8 1/2 Otto E Mezzo Bombana ร้านอาหารอิตาเลียน 3 ดาวมิชลินเพียงแห่งเดียว นอกประเทศอิตาลี

ยังไม่จบกับซีรี่ย์ พากินตามรอยมิชลินสตาร์ในฮ่องกง ซึ่งอีกหนึ่งในร้านที่เชื่อว่าเป็นร้านโปรดของคนไทยหลายๆ ท่านเวลาไปสอยดาวที่ฮ่องกงก็คงจะหนีไม่พ้น 8 1/2 Otto e Mezzo Bombana ร้านอิตาเลียนร้านเดียวนอกประเทศอิตาลีที่ได้รับรางวัล 3 ดาวมิชลิน ซึ่งเป็นรางวัลที่สูงที่สุดจากมิชลินไกด์ แถมยังได้อันดับที่ 12 ของเอเชียจากลิสท์ Asia’s 50 Best Restaurants 2019 อีกด้วย

และในวันนี้ เราจะพาไปทานอาหารอิตาเลี่ยน Lunch Set มื้อกลางวัน ซึ่งทางร้านมีทั้งเมนู A La Carte และ เมนูเซ็ตนะคะ เรามาครั้งแรก จึงเลือกทานเซ็ตก่อน จะได้ลองหลายๆ อย่าง แต่ก็มีสั่ง A La Carte มาด้วย 1 จาน เป็นพาสต้า ทรัฟเฟิลค่ะ

นั่นก็เพราะว่า เชฟ Umberto Bombana ได้ชื่อว่าเป็น เจ้าพ่อแห่งทรัฟเฟิลขาว เราก็เลยต้องขอลองซักหน่อย

เซ็ทกลางวันของที่นี่ สนนราคาอยู่ที่ 3 คอร์ส 780 HK$ และ 4 คอร์ส 1080 HK$ ค่ะ โดยวันนี้ เราสั่งเป็น 3 คอร์ส หนึ่งเซ็ต และ 4 คอร์ส หนึ่งเซ็ต บวกกับ พาสต้าแยกอีก หนึ่งจานนะคะ

เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยขนมปังอิตาเลียน 3 ชนิด เสริฟมาอุ่นๆ รสชาติดีทุกตัวค่ะ

ทีเด็ดของขนมปังนั้น อยู่ที่เครื่องจิ้ม ซึ่งก็คือ Extra Virign Olive Oil และ Balsamic ซึ่งทางร้านใช้ของดีมากๆ

Olive Oil ที่ดีนั้น ต้องไม่เหม็นหืน มีกลิ่นหอมผลไม้ รสชาติละมุน มีความเผ็ดและขมฝาดบ้าง กลืนแล้วไม่ติดคอ

ส่วน Balsamic ที่ดีนั้น ต้องมีความข้นเหนียว ไม่ผสมน้ำส้มสายชู ซึ่งจะทำให้รสชาติแหลมบาดคอ

Amuse Bouche หรือ อาหารเรียกน้ำย่อยของเราเป็น Gnocchi ค่ะ ตัว Gnocchi นั้นทำออกมาได้เหนียวนุ่ม รู้สึกถึงความสนใหม่ของตัว Gnocchi ซอส Beetroot ก็ทำได้ดี กลมกล่อมเข้ากันดี

คอร์สแรกของเราเป็น Scallop ซึ่งแน่นอนว่า ตัววัตถุดิบนั้น จัดการได้อย่างไรที่ติ ตัวโฟม และ กลิ่นของทรัฟเฟิล ชูรสซึ่งกันและกันดีค่ะ

อีกฝั่งสั่งเป็น Roasted Octopus หนวดปลาหมึกยักษ์กับ Roasted Artichoke ซึ่งตัวหนวดปลาหมึกทำมาได้นุ่มมากๆ ถ้าใช้ทาน Octopus ในน้ำมันมะกอกที่อิตาลีทั่วไปบ่อยๆ จะรู้ว่า ส่วนใหญ่มันจะเหนียวๆ แต่อันนี้คือนุ่ม กัดขาดได้ง่ายเลย ทานคู่กับอาติโชกซึ่งให้รสขมนำ แต่อาฟเตอร์เทสท์มีความหวาน มาพร้อม Aromatic Herbs Dressing ลงตัวดีค่ะ

คอร์สที่สองเป็นคอร์สพาสต้า จานนี้เป็น Scampi Trenette เทรเนตเต้เป็นพาสต้าเส้นแบนมาจากแคว้นเจโนวา ที่นี่ทำเส้นสด เส้นคุณภาพดีมาก ลวกได้อย่างถูกต้อง พอดีมาก ใช้มะเขือเทศ Datterino ผัดกับ Jus จากกุ้ง ซึ่งมันมีความหวานตามธรรมชาติ เป็นรสสัมผัสที่ดีมาก

