค่ะ

แม้จะมาจากฮ่องกงก็ไม่ยากนะคะ เพราะสถานีเรือ Ferry ของมาเก๊า คือถัดไปอีกแค่ป้ายเดียวจากสนามบินมาเก๊าเองค่ะ

ข้อมูลทั่วไป : จริงๆ  จูไห่ มีสนามบินของตัวเองนะคะ ชื่อสนามบินนานาชาติจูไห่เลย แต่อยู่ไกลจากสวนสนุกเราประมาณ 40 กม. เลยค่ะ เดินทางกันเป็นชั่วโมง แถมยังไม่มีบินตรงจากไทยอีก เลยไม่มีใครพูดถึงสนามบินจูไห่เลยค่ะ


การซื้อตั๋ว Chimelong Ocean Kingdom

ไม่ว่าจะซื้อตั๋วแยกทีละสวนสนุก หรือ ซื้อเป็นแพกเกจ วิธีซื้อที่ง่ายที่สุดสำหรับเราคือผ่าน Klook ค่ะ โปรโมชั่นดี จองง่าย มีช่องทางการจ่ายเงินหลายช่องทาง มีคอลล์เซ็นเตอร์คอยซัพพอร์ท

ที่สำคัญ นัทใช้ Klook ในการจองกิจกรรม ตั๋วเข้าสถานที่ สวนสนุก รถไฟ รถเช่า โรงแรมทั่วโลกเลย เพราะว่าเวลาจองแต่ละครั้ง เราก็จะได้ KlookCash กลับมา เป็นเหมือนเครดิตเอาไว้ใช้ลดครั้งถัดไป และ Klook ก็ยังมีโค้ดส่วนลดอยู่ตลอดเลยค่ะ

*ใส่โค้ด ‘EATCHILLKLOOK’ รับส่วนลด 7% สำหรับลูกค้าใหม่ และส่วนลด 5% สำหรับลูกค้าเดิม*

ทางไปจองแบบแพกเกจที่พักพร้อมสวนสนุก >> คลิ๊กที่นี่
ทางไปซื้อบัตรเข้า Chimelong Ocean Kingdom >> คลิ๊กที่นี่

ส่วนตัวนัทแนะนำซื้อเป็นแพกเกจไปเลย เพราะว่าพักตรงนั้น มันไม่เหนื่อยเดินทางค่ะ ได้เล่นสวนสนุกแบบเต็มๆ ทั้งสองวัน ในนั้นมีร้านอาหารเพียบ อาหารเช้าก็ดี ซึ่งบริเวณนั้นเค้าก็มีหลายโรงแรมนะคะ ส่วนตัวนัทพักที่โรงแรม Chimelong Spaceship Hotel ติดกับตัว Spaceship Park เลย และการไป Ocean Kingdom ก็นั่งบัสไปแค่ 5 นาทีค่ะ

นัทลองคำนวณแล้ว มันได้ห้อง 2 คืน, ตั๋วเข้าสวนสนุกทั้ง Ocean Kingdom ในรีวิวนี้ และ Spaceship Park ในอีกรีวิว สำหรับ 2 คน, มีตั๋วดูโชว์ Chimelong Show สุดตระการตาอีก 2 ใบ และ ก็มีบุฟเฟต์มื้อเย็นในแพกเกจด้วย ทั้งหมดนี้จบที่หมื่นนิดๆ คุ้มค่ามากๆ

ผู้ใหญ่ 1 ท่านสามารถพาเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี หรือสูงไม่เกิน 1.0 เมตร เข้าสวนสนุกได้ฟรี 1 ท่านด้วยนะคะ

แต่หากใครจะเดินทางไปกลับจากเมืองจูไห่ หรือ มาเก๊า ก็ซื้อแค่บัตรเข้าสวนสนุกได้ค่ะ

ทางไปจองแบบแพกเกจที่พักพร้อมสวนสนุก >> คลิ๊กที่นี่
ทางไปซื้อบัตรเข้า Chimelong Ocean Kingdom >> คลิ๊กที่นี่


ข้อควรรู้ก่อนไป Chimelong Ocean Kingdom

– ที่นี่ไม่ได้มีแอพให้โหลดตรงเข้ามือถือเหมือนดิสนีย์หรือยูนิเวอร์แซล แต่จะใช้เป็น Mini-App ที่ต้องสแกนเพื่อเปิดจากใน WeChat อีกที ดังนั้นเราต้องมีแอพ WeChat ก่อน ในแอพมีข้อมูลค่อนข้างครบถ้วน และ กดแปลภาษาได้บางส่วน มีเวลารอเครื่องเล่นแบบเรียลไทม์ ตารางการแสดงต่างๆ แผนที่อย่างละเอียด บางหน้าก็ภาษาจีน บางหน้าก็มีภาษาอังกฤษ งมๆ นิดนึงเหมือนเล่นเกมส์ภาษา

– ตรงทางเข้ามีแผนที่กระดาษเป็นภาษาอังกฤษให้ค่ะ อันนี้ก็รายละเอียดครบ ไม่มีแค่เรื่องตารางการแสดงและพาเรด ต้องไปดูในแอพอยู่ดี

– ที่นี่ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามาเองนะคะ เพราะเค้ากลัวมีการปนเปื้อนจากอาหารของเราไปที่สัตว์ที่อยู่ข้างใน อนุญาตแค่น้ำดื่มส่วนตัวและอาหารเด็กทารก

– และเหมือนหลายๆ ที่ คือห้ามนำขาตั้งกล้องเข้ามาค่ะ

– สำหรับคนที่ซื้อแพกเกจ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืน จะเข้าได้ก่อนเวลาเปิด 1 ชั่วโมงค่ะ

– จากประสบการณ์ที่นัทไปพบว่า มีคนทำความสะอาดอยู่ตลอด สวนสนุกถือว่าสะอาดมากๆ แม้แต่โต๊ะตามร้านอาหารก็เคลียร์ได้เร็วเลยค่ะ ส่วนตัวไม่เจอคนสูบบุหรี่ไปเรื่อย สูบในจุดที่จัดไว้จริงๆ

– เรื่องแซงคิว ถ้าตามแถวที่มันเป็นช่องต่อคิวมันแซงไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นพวกตามตู้อควาเรียมที่ไปรุมๆ กัน มันก็แบบใครไปถึงก่อนได้ก่อน ส่วนตอนดูโชว์ก็นั่งกันเรียบร้อยดีค่ะ แม้แต่ตอนที่ถ่ายรูปกับมาสคอท พนักงานเค้าก็ดูคิวให้ และเรียกตามคิวคนที่ไปรอก่อนจริงๆ


Ocean Avenue

หากขึ้น Shuttle Bus ของโรงแรมมา ก็สามารถเดินตามป้าย Chimelong Ocean Kingdom มาได้เลยนะคะ เราจะผ่านจุดตรวจกระเป๋า

เข้ามาปุ๊ป ก็จะเจอกับโซน Ocean Avenue ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซอร์วิสต่างๆ เช่น ที่ฝากกระเป๋า ที่ยืมรถเข็น วีลแชร์ จุดบริการลูกค้าหากเราต้องการข้อมูลอะไรก็ไปถามตรงนี้ได้ค่ะ เดินผ่านรูปกระเบนแมนต้าเรย์ขนาดยักษ์มา จะพบจอ LED เป็นโดมด้านบน สวยงามมากๆ สองข้างทางจะเป็นร้านขายของที่ระลึกหลัก รวมจากทุกโซน ของน่ารักเลยค่ะ

วันนี้ นัทเดินวนขวาทวนเข็มนาฬิกานะคะ เพราะว่า นัทอยากเล่นเครื่องเล่นที่เปียกทีหลัง (แต่ถ้าใครอยากเปียกก่อน แล้วให้ตัวค่อยๆ แห้งก็วนซ้ายค่ะ) แถมเวลาดูโชว์ฝั่งนี้ของนัทค่อนข้างลงตัว แต่จริงๆ จะวนฝั่งไหนก่อนก็ได้ค่ะ วันที่ไปจำนวนคนเหมือนจะเยอะ แต่แทบไม่ต้องรอคิวซักเครื่องเล่นเลยค่ะ

พอเดินผ่านจอ Deep Sea Fantasy มาจนสุด นัทก็จะเลี้ยวมาทานขวา เจอโซน Dolphin Cove ค่ะ


Dolphin Cove

โซนนี้เป็นธีมโลมาค่ะ มีเครื่องเล่น 3 อย่าง และมีอควาเรียมโลมา 2 จุด รวมไปถึงการแสดงโลมาด้วยค่ะ

เดินเข้ามาเราจะเห็นอาคารแรกที่มีบ่อด้านหน้าอยู่ จะเป็นโซนที่จัดแสดงโลมาจีนสีขาว Chinese White Dolphin อยู่ติดกับ Dolphin School ที่จะมีคลาสเรื่องโลมาตามเวลาที่ระบุไว้ (เป็นภาษาจีนเท่านั้น)

จากนั้นจะเจอเครื่องเล่นแนวม้าหมุนที่โยกขึ้นลงได้ เป็นรูปโลมาน่ารักมากๆ ชื่อว่า Dolphin Round Ride อันนี้จะมีพ่นน้ำเป็นระยะๆ ด้วยค่ะ ฝั่งตรงข้ามเป็น 5D Castle Theatre โรงหนังที่เป็น simulator เสมือนจริง เราต้องใส่แว่น แล้วมันก็จะมีเอฟเฟคท์ต่างๆ เรื่องราวเป็นการผจญภัยของ Kaka ที่เป็นมาสคอทของสวนสนุกแห่งนี้ เล่นเป็นภาษาจีนและค่อนข้างยาวเลยนะคะ แต่ก็ถือว่าไปนั่งตากแอร์เย็นๆ เริ่มโชว์แรกตอน 11.30 น. เป็นต้นไปค่ะ

เดินลึกเข้ามาจะเจอ Dolphin Island ที่เป็นที่อยู่ของเหล่าโลมา และติดกันจะเป็น Dolphin Theatre โชว์โลมาแสนรู้ ที่วันนึงจะมี 3 รอบ คือรอบ 12.00 น., 15.30 น., 17.00 น. เรามารอบเที่ยงพอดีค่ะ

ก่อนออกจากโซนจะเจอเครื่องเล่น Battle of the Pirates เป็นเครื่องเล่นแนวหมุนๆ นั่งอยู่ในถ้วย แต่เป็นเครื่องที่ฉีดน้ำใส่กันได้ด้วย สงกรานต์ย่อมๆ เลยค่ะ

นอกจากนี้ ก็จะมีร้านขายของที่ระลึก และ ร้านอาหาร ซึ่งนัทดูภาพรวมแล้ว ทุกโซนจะมีร้านขายของที่ระลึกหลักอยู่หนึ่งแห่ง โดยจะเน้นขายของตามธีมของโซนนั้นเป็นหลัก แต่ในร้านก็จะมีของรวมๆ จากทุกโซนอยู่ด้วยแต่ไม่ครบ อย่างร้านโซนนี้ก็จะโลมาเยอะ ถ้าไปโซนเพนกวิน ก็จะเพนกวินเยอะ ดังนั้น ถ้าชอบตัวไหน ก็ต้องซื้อไปจากร้านในโซนค่ะ — ส่วนร้านอาหารก็มีทุกโซนเหมือนกัน หิวที่ไหน ก็ทานที่นั่นค่ะ


Amazing Amazon

จากเกาะโลมา เราเดินทางเข้าสู่ป่าแอมาซอนกันค่ะ บรรยากาศเขียวฉ่ำ เข้ามาเราจะเห็นรถไฟเหาะอันใหญ่ ที่เป็นเครื่องเล่นไฮไลท์ของสวนสนุกแห่งนี้ Parrot Coaster รถไฟเหาะรูปนกแก้วที่พาเราโบยบินไปในป่า เป็นรถไฟเหาะแบบห้อยขา ที่เส้นทางค่อนข้างยาว มีทวิสท์หลายครั้ง และมีจุดตีลังกาด้วย

อีกเครื่องเล่นที่ทั้งสวยทั้งหวาดเสียวต้องยกให้ Rainforest Drop Tower ที่มีให้เราเลือกสองความสูง

และสำหรับอควาเรียมในโซนนี้ จะมีไฮไลท์เป็น แมนนาที (Manatee) หรือ พะยูนหางกลม น่ารักมากๆ โซนนี้มีอควาเรียมยาวที่แสดงปลาจากแม่น้ำแอมาซอนและความสำคัญของแม่น้ำ พวกปลาอาราไพมา ตัวใหญ่เป็นเมตรเลยค่ะ ได้เห็นปลาสเตอเจี้ยนด้วย น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้สัตว์ทะเลเลย


Ocean Beauty

เดินถัดเข้าไปจะเจอรูปปั้นฉลามวาฬตัวโต เพราะตรงนี้เป็นที่อยู่ของฉลามวาฬนั่นเองค่ะ อควาเรียมของโซนนี้ เคยเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ถูกทำลายสถิติไปด้วยสวนสนุกข้างๆ อย่าง Chimelong Spaceship Park ที่ตอนนี้เป็นเจ้าของสถิติค่ะ

แต่ทั้งสองก็คือใหญ่อันดับท้อปของโลก โดยอควาเรียมอันนี้จุน้ำกว่า 22 ล้านลิตร ซึ่งมีไฮไลท์คือ ฉลามวาฬซึ่งเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ในขณะที่พวกวาฬที่เป็นสัตว์ทะเลที่มีขนาดใหญ่กว่า ถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ไม่ได้อยู่ในตระกูลปลา) นอกจากนี้ยังมีฉลามหัวค้อน ปลากระเบน และอื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ มีตู้แมงกะพรุนสวยงาม มีตู้ม้าน้ำ และปลาตามแนวปะการังอยู่ด้วย อลังการมาก

เครื่องเล่นของโซนนี้ Deep Sea Odyssey นัทว่าเป็นไฮไลท์เลยนะ มันคือเครื่องเล่นที่พาเราเลื่อนเข้าไป เสมือนเราไปผจญภัยใต้น้ำ แต่ความเจ๋งคือ เค้าทำเครื่องเล่นอันนี้ ลอดผ่านตู้อควาเรียมไป ทำให้เวลานั่งเล่นเครื่องเล่นนี้ ก็จะเห็นปลาแหวกว่ายกันอยู่จริงๆ อลังการแบบที่นัทไม่เคยเห็นที่สวนสนุกอื่นเลย อันนี้ห้ามพลาดเลยค่ะ


Polar Horizon

เดินถัดมา เราจะเข้าโซนขั้วโลกอย่าง Polar Horizon ลองมานึกดู เดินมาครึ่งทางนี่เราได้ไปทั้งป่าเขตร้อนและขั้วโลกในวันเดียวกันเลย สิ่งแรกที่เราจะเจอคือ Beluga Theater ที่จัดแสดงโชว์วาฬเบลูก้า วันนึงมี 3 รอบเช่นกันค่ะ ได้แก่ 11.00 น., 14.00 น., 17.45 น.

และพระเอกของโซนนี้ก็แน่นอนว่าต้องเป็นเหล่าสัตว์ที่มาจากแถบขั้วโลก ได้แก่ วาฬเบลูก้า, หมีขาว และ เพนกวิน ซึ่งทุกๆ ห้องเค้าจัดแสดงพร้อมกับข้อมูลการให้ความรู้ต่างๆ ได้ดีมากเลยค่ะ อควาเรียมเพนกวินคือน้องเยอะมากกกกก เราไปตอนให้อาหารกันอยู่ ส่วนห้องหมีขาวก็มองเห็นได้ทั้งจากข้างบนและข้างล่าง น่ารักและอ้วนฟูกว่าในสารคดีมากๆ

เครื่องเล่นของโซนนี้ จะมีไฮไลท์เป็น Polar Explorer ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นเครื่องเล่นแนวล่องไปตามน้ำและมีดร็อปลงมา เปียกได้ แต่ช่วงที่เราไปมันปิดปรับปรุงอยู่ก็เลยไม่ได้เล่นค่ะ ส่วนอีกเครื่องเล่นเป็น Polar Go Round เครื่องเล่นพวกถ้วยหมุนๆ รูปสัตว์ขั้วโลกน่ารัก


Hero Island

เดินต่อมาติดกันจะเป็นโซนของเครื่องเล่นสำหรับเด็กค่ะ โซนนี้ก็คือเหมาะสำหรับครอบครัวจริงๆ มีทั้ง รถบั๊ม Bumper Smash, มีสนามเด็กเล่น Adventurer’s Playground ตกแต่งน่ารัก, Tower of Sea Monsters เป็นเครื่องเล่นแบบม้าหมุนแต่พาขึ้นไปสูง ชิลล์มากๆ และ Penguin Coaster รถไฟเหาะเด็กค่ะ

ในโซนนี้ มีบ่อปลากระเบน และมีกิจกรรมให้เราได้สัมผัสปลากระเบนได้ด้วยค่ะ


Mt. Walrus

เข้าสู่โซนสุดท้าย (หรือหากใครเดินตามเข็มนาฬิกา ก็จะได้เข้ามาโซนนี้เป็นโซนแรกนะคะ) โซนนี้เป็นบ้านของเจ้าวอลรัสและสิงโตทะเล รวมไปถึงเป็นที่อยู่ของโซนเงียบสงบที่ซ่อนอยู่อย่าง Seabird Paradise ด้วยค่ะ

เครื่องเล่นไฮไลท์ของที่นี่คือ Walrus Splash เครื่องเล่นแนวดร็อปตกน้ำ ที่ไม่ธรรมดา เพราะเราจะเห็นสิงโตทะเลไปตามทางด้วย เซ็ตติ้งอลังการใหญ่โต มีเส้นทางแห้งๆ ก่อนที่จะเปียก อีกเครื่องเล่นคือ  Spirit of Adventure เครื่องเล่นแนวๆ ไวกิ้ง แต่ตอนเหวี่ยงขึ้นไป เรือมันหมุนควงได้ด้วย

น้องๆ Walrus ตรงนี้ มีกิจกรรมให้อาหารได้ด้วยนะคะ แล้วก็มี Sealion Theatre โชว์สิงโตทะเลแสนรู้ มีวันละ 3 เวลาเช่นกัน 13.00 น., 16.00 น. และ 18.00 น.ค่ะ

ตามที่เกริ่นไปว่า มีโซนเงียบๆ อยู่อย่าง Seabird Paradise วึ่งในโซนนี้จะเป็นที่อยู่ของนกน้ำต่างๆ มีไฮไลท์เป็นเต่าทะเลตัวโต และ คาปิบาร่า และยังมีเครื่องเล่นเป็นรถไฟเหาะเด็กเบาๆ อบ่าง Jungle Coaster ด้วยค่ะ


Hengqin Ocean

จริงๆ โซนนี้ คือวงกลมทั้งหมดรอบทะเลสาบตรงกลางนะคะ เป็นโซนที่เราจะได้เจอกับพาเหรดต่างๆ รวมไปถึงเป็นจุดที่แสดงดอกไม้ไฟ Ocean Firework Shows ด้วย เครื่องเล่นของโซนนี้คือ Octopus Carousel ม้าหมุนรูปสัตว์ทะเลต่างๆ น่ารักมาก

ไฮไลท์ของพาเหรดที่เราได้เจอในโซนนี้ มีตั้งแต่ Ocean Parade เวลา 15.00 น. มาสคอทและขบวนต่างๆ น่ารักมากกกก มีการหยุดและทำกิจกรรมให้เด็กๆ และผู้ชมมีส่วนร่วม มีการแจกของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ด้วยค่ะ

พอเวลา 17.00 น. จะมี Super Mammoth Parade เป็นพาเหรดที่มีแค่ตัวช้างแมมมอธ ไม่ใช่พาเหรดยาว แต่เค้าทำรูปช้างสวยมากๆ และมีนักแสดงที่ออกมาพร้อมขบวนพาเหรดเพียบ

พอตกเย็นก็จะมี Polar Night Light Parade เวลา 19.15 น. อันนี้คือตัวขบวนจะตกแต่งด้วยไฟสวยงามตระการตา มีพ่นไฟได้ด้วย ฟีลต่างจากพาเหรดตอนบ่ายสามเลยค่ะ

ทุกขบวนเค้าจะเคลื่อนรอบทะเลสาบตรงกลางเลย

ปิดท้ายวันด้วยความอลังการ ที่เราพูดหลายครั้งมากว่าทำเกินนนนนน Ocean Fireworks Show เวลา 20.00 น. แสงสีเสียง มีเทคนิคอะไรเอามาใส่หมด โดรนเอย ยิงไฟบ้าง น้ำพุเต้นระบำไป ดอกไม้ไฟข้างหลังก็อลังการ โชว์ข้างหน้าก็มีทั้ง Illumination มีทั้งคนแสดง บ้าบอมากค่ะ

ดูจบก็เดินออกไปนั่งรถบัสกลับ บอกเลยว่า จัดการดีมาก คนเหมือนจะเยอะ แต่แถวเร็วมาก รถบัสคือจองเรียงรอรับเป็นส่งโรงแรมเป็นสิบคัน ช่องจอดจะมีช่องเดียวนะคะ มีป้ายชัดเจน พอโหลดคนขึ้นบัสเต็ม คันนี้ออก คันต่อไปก็เสียบเลยค่ะ แถวเลื่อนตลอด รู้ตัวอีกที นอนแผ่อยู่ที่โรงแรมแล้ว


ถือเป็นสวนสนุกธีมท้องทะเลที่เต็มไปด้วยความรู้มากมาย แต่อาณาจักร Chimelong ไม่ได้มีแค่นี้นะคะ ไปอ่านรีวิวสวนสนุกเพื่อนบ้านข้างๆ อย่าง Chimelong Spaceship Park และ โรงแรม Chimelong Spaceship Hotel กันต่อได้เลย!!!

ทางไปจองแบบแพกเกจที่พักพร้อมสวนสนุก >> คลิ๊กที่นี่
ทางไปซื้อบัตรเข้า Chimelong Ocean Kingdom >> คลิ๊กที่นี่

*ใส่โค้ด ‘EATCHILLKLOOK’ รับส่วนลด 7% สำหรับลูกค้าใหม่ และส่วนลด 5% สำหรับลูกค้าเดิม*


ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: