[รีวิว] Jetwing Vil Uyana รีสอร์ทหรูท่ามกลางธรรมชาติ ศรีลังกา ใกล้พระราชวังลอยฟ้า สิกิริยา (Sigiriya)

มาถึงประเทศ ศรีลังกา กันแล้ว คงจะพลาดไม่ได้ที่จะมาชมหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญของศรีลังกา อย่าง ปราสาทลอยฟ้า สิกิริยา (Sigiriya) ซึ่งหลังจากที่ Eat Chill Wander ได้ไปหาข้อมูลก็พบว่า นอกจากความลึกลับ น่าอัศจรรย์ของปราสาทที่ไปแกะอยู่บนยอดเขา Lion Rock นี้แล้ว ป่าบริเวณรอบๆ ยังเป็นป่าที่สมบูรณ์ มีทั้งทะเลสาบ ป่า และ ปางช้างให้ชม โดยวันนี้ เราขอมาศรีลังกาแบบหรูหรา พักที่ รีสอร์ทระดับท็อปของประเทศ ที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ และ ยังคงแนวคิดเรื่องความยั่งยืนอีกด้วย
ที่นี่คือ Jetwing Vil Uyana รีสอร์ทในเครือ Jetwing ซึ่งเป็นเครือโรงแรมของชาวศรีลังกา เราเข้าไปดูเว็ปโรงแรมแล้วรู้สึกว่าเครือนี้เจ๋งมากๆ ตรงที่มีโรงแรมกว่า 30 แห่งทั่วศรีลังกา และทุกที่ ใช้คาแรคเตอร์ของสถานที่นั้นๆ ทำให้โรงแรม Jetwing แต่ละโลเคชั่นไม่เหมือนกันเลย อย่างในทริปนี้ เรามีโอกาสไปพักโรงแรมของ Jetwing ถึง 3 แห่ง ก็บรรยากาศและการตกแต่งไม่เหมือนกันเลย แต่สิ่งที่เหมือนกันคงจะเป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการแทรกวัฒนธรรมของศรีลังกาไว้ในส่วนประกอบของโรงแรมนั่นเอง
รีสอร์ท Jetwing Vil Uyana ตั้งอยู่ห่างจาก ปราสาทลอยฟ้า Sigiriya เพียง 10 นาที หากมองภาพด้านล่างดีๆ จะเห็น Lion Rock อยู่ทางด้านหลังด้วยค่ะ รีสอร์ทแห่งนี้ ใช้พื้นที่ 28 เอเคอร์ ออกแบบสถาปัตยกรรมที่เอื้อต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รางวัลด้านการอนุรักษ์มากมาย และเป็นพื้นที่ที่มีสัตว์ป่าทั้งบนบกและในน้ำจนเรียกได้ว่าเป็น Exclusive Sanctuary เลยค่ะ
เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่
Checking in
จากลานจอดรถ พนักงานต้อนรับรับกระเป๋าและพาเรานั่งรถบักกี้มากันที่ล็อบบี้ ผ่านทุ่งนา ทะเลสาบ และ ป่า มาถึงอาคารส่วนกลาง ที่ปล่อยแสงธรรมชาติลอดผ่านเข้ามา
ทุกคนพนมมือยิ้มแย้ม พร้อมกล่าว “Ayubowon” ที่เป็นคำกล่าวทักทายที่แปลตรงตัวว่า ขอให้คุณอายุยืนยาว จนเราแอบจำเป็นภาษาไทยว่า อายุบวร ทุกครั้ง
Welcome Drink ถูกเสิร์ฟให้เราเลือก มี มะม่วงดิบ, มะพร้าวไฟ (King Coconut) และ ชาเย็น จะบอกว่าน้ำมะม่วงมันเปรี้ยวหวานแบบสดชื่นมากๆ ติดใจ
Personal Butler ของเราได้เข้ามาแนะนำตัว พร้อมแนะนำ Facilities ส่วนกลางคร่าวๆ ที่นี่มีทั้งบาร์ชิชา และ ห้องสมุดโอเพ่นแอร์ ริมทะเลสาบ ส่วนโปรแกรมฮิตของที่นี่คือการเดินส่องสัตว์ป่าตอนกลางคืนอารมณ์ Night Safari ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการไปหาเจ้า Gray Slender Loris หรือ นางอาย ชนิดหนึ่งที่พบได้ทางอินเดียใต้และศรีลังกาเท่านั้น (มีค่าใช้จ่ายในการร่วมทัวร์เพิ่มเติม) แล้วก็มี Fishing Cat หรือ เสือปลา, นาก, ชะมด ที่เราสามารถพบได้ ในการไปส่องสัตว์อีกด้วย
