[รีวิว] โรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon ดีไซน์สุดจี๊ด เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ

โรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด กรุงเทพ มหานคร) เป็นโรงแรมใจกลางกรุงเทพฯ ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดหลังจากเปิดตัว ใครๆ ก็บอกว่าโรงแรมแห่งนี้นั้น ถ่ายรูปสวยทุกมุม แต่เราคิดว่า ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่จุดถ่ายรูป ที่นี่คือการผสมผสาน ดนตรี แฟชั่น ศิลปะ มาถ่ายทอดอยู่ในการออกแบบและตกแต่ง และทำให้ The Standard Bangkok Mahanakhon ถือเป็นหนึ่งในโรงแรมที่โดดเด่นมากที่สุดในกรุงเทพฯ
ที่นี่มีความสนุกหลายอย่างในการดีไซน์ทั้งเรื่องของดนตรี แฟชั่น และ ศิลปะ ไฮไลท์เริ่มจากการมีตำแหน่ง Director of Music ที่จะรังสรรค์ให้ทุกจุดของโรงแรมมีเสียงเพลง และเป็นเพลงที่ไม่เหมือนกันเลยในแต่ละมุม ตามด้วย งานศิลปะ ที่รายล้อมอยู่เต็มโรงแรม เช่น งานของ Marc Quinn ศิลปินร่วมสมัยชาวอังกฤษที่ตามหาอัตลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน, มีปะติมากรรมของ Joan Miro ของจริง, เซ็นเตอร์พีซที่ล็อบบี้เป็นงานของ Marco Brambilla ที่จัดแสดงครั้งแรกในเอเชีย เป็นต้น
Upon Arrival
แค่ทางเข้าชั้นล่างก็สวยมากๆ แล้วค่ะ ระบบการจอดรถที่นี่จะเป็นบริการแบบ Valet Parking ลงรถแล้วก็เริ่มกันที่ทางเข้าด้านล่างก่อนเลย จะเจอกับลายเส้นวาด Portrait บนพื้นสวยๆ และโคมไฟหวายที่ประยุกต์นำของท้องถิ่นมาใช้อย่างร่วมสมัย
กดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นล็อบบี้หลักของโรงแรม ด้านหลังนี้เป็นงานศิลปะแบบ Video Collage จาก Marco Brambilla ชื่องานว่า Heaven’s Gate จัดแสดงครั้งแรกในเอเชียเลยค่ะ สังเกตยูนิฟอร์มก็ดีไซน์ดี เสื้อจะเป็นดีไซน์เหมือนกางเกงค่ะ
ล็อบบี้ที่นี่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจเลย ทั้งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ของเก่าเก็บ ชิ้นงานศิลปะ ถูกนำมาวางโชว์อย่างสวยงาม แบรนด์โรงแรม The Standard นั้น ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ฉีกกรอบจากโรงแรมหรูแบบเดิมๆ มีความสนุกสนาน มีเรื่องไลฟ์สไตล์ คัลเจอร์ ศิลปะ อยู่อย่างเต็มเปี่ยม และประสบความสำเร็จทั้งใน นิวยอร์ก ลอนดอน ลอสแองเจลิส และ ไมอามี่ มาแล้ว
จัดการแมชพาเลทสีได้สวยมากๆ เหมือนมาแกลเลอรี่เลยค่ะ รูปขวานี่เป็นปะติมากรรมของ Juan Miro ศิลปินเซอร์เรียลิสม์ชื่อดัง
Corner Double Room
ภายในโรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon ประกอบไปด้วยห้องพัก 155 ห้อง เริ่มจาก Standard King ซึ่งมีพื้นที่ถึง 40 ตร.ม. ส่วนแบบที่เราพักในครั้งนี้คือ Corner Double 57 ตร.ม. ค่ะ ภายในห้องออกแบบให้มีแสงจากธรรมชาติ วิวใจกลางเมืองแบบ Floor-to-Ceiling เลยค่ะ
มีลำโพงบลูทูธของ B&O พร้อมสมาร์ททีวีที่เชื่อมทุกอย่างง่ายมาก!
การออกแบบภายในของที่นี่เป็นฝีมือของ Jaime Hayon ซึ่งจะมีเส้นโค้งอยู่ตลอด จัดพื้นที่ในห้องกว้างขวางเป็นสัดส่วนดีมากๆ
สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน ใช้ของดีไซเนอร์ไทยสลับกับงานคัสตอมเมด
Selection ในมินิบาร์ที่เลือกมาเป็นอย่างดี เข้ากับโรงแรมมากๆ
ห้องน้ำมีทั้งเรนชาวเวอร์ น้ำแรงสุดๆ อ่างอาบน้ำใหญ่ มีหน้าต่างกระจก รับแสงธรรมชาติได้เลย
Bathrobe ที่นี่ก็ออกแบบเองเป็นเอกลักษณ์ bath amenities เป็นของแบรนด์ Davines หอม สัมผัสดีค่ะ
The Standard Grill
ที่นี่มีห้องอาหารอยู่ 6 ห้อง ได้แก่ Ojo, The Standard Grill, Mott32, Sky Beach Bangkok, The Parlor และ Tease
สิ่งที่ชอบมากคือ ทุกห้องอาหารมีบาร์อยู่ !!! และทุกห้องอาหารก็คอนเซปท์ต่างกันหมดเลย
ซึ่งเราขอเริ่มจากห้องอาหารแรก ซึ่งเป็นห้องอาหารที่เสิร์ฟอาหารเช้า จากนั้นก็จะแปลงร่างเป็นสเต็กเฮ้าส์เหมือนหลุดไปอยู่นิวยอร์ก ห้องนี้ยังเสิร์ฟแบบ All Day Dining อีกด้วยค่ะ
อาหารเช้าที่นี่ เป็นแบบ a la carte เมนู ที่ทำจานต่อจานค่ะ เมนูก็รู้สึกได้ว่าคิดมาเป็นอย่างดีเลย
เมนูเบคอนนี่ประทับใจมากๆ เลยค่ะ แต่ขนาดเมนูพื้นฐานอย่าง โยเกิร์ต หรือ โคลด์คัทส์ ก็ก็เลือกวัตถุดิบดี จัดแต่งได้น่าทาน ทุกจานคือไม่ได้เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพของแต่ละเมนูจริงๆ
ตัดภาพมาช่วงกลางวันและช่วงดินเนอร์ ในห้องอาหาร The Standard Grill ก็จะมี Grill Zone ที่เหมือนยกนิวยอร์กมาไว้ในกรุงเทพฯ เสิร์ฟสเต๊กฉ่ำๆ เลยค่ะ
Appetizers และ Side Dishes ต่างๆ ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ ตัวซุป Lobster Bisque เข้มข้นสุดๆ
ฮามาจิ สดเด้งหวานมัน เข้ากับซอสที่ใส่มาด้วยสุดๆ เนื้อ Grass Fed Tenderloin 150g ย่างมาได้สุกพอดีตามสั่ง Cheesecake เนื้อเนียน หอม อร่อย
มาจิบมาร์ตินี่ต่อกันที่บาร์ก็ได้ค่ะ
Swimming Pool and The Standard GYM
สระว่ายน้ำสีสันสดใส ที่รายล้อมไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ ก่อนจะเป็นวิวใจกลางกรุงอีกที Pool Bar ตรงนี้ เสิร์ฟค็อกเทลและเมนู plant- based เหมาะกับวันร้อนๆ บรรยากาศทรอปิคอล
สีน้ำในสระสวยมากๆ เลยค่ะ
ส่วนฟิตเนสก็จัดเต็ม น่าสมัครสมาชิกสุดๆ เป็นฟิตเนสที่ให้บริการ 24 ชม. ใช้เครื่องออกกำลังกายที่น่าจะอัพเดทอันดับต้นๆ ในไทยแล้วค่ะ อย่างเครื่องปีนหน้าผา กับจักรยาน Peloton ก็มีแค่ที่นี่เท่านั้น
เครื่องปีนเขา แห่งแรกