[รีวิว] Jetwing St. Andrews รีสอร์ทสไตล์โคโลเนียล กลางหุบเขาไร่ชาซีลอน Nuwara Eliya

admin April 11, 2020

หนึ่งในสิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดของประเทศ ศรีลังกา ก็คือ ชา ที่เราเรียกกันว่า ชาซีลอน ซึ่งเป็นชาที่ถูกปลูกขึ้นในสมัยที่อังกฤษเข้ามายึดอาณานิคม และทำให้เมืองในภูเขาสูง อากาศเย็นสบายตลอดปี อย่าง Nuwara Eliya กลายเป็นเมืองปลูกชา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักในศรีลังกาในปัจจุบัน

เมือง Nuwara Eliya นับว่าเป็นเมืองที่มีสเน่ห์มากๆ แม้ว่าการมาจะต้องผ่านถนนที่คดเคี้ยว ข้ามเขามา แต่ระหว่างทางก็เป็นวิวไร่ชาที่สลับซับซ้อน เหมือนภาพในโปสการ์ดมาตลอดทาง พอมาถึงเราจึงสัมผัสได้ว่า สิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนมาพักผ่อนที่เมืองนี้ คืออากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ชนิดที่ว่า ไม่มีโรงแรมหรือบ้านพักที่ไหนมีแอร์ แต่ทุกที่มีฮีตเตอร์!

นอกจาก ไร่ชาสวยๆ อากาศเย็นๆ อีกสิ่งนึงที่เราคิดว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมือง Nuwara Eliya ก็คืออาคารสไตล์ยุโรปที่ประเทศอาณานิคมเคยมาสร้างไว้ จนเมืองนี้ มีสมญานามว่า Little England อย่างเช่นที่โรงแรม Jetwing St. Andrew’s ก็เป็นโรงแรมในคฤหาสน์หรูที่มีการรีโนเวตความโมเดิร์นเข้าไปผสมผสานกับความวินเทจอย่างลงตัว

โรงแรม Jetwing St. Andrew’s นั้น เป็นโรงแรมในเครือ Jetwing ซึ่งเป็นเครือโรงแรมของชาวศรีลังกา เราเข้าไปดูเว็ปโรงแรมแล้วรู้สึกว่าเครือนี้เจ๋งมากๆ ตรงที่มีโรงแรมกว่า 30 แห่งทั่วศรีลังกา และทุกที่ ใช้คาแรคเตอร์ของสถานที่นั้นๆ ทำให้โรงแรม Jetwing แต่ละโลเคชั่นไม่เหมือนกันเลย อย่างในทริปนี้ เรามีโอกาสไปพักโรงแรมของ Jetwing ถึง 3 แห่ง ก็บรรยากาศและการตกแต่งไม่เหมือนกันเลย แต่สิ่งที่เหมือนกันคงจะเป็นการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการแทรกวัฒนธรรมของศรีลังกาไว้ในส่วนประกอบของโรงแรมนั่นเอง

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่

Deluxe Room

พวกเราตื่นเต้นกันมากๆ เพราะนอกจากอากาศจะเย็นแล้ว การตกแต่งข้างในยังดูอังกฤษมากๆ สีดูสบายตาและน่ารักไปหมด ห้องแบบที่พวกเราอยู่ จะมี 2 ชั้น สามารถพักสูงสุดได้ 4 คน ห้องกว้าง มีพื้นที่ใช้สอยที่พอดี มีเซ็ทชาและใบชาที่ผลิตที่นี่ให้ชิมด้วย

และตามคอนเซปท์ sustainable ของที่นี่ ทางโรงแรมใช้น้ำขวดแก้ว และของใช้ในห้องน้ำ ก็มาในขวดแก้วและถุงชาที่รียูสได้อีกด้วย

แฮปปี้กับอากาศเย็นๆ

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่

Breakfast & Dinner

Old Course Restaurant เป็นห้องอาหารหลักของทางโรงแรม ที่ให้บริการทั้ง อาหารเช้า กลางวัน เย็น โดยจะนั่งเอาท์ดอร์หรืออินดอร์ก็ได้ ตอนเช้าอากาศดีมากๆ เราเลยเลือกนั่งด้านนอกกัน

ไลน์บุฟเฟต์อาหารเช้า มีค่อนข้างครอบคลุม ทั้งเมนูสไตล์ตะวันตก ไข่ แฮม ชีส ขนมปัง สลัด ผลไม้ โยเกิร์ต คอนเฟลค และ เมนูศรีลังกา ซึ่งเราเริ่มติดใจแล้ว

มีชาให้ลองหลายชนิด แบบไม่ต้องไป Tea tasting ข้างนอกเลยค่ะ

หน้าตาอาหารศรีลังกา ยังยืนยันว่า ชอบ ดาลมักนี แกงไก่ แล้วก็ ซัมบอล เช่นเคย

ส่วนตอนเย็น เป็นอาหารคอร์สเช่นเดิมค่ะ สามารถเลือกเมนคอร์สได้ แต่จากโรงแรม Jetwing 3 ที่ที่เราไปมาในทริปนี้ ที่นี่เป็นที่ที่อาหารถือว่าธรรมดาถ้าเทียบกับที่อื่นค่ะ

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่

Public Spaces

เราสามารถ มานั่งเล่นในสวนได้ ด้วยความที่มีภูเขาล้อมรอบ มองไปทางไหน ก็รู้สึกเขียวไปหมด ให้ความรู้สึกสดชื่นดีค่ะ ด้านหลังมีสวน Herb Garden ที่ปลูกไว้ใช้ในครัวที่นี่ด้วย

ส่วนด้านใน ก็จะมีมุมฮิตที่ทุกคนมาจับจองจนเราอดนั่ง คือมุมหน้าเตาผิงค่ะ อากาศหนาวๆ เค้าจะจุดเตาผิง ให้สามารถมานั่งเล่น คุยกันได้

มีตู้หนังสือเก่าเก็บด้วยค่ะ

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทางโรงแรมค่อนข้างนำเสนอ ก็คือ โต๊ะสนุกเกอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในชิ้นที่เก่าแก่ที่สุดของศรีลังกาเลยนะคะ เราสามารถเล่นได้ ชั่วโมงละประมาณ สองร้อยบาท ได้ฟีลมากๆ

บรรยากาศตรงล็อบบี้ค่ะ

Road Hole Bar เป็นอีกหนึ่งมุมที่เหมาะกับการพักผ่อนสุดๆ จิบค็อกเทลหรือวิสกี้ หน้าเตาผิง บรรยากาศดีเชียวล่ะค่ะ

เช็คราคาและจอง >> คลิ๊กที่นี่

Room types

พามาชมห้องแบบอื่นๆ กันบ้างค่ะ ภาพนี้เป็น Gem Suite ซึ่งมีเพียงห้องเดียวในโรงแรมนี้นะคะ คุณหนูมากๆ

ส่วนห้องนี้เป็น Superior Room ซึ่งโมเดิร์นมากๆ และมีประตูเปิดออกไปเป็นสวนที่เราถ่ายภาพด้านหน้ามาเลยค่ะ จริงๆ ส่วนตัวเราชอบห้องแบบนี้มากกว่า แต่พักสูงสุดได้ 2 คนค่ะ