ความเจ๋งคือ Personal Butler จะให้มือถือพร้อมเบอร์โทรของเค้า ที่จะติดต่อกันได้ตลอดเวลา ถ้าเราจะเอาอะไร ไม่ว่าเราอยู่ตรงไหนของรีสอร์ท ก็โทรหาเค้าได้เลย
จากนั้น เค้าก็จะเชิญเรามาจุดตะเกียง รูปไก่ เพื่อเป็นการต้อนรับ และ เป็นเหมือนการให้พร ให้เราโชคดี
Pool Villa (Paddy Dwelling Type)
หากใครตามสื่อท่องเที่ยวของอังกฤษบ่อยๆ อาจจะเคยเห็นว่า ศรีลังกา เป็นหนึ่งใน ฮันนีมูน เดสติเนชั่น ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแถบนั้น และเมื่อเราได้มาเห็นบ้านพัก ก็เข้าใจทันทีว่าทำไม
พูลวิลล่า ที่นี่มี 2 แบบ คือแบบวิวทะเลสาบ (Water Dwelling) และ วิวทุ่งนา ช่วงที่เรามาพัก วิวทะเลสาบน่าจะเต็ม เลยได้เป็นวิวทุ่งนามาแทน นอกจากนี้ ก็จะมี วิลล่าที่ไม่มีสระส่วนตัว (Garden Dwelling) และ วิลล่าใหญ่ 2 ชั้น (Forest Dwelling) แบบอลังการมากไปเลย
วิลล่าใหญ่กว่าวิลล่าส่วนใหญ่ที่เราเคยพัก และใหญ่กว่าที่เราคิดไว้มากๆ วิลล่าทุกหลังจะอยู่แยกกัน มีทางเดินพร้อมไฟทางเดินไปตามบ้านของตัวเอง มีสระว่ายน้ำเล็กๆ ที่พอจะแฮงค์เอาท์ และ อาบแดด ได้สบายๆ
ภายในวิลล่าของเรา ทริปนี้ เรามากัน 3 คนเลยขอเตียงเสริมไปค่ะ
สังเกต อ่างอาบน้ำใหญ่มากๆ แอบสารภาพว่า เราลงไปแช่ฟองกับเพื่อนด้วยกันสามคนมาแล้ว พื้นที่เยอะมากๆ
ที่ชอบมากๆ อีกอย่างคือ หน้าต่างกระจกจากพื้นสู่เพดาน ทำให้เห็นวิวเต็มๆ ตลอด รู้สึกสงบและผ่อนคลายมากๆ สังเกตว่า พื้นที่ด้านล่าง ก็ยังเยอะจนนั่งเล่นกันได้สบายๆ
ถัดมาตรงส่วนของห้องน้ำ ซึ่งเป็นได้ทั้งข้อดีหรือข้อเสีย แล้วแต่คนจะมองเลยค่ะ
ห้องน้ำที่นี่ ไม่ได้มีประตูกั้น เป็นโซนเปิดมาตั้งแต่เตียง มาจนถึง โซนที่เป็นอ่างล้างหน้า ส่วนโซนชาวเวอร์และห้องน้ำ จะอยู่ด้านหลังของเตียง โดยมีแค่กำแพงกั้น แต่ไม่ได้มีประตูปิด ซึ่งหากไม่ได้สนิทกันจริงๆ หรือ ครอบครัวเด็กโต ก็อาจจะไม่สะดวก แต่เรากับเพื่อนสนิทกันมากๆ เลยไม่ได้มีปัญหาอะไร และก็ชอบดีไซน์แบบนี้
ตรงขั้นบันได จะเป็นไฟเปิดอัตโนมัติค่ะ ถ้าเราเดินมา
โซนฝักบัวเห็นวิวด้านนอกด้วย
เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่
Facilities
สิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อผู้เข้าพัก และ ธรรมชาติมากๆ ค่ะ
อย่างแรกคือ เราไม่เห็นพลาสติกเลย ตลอดการเข้าพัก ขวดทุกอย่างเป็นขวดแก้ว ของใช้ในห้องน้ำทุกอย่างแพ๊กมาในถุงผ้าแบบรียูส ขวดน้ำดื่มที่ให้เป็นขวดแก้ว
ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ทุกอย่าง ตั้งแต่ หมวก กระเป๋า โสร่ง เตารีด บับเบิลบาธ ไปจนถึงยากันยุง อันนี้ประทับใจ
ชาที่ใช้ก็เป็นชาของ Jetwing เอง หอมมากๆ สมกับเป็นประเทศผลิตชา
อีกหนึ่งความเจ๋งของ Jetwing คือ ทุกรีสอร์ทที่เราไป จะมีหนังสือ ที่เป็นหนังสือของรีสอร์ทแต่ละที่ เล่มหนาเลย แล้วเค้าจะอธิบายว่าเค้าทำอะไรบ้างเรื่องความยั่งยืน พวกการกำจัดของเสีย การปล่อยคาร์บอน ฯลฯ
ที่ศรีลังกา รีสอร์ทใหญ่ๆ จะมีข้อมูลเกี่ยวกับท้องที่ดีมากๆ มี Naturalist ประจำรีสอร์ทที่คอยศึกษาเรื่องสัตว์ป่า หรือ การดูนก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็มีอยู่ในหนังสือของแต่ละรีสอร์ทด้วยค่ะ
มือถือไว้ติดต่อ คุณบัทเลอร์ที่บอกไปตอนแรก นอกจากนี้ก็มีรองเท้าแตะ ร่ม ไฟฉาย
บริเวณที่สัตว์ป่าแต่ละชนิดอาศัยอยู่ค่ะ เราไม่เจอตัวอะไรเลย เสียดายยยยย เจอแค่ นกยูงเยอะมาก เป็นนกยูงป่าตามธรรมชาตินะคะ เค้าไม่ได้เลี้ยง เดินไปนี่เจอที 5-6 ตัว อย่างกะเจอไก่ แล้วก็เจอจระเข้ในทะเลสาบด้วย
แล้วก็มีเรื่องสนุกๆ คือ เราเอาผลไม้กับไวน์ไปนั่งกินกันที่ระเบียงด้านนอก แล้วลืมเก็บกลับเข้ามา ตอนกลางคืนก็ได้ยินเสียง เหมือนมีสัตว์วิ่งข้างนอก แต่เราล๊อกห้องไปแล้วเลยไม่ได้เปิดออกไปดู ตื่นเช้ามา ปรากฎว่า ผลไม้เหลือแต่เปลือก ตลกมาก ทิ้งเปลือกไว้ และ แก้วไวน์ยังอยู่ดีแบบไม่มีอะไรมาแตะ คุยกับคุณบัทเลอร์ เค้าคิดว่าน่าจะเป็นลิงค่ะ
Life at the Villa
นี่ไง จุดเกิดเหตุ ที่มีน้องลิงมาขโมยผลไม้เราตอนกลางคืน แต่ไม่แตะไวน์เลย
เรานั่งเล่นกันตอนเย็นๆ บรรยากาศดีมากๆ
โต๊ะทำงานภายในวิลล่าค่ะ
สระน้ำด้านหน้า ส่วนใบไม้นี่เห็นมันใหญ่ดี เลยเอามาเป็นพร๊อพถ่ายรูปหน่อย
ที่นอน นอนสบายมากค่ะ มีมุ้งให้ฟีลเตียงคุณหนูมาก
วิลล่าแต่ละหลังจะอยู่ห่างกันประมาณนี้เลยค่ะ
ทางเดินไปวิลล่า
เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่
Public Space
มากันที่อาคารหลัก ซึ่งเป็นอาคารเดียวกับที่เราเช็คอินกันในตอนแรกนะคะ คุณบัทเลอร์เค้าบอกให้เราเรียกเค้าเอารถบักกี้รับส่งได้เลย แต่จริงๆ วิลล่าเราไม่ได้ไกลเลยค่ะ เดินเล่นสบายๆ
จากภาพตรงนี้ จะมีสระว่ายน้ำใหญ่ 1 สระ มีไวน์เซลล่า บาร์ ห้องสมุด ส่วนชั้นสองจะเป็น Apsara Fine Dining Restaurant ค่ะ
ตรงนี้บรรยากาศดีมาก ชอบมีนกยูงเดินมา
อันนี้คือห้องสมุดที่บอกค่ะ มีพวกหนังสือเกี่ยวศรีลังกา เกี่ยวกับชา น่าสนใจมาก เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เราชอบมากของที่นี่ เพราะมันเงียบ มันมีความธรรมชาติ ความสงบ
ส่วนตรงนี้เป็นสระว่ายน้ำใหญ่ ที่เห็นวิวทะเลสาบค่ะ
ส่วนนี่คือสัตว์ต่างๆ ที่เราเจอ ส่วนจระเข้ไม่ต้องกลัวนะคะ น้องไม่เคยขึ้นมาจากทะเลสาบ และไม่เคยทำร้ายใครเลยค่ะ น้องกินปลาตามธรรมชาติ
ร้านขายของที่ระลึกภายในรีสอร์ท
สปา ฟิตเนส และ สวนผักค่ะ ที่นี่มีสวนผักและสมุนไพรค่อนข้างใหญ่ ทางรีสอร์ทก็นำมาเป็นไว้ให้เราทานแบบออร์แกนิคๆ เลยค่ะ
Apsara Fine Dining Restaurant
แม้ว่าจะไม่ได้มาพักที่นี่ แต่หากมาเที่ยวสิกิริยาแล้ว เราก็แนะนำห้องอาหารที่นี่เลยค่ะ เพราะเชฟทำอาหารได้หลากหลายทั้งอาหารตะวันตกและอาหารศรีลังกา ออกมาเป็นเซ็ทเมนูที่เราปลื้มและเอนจอยมากๆ
มาชมมื้อเย็นกันก่อนนะคะ เราทานมื้อเย็นกันในรีสอร์ทเลย ไม่ต้องออกไปไหน
เริ่มกันที่ขนมปังกับ Amuse Bouche เป็น ครอกเก็ตปลาค่ะ
ภายในคอร์สจะประกอบไปด้วย Appetizer, Soup , Intermezzo, จากนั้นก็จะมีซอเบล้างปาก ก่อนเข้าเมนดิช และจบด้วย Dessert ค่ะ แต่ละคอร์สมีให้เราเลือก 2-4 ออปชั่น
อย่างซุปไก่กะทิในภาพนี่เชฟบอกว่า ได้แรงบันดาลใจจากแกงของศรีลังกา แต่นำมาทำให้อินเตอร์ขึ้น ซึ่งกลายเป็นจานที่เราชอบมากๆ มันคล้ายๆ ข้าวซอย แต่มีความเนียนแบบซุปฝรั่งอ่ะค่ะ ชอบมาก
ใน Main Dish จะมีออปชั่นให้เลือกเป็น Sri Lanka Special ด้วย สเปเชี่ยลมากกกกก คือมาใหญ่มาก ที่เห็นทั้งหมดนี่สำหรับคนเดียวนะคะ มีกับหลัก 6 อย่าง แต่ดีเลยนะคะ ได้ลองอาหารศรีลังกาหลายๆ อย่างในมื้อเดียว แกงไก่ กับ แกงปลา อร่อย เราทานได้เลย ที่เหลือก็จะเป็นพวกผัดมะระ ผัดบีทรูท แกงถั่ว ดาลมักนี อันนี้เป็นเมนูที่เราชอบอยู่แล้ว แล้วก็มี Sambol ที่เป็นมะพร้าวขูด หอม
ส่วนเพื่อนสั่งเป็นไก่ อีกคนสั่งเป็นปลาค่ะ ทานเกลี้ยงทุกคน
บรรยากาศที่ห้องอาหารค่ะ อ้อ เป็นห้องอาหารโอเพ่นแอร์นะคะ ลมเย็นสบายดีค่ะ แต่อาจจะต้องทายากันยุงมานิดนึง
มีดนตรีคลอด้วย
Graffiti Bar
ที่ชั้น 1 จะมีบาร์ค่ะ ให้บริการพวกเครื่องดื่ม ค็อกเทล ม็อกเทล ไวน์ เค้ามีไวน์เซลล่า ที่มีไวน์โอเคๆ หลากหลายเลยค่ะ แล้วก็มีบารากุให้บริการด้วย ส่วนภาพที่อยู่ที่ผนัง เป็นภาพเขียนผนังแบบเดียวกับที่อยู่ในปราสาทลอยฟ้าสิกิริยาค่ะ
รูปมุมซ้ายล่าง คือ Wine Cellar ใต้ดินค่ะ
Breakfast
ด้วยความ Sustainable ที่นี่ก็ไม่เสิร์ฟอาหารแบบบุฟเฟ่ต์นะคะ เสิร์ฟเป็นเซ็ทค่ะ แต่เซ็ทอลังการมาก แทบจะทานกันไม่หมด ปกติเค้าให้ทานได้ที่ห้องอาหารอันเดียวกับที่เราทานอาหารเย็น ซึ่งอยู่ชั้นบน แต่เราไปอ้อนๆ เค้า ขอนั่งทานกันริมสระค่ะ
ในภาพเป็นอาหารเช้าสไตล์ศรีลังกาค่ะ
ส่วนอันนี้เสิร์ฟให้ทุกคนค่ะ เออ ศรีลังกาเค้าจะมีโยเกิร์ตแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Curd ซึ่งมันอร่อยมากกก เรากินทุกเช้าเลย ติดใจ เค้าบอกว่า ยิ่งไปภาคใต้ของศรีลังกา Curd ยิ่งดัง อันนี้ต้องให้นะ
อาหารเช้าจัดเต็มมากเลยค่ะ
ขอจบรีวิวกันด้วยภาพสวยๆ จาก Sigiriya นะคะ
เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่
ชมรีวิว Jetwing ในเมืองอื่นๆ
JETWING VIL UYANA
ตั้งอยู่บนถนนเส้นที่วิ่งเข้าไปยังเขาสิกิริยา ถึงก่อนประมาณ 10 นาที ห่างจากกรุงโคลอมโบประมาณ 163 กม.
เว็ปไซต์ : https://www.jetwinghotels.com/jetwingviluyana/
โทร. +94-114-709-400
อีเมล์ : VILUYANA@JETWINGHOTELS.COM
เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่