ด้านล่างนี่เป็นเมนู A La Carte ค่ะ สปาเก็ตตี้ เห็ดทรัฟเฟิลชั้นดีจาก Perigord ประเทศฝรั่งเศส ที่ฝานมาอย่างไม่หวงค่าตัว ฝานเยอะจนตกใจ มาบนสปาเกตตี้ซอสครีมค่ะ จานนี้ดีมาก แต่ราคาก็แรงมากๆเช่นกัน คนชอบทรัฟเฟิลดำคงจะฟินมากๆ แต่เราว่ากลิ่นมันไม่ค่อยหอมแบบ Alba Truffle ที่เราชอบเท่าไหร่

มาถึงจานนี้ เรารู้สึกว่า รสชาติของที่นี่เป็นคอมฟอร์ทฟู้ด ไม่ได้หวือหวา แต่มันกลมกล่อม และ มันรู้สึกถึงวัตถุดิบที่ดีค่ะ

เป็ดซอสไวน์แดง และแครอท เนื้อเป็ด ปรุงและ cook มาได้ดี ซอสเข้มข้น อร่อยดีค่ะ

จบท้ายด้วยปลา Kinmedai ย่างค่ะ อร่อยดีมาก แต่ไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไร อย่างที่บอก เป็นรสชาติแบบ คอมฟอร์ทฟู้ดจริงๆ อร่อย ดี แต่ไม่หวือหวา เมนคอร์สทั้งสองจาน เรารู้สึกอร่อย แต่ไม่ได้ใจเต้นค่ะ

มาถึงคอร์สสุดท้าย จะเลือกเป็นขนมหวาน หรือ ชีสก็ได้ค่ะ

จานนี้ชื่อว่า Chestnut เป็น Chestnut Cake, Chantilly และ Marron Gelato ละมุนดีค่ะ

เราเลือกขนมอีกอย่างเป็นชีสค่ะ หั่นมา 3 ชิ้นเล็กๆ พร้อมองุ่นแห้ง และแยมผลไม้ ชีสใช้ของดีค่ะ แต่เป็นชีสฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่

ปิดท้ายด้วย Petit Four ดังรูป ตัว fruit cake เนื้อเหนียวดีมาก

โดยสรุป เราคิดว่าร้าน 8 1/2 Otto E Mezzo Bombana เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่ดีนะคะ แต่ด้วยความที่ร้านเสริฟอาหารอิตาเลียนแบบค่อนข้างคลาสสิก เน้นการปรุงและวัตถุดิบที่สด เลยอาจจะไม่ใช่แนวที่เราอินเท่าไหร่ (อาจจะเพราะเคยอาศัยอยู่อิตาลี แล้วรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงขนาดนี้ล่ะมั้งคะ) อาหารทุกอย่างนั้นดีมากๆ และคงหาร้านอิตาเลียนร้านอื่นที่ดีกว่าได้ยาก แต่กลับกัน ก็มีร้านอื่นๆมากมายที่ไม่โด่งดังเท่า ที่อาจจะทำอาหารได้ไม่แพ้กัน

ร้านบรรยากาศดี รู้สึกอบอุ่น ในแง่ของการบริการ ถือว่าดีมากนะคะ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับร้าน Michelin 3 ดาวอื่นๆ ก็ยังนับว่าไม่ถึงขั้นนั้น

เทียบกับร้านอาหาร 3 ดาวในระแวกใกล้เคียงแล้ว Lunch Set 4 Courses ที่นี่ ราคาแพงกว่า Robuchon Au Dome หรือ Caprice ที่ใช้วัตถุดิบชั้นดีกว่า และมี Amuse Bouche, Cheese Trolley และ Dessert Trolley ที่อลังการกว่ามากๆแล้ว เราคิดว่าความคุ้มค่าของ Lunch Set ร้าน 8 1/2 Otto E Mezzo Bombana อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำกว่าเพื่อนบ้าน

มื้อนี้ รวมไวน์คนละแก้ว อยู่ที่ประมาณ 2500 HK$


ร้าน 8 1/2 Otto E Mezzo Bombana

Address: Landmark Alexandria, Shop 202, 18 Chater Rd, Central, Hong Kong

ร้านเปิดทั้งมื้อกลางวันและเย็น ปิดทุกวันอาทิตย์ค่ะ

 

error: