[รีวิว] Jetwing Lighthouse โรงแรมดีไซน์เก๋ ริมชายฝั่งศรีลังกา ใกล้เมืองมรดกโลก Galle

หากพูดถึงหนึ่งในประเทศที่ฮิตเรื่องการ เซิร์ฟ สุดๆ ในช่วงนี้ คงจะหนีไม่พ้น ศรีลังกา ประเทศเกาะกลางมหาสมุทรอินเดีย ที่ขึ้นชื่อเรื่องชายฝั่งที่เหมาะกับการหัดเล่น เซิร์ฟ และ การดูวาฬสีน้ำเงิน เป็นอย่างดี ในวันนี้ เราได้มีโอกาสมาเล่นเซิร์ฟ ที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของศรีลังกา และเราเลือกที่จะพักใกล้เมืองมรดกโลกอย่าง Galle ซึ่งใกล้ๆ มีหาดสำหรับเล่นเซิร์ฟ ที่คนยังไม่พลุกพล่านนักถึง 2 หาดด้วยกัน

ด้วยความที่อยากพักที่พักติดทะเล มีที่จอดรถ และ เดินทางสะดวก หลังจากหาข้อมูลมาแล้ว พบว่าในเมือง Galle จริงๆ ไม่มีโรงแรมติดทะเลเลย เพราะเป็นป้อม เลยมาลงเอยที่โรงแรม Jetwing Lighthouse Galle ซึ่งอยู่บนถนนหลักขับเลยไปแค่ 5 นาที มีสระว่ายน้ำใหญ่ และ ติดทะเลอย่างที่เราต้องการ

โรงแรม Jetwing Lighthouse Galle นั้น เป็นโรงแรมในเครือ Jetwing ซึ่งเป็นเครือโรงแรมของชาวศรีลังกา เราเข้าไปดูเว็ปโรงแรมแล้วรู้สึกว่าเครือนี้เจ๋งมากๆ ตรงที่มีโรงแรมกว่า 30 แห่งทั่วศรีลังกา และทุกที่ ใช้คาแรคเตอร์ของสถานที่นั้นๆ ทำให้โรงแรม Jetwing แต่ละโลเคชั่นไม่เหมือนกันเลย อย่างในทริปนี้ เรามีโอกาสไปพักโรงแรมของ Jetwing ถึง 3 แห่ง ก็บรรยากาศและการตกแต่งไม่เหมือนกันเลย แต่สิ่งที่เหมือนกันคงจะเป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการแทรกวัฒนธรรมของศรีลังกาไว้ในส่วนประกอบของโรงแรมนั่นเอง

อย่างที่นี่ เป็นผลงานการออกแบบของ สถาปนิกชาวศรีลังกา Geoffrey Bawa ซึ่งเราชอบที่อาคารของโรงแรมนี้ ได้ถูกสร้างล้อไปกับพื้นผิวเดิมที่เป็นหิน และยังคงส่วนของหินตามธรรมชาติไว้เป็นส่วนหนึ่งของแลนด์สเคปของโรงแรม ไปจนถึงการปล่อยให้แสงธรรมชาติเข้าภายในตัวอาคารในวิงหลัก ซึ่งตกแต่งด้วยงานปติมากรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่อีกด้วย

ตรงนี้คือหินและแลนด์สเคปที่เค้าออกแบบให้ล้อไปกับแลนด์สเคปเดิมตามธรรมชาติค่ะ

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่


Checking-In

เราเดินลงจากรถมาพร้อมด้วยพนักงานต้อนรับที่ยื่นดอกบัวบานสีม่วงสวยพร้อมกล่าวทักทายว่า Ayubowon ก่อนที่จะพาเราขึ้นมายังชั้นรีเซปชั่น เพื่อทำการเช็คอิน

พนักงานต้อนรับเข็นรถเข็นเครื่องดื่ม Welcome Drink หลากชนิดมาให้เราเลือก ชื่นใจสุดๆ

จากนั้น Personal Butler ของเราก็จะเข้ามาแนะนำตัว และให้โทรศัพท์มือถือที่มีเบอร์เค้า และเราสามารถโทรหาได้ตลอดเวลาหากต้องการอะไร

ทางพนักงานต้อนรับ จะเชิญเรามาจุดโคมรูปไก่ เพื่อเป็นการต้อนรับ และ หมายถึงพรให้เราโชคดีค่ะ

บริเวณรีเซปชั่นด้านล่าง ตรงที่รับรถไป Valet ค่ะ ตรงนี้เป็นชั้นเดียวกับถนน ส่วนรีเซปชั่นที่เป็นล็อบบี้ต้องขึ้นไปหนึ่งชั้น


Themed-Suite

เราพักห้องพักแบบ Theme Suite ค่ะ ซึ่งทั้งโรงแรมมี 3 ห้อง เป็นคนละธีมกัน มีธีมจีน ซึ่งตกแต่งสวยมากๆ ดีเทลเยอะเลย ธีมดัทช์ แล้วก็ธีมโมรอคกันแบบในรูปค่ะ

ส่วน Room type อื่นๆ ก็สวยเหมือนกันนะคะ เราแอบไปถ่ายมา เดี๋ยวแปะไว้ให้ดูด้านล่างค่ะ

ห้อง Theme Suite ที่นี่ใหญ่สะใจมาก มีห้องนั่งเล่น 1 ห้องใหญ่ๆ เต็มๆ มีโซนครัว ห้องน้ำด้านนอก ห้องนอน ระเบียงใหญ่ ส่วนห้องน้ำอลังการมาก มีอ่างจากุชชีอ่างใหญ่ พื้นที่ชาวเวอร์ โซนอ่างล้างหน้าคู่ และ วอล์กอินโคลเส็ทค่ะ

จริงๆ ห้องเรามีเตียงเสริมนะ แต่เตียงนี้ใหญ่มาก แบบนอน 3 คนไม่เบียด

บรรยากาศจากห้องก็จะมองออกไปเห็นทะเลและพระอาทิตย์ตก ตื่นมาตอนเช้าเปิดหน้าต่างก็เห็นทะเล ชื่นใจมาก แล้วห้องกว้างมาก 114 ตารางเมตรไปเลย!

เราชอบห้องน้ำที่นี่มาก กว้างจนวิ่งเล่นได้ ที่สำคัญคือ แม้จะเลือกห้องธรรมดา ห้องน้ำและอ่างอาบน้ำก็ยังใหญ่สะใจอยู่ดี

โซนมินิบาร์

ระเบียง ซึ่งมีทั้งระเบียงที่ออกมาจากห้องนั่งเล่น และ ที่ออกจากห้องนอน

สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ค่ะ แน่นอนว่า โรงแรมในเครือ Jetwing เน้นเรื่อง Sustainability จึงไม่ใช้พลาสติก น้ำดื่ม สบู่ แชมพู และ ของใช้ในห้องน้ำ มาในรูปแบบของขวดแก้วและถุงผ้าที่รียูสได้ค่ะ

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่


Pools

ที่ Jetwing Lighthouse มี สระว่ายน้ำหลักๆ 2 สระ และมีสระเด็กอีกหนึ่งสระ โดยทั้ง 2 สระ มีบริเวณ daybed ที่สามารถนอนอาบแดดและชมวิวทะเลได้ แถมยังมี ห้องอาหารกับพูลบาร์อยู่ใกล้ๆ พร้อมให้บริการทั้งสองจุดเลย

ตรงนี้เป็นสระเด็ก แต่ถ้าสังเกตจะเห็นหินที่ตกแต่งอยู่บนพื้น ซึ่งเป็นหินตามธรรมชาติภูมิประเทศของที่นี่

Lorenzo’s Pizza Bar บาร์ริมสระที่มีเตาอบพิซซ่ากันแบบสดๆ
Nihal’s ตั้งชื่อตาม Executive Chef เชฟ Nihal Senanyake ที่อยู่ที่โรงแรมนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก เสิร์ฟอาหารนานาชาติที่มีการใส่กลิ่นอายความเป็นศรีลังกาลงไป

หากใครอยากไพรเวท เค้าก็มีซีตติ้ง สำหรับนั่งทานอาหารชมพระอาทิตย์ตกกันแบบสวีทๆ ได้นะคะ


Restaurants & Bars

กลับเข้ามาในตัวอาคารกันบ้างค่ะ เราอยู่ที่ชั้นสอง ซึ่งเป็นหลังคาเปิดให้แสงธรรมชาติเข้า

บันไดวนตรงหลังคาโดม มีปะติมากรรม ที่เล่าเรื่องผู้นำชาวโปรตุเกสนำทัพมายึดครองศรีลังกา โดยมีกษัตริย์ศรีลังกาอยู่ข้างบนสุด และ ชาวโปรตุเกสอยู่ที่ชั้นล่าง วนขึ้นมา เป็น art piece ที่สวยงามมาก

ตรงนี้เป็นห้องอาหาร The Cinnamon Room ซึ่งเป็นห้องอาหาร fine dining ของที่นี่ค่ะ

มีที่นั่งด้านนอกด้วย

ข้างๆ กัน จะเป็น Coats of Arms Bar เราชอบที่นี่มากๆ เพราะเห็นวิวพาโนรามาเลย แล้วอินทีเรียตรงนี้ จะดูวินเทจๆ ด้านบนเป็น งานบาติกที่เพ้นท์เป็นสัญลักษณ์ของอังกฤษและศรีลังกา บรรยากาศดีเลยค่ะ


Cardamom Cafe

ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม เพราะอาหารเช้าและอาหารเย็นที่รวมอยู่ใน Half board Basis จะอยู่ที่นี่

เวลาเราจองสามารถเลือก Half board ได้เช่นกันนะคะ ตอนเย็นเค้าก็จะมีเมนูคอร์สอาหารเย็น ให้เราเลือก ซึ่งเมนูเปลี่ยนทุกวัน แล้วเชฟที่ Jetwing Lighthouse น่าจะมีโอกาสทำอาหารเอเชียตะวันออกบ่อยๆ เค้าทำอาหารที่ออกแนวจีนๆ ได้ดีมากเลย

Appetizer กับ ซุป มีให้เลือกทุกคนค่ะ จากนั้นจึงเลือก Main Dish ซึ่งมีหลากหลายมาก

อันนี้อาหารอีกวันนึง เริ่มด้วย Appetizer กับ ซุปเหมือนกัน แล้วเป็นเมนดิชที่พวกเราเลือกกัน

ส่วนตอนเช้า ห้องนี้จะใช้เป็นที่เสิร์ฟอาหารเช้าค่ะ ตอนเย็นส่วนใหญ่เรานั่งอินดอร์ในห้องแอร์ เพราะกลัวยุง แต่ตอนเช้า นั่งข้างนอก บรรยากาศดีมากๆ ลมทะเลโชย ได้ยินเสียงคลื่น ตรงนี้คือดีมาก (ชุดในรูปคือพร้อมไปเล่นเซิร์ฟมากจ้า)

ไลน์อาหารเช้าก็กินกันแน่นๆ ไปเลยค่ะ มีทุกอย่าง ขนมปัง ชีส เนื้อต่างๆ อาหารศรีลังกา อาหารจีน อย่าลืมลอง ฮอปเปอร์ เป็นแป้งที่เค้าทอดเป็นถ้วยๆ ใส่ไข่ตรงกลาง แล้วโปะไส้กรอกมาเยอะๆ อร่อยมาก

อันนี้แอบเอามาให้ดู เป็น Wood Apple หรือ ภาษาไทยเรียก มะขวิด พอดีเราไม่เคยกิน แต่ที่นี่เค้าเอามาทำหลายอย่างมาก กลิ่นแปลกๆ นิดนึง

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่


At your service

นอกจากทั้งหมดที่พูดถึงไปแล้ว ที่นี่ยังมีอาคารสปา ที่เค้าเน้นทรีทเม้นท์แบบ อายุรเวท จริงจังมาก ใครอยากลองแนะนำเลย เราไม่มีเวลา แต่เท่าที่คุย หมอเค้าดูจริงจังมาก แบบต้องถามพวกวันเดือนปีเกิด ต้องทำก่อนพระอาทิตย์ตก แล้วก็มีสมุนไพรพร้อมเลย

ในบริเวณรีสอร์ทยังมีโต๊ะพูล สนามเทนนิส และ ฟิตเนสอีกด้วย

พวกเราก็ฟิตกันมาจากไหนไม่รู้ เล่นเซิร์ฟเสร็จ ตอนกลางคืนมาตีเทนนิสกันเฉย ตื่นอีกวันไปเล่นเซิร์ฟต่อ พอร่างกายรู้สึกรีเฟรชแล้วแอคทีฟกันขึ้นมาเฉยๆ เลย

ที่นี่มีห้องลับด้วยนะคะ เป็นห้องของ Naturalist ประจำรีสอร์ท ซึ่งจะคอยดูพวกสัตว์และพืชพันธ์ที่เจอรอบๆ เค้ามีโปรแกรมดูวาฬ โปรแกรมเดินดูนก ดูต้นไม้ ซึ่งเค้าก็จะอธิบายที่มาและลักษณะของพวกมันได้

ส่วนตรงนี้เป็นร้านขายของที่ระลึกค่ะ

อีกอย่างที่เรายังคงประทับใจ ตั้งแต่ Jetwing แห่งแรกที่เราไป จนถึงที่นี่เป็น Jetwing แห่งที่สามในทริปนี้ คือเค้าใช้ขวดแก้ว และเน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากๆ เราประทับใจมากเลย


Oriental Themed Suite

มาดูห้องแบบอื่นๆ กันบ้างนะคะ อย่างที่บอกว่า ห้องที่เราพักคือห้องธีมโมรอคโค แต่อันนี้เค้าให้เราเลือกค่ะ เลยถ่ายมาให้ดู เป็นห้องแบบจีน รายละเอียดในห้องเยอะมากเลย จริงๆ เราว่าพร็อพห้องนี้สวยกว่าห้องโมรอคโคนะคะ แต่ว่าเราชอบดีไซน์ของห้องโมรอคโคมากกว่า


Luxury Rooms

ส่วนใครที่ไม่ได้จองห้อง Suite ก็จะเป็นห้อง Luxury Room ซึ่งมี 2 แบบ คือมันจะมีอาคารหลัก กับ อาคารฝั่งสปา ห้องจะตกแต่งต่างกันเล็กน้อย แต่ห้องใหญ่ และ ห้องน้ำใหญ่ทั้งสองฝั่ง จริงๆ แค่ห้องแบบนี้ ก็ใหญ่พอ แทบจะวิ่งเล่นได้แล้วค่ะ

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่


ขอจบรีวิวด้วยภาพการเล่นเซิร์ฟที่หาด Dewata ขับรถไปประมาณ 15 นาทีค่ะ

ชมรีวิวโรงแรม Jetwing ในเมืองอื่นๆ คลิ๊กที่รูปได้เลยค่ะ


JETWING LIGHTHOUSE

ตั้งอยู่บนถนนสาย A2 ซึ่งเป็นถนนหลักที่เรียบชายฝั่ง ถ้ามาจากกรุงโคลอมโบสามารถขึ้นทางด่วน Southern Expressway มาเข้าทางเมือง Galle ได้ค่ะ

เว็ปไซต์ : https://www.jetwinghotels.com/jetwinglighthouse/
โทร. +94-114-709-400
อีเมล์ :RESV.LIGHTHOUSE@JETWINGHOTELS.COM

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่

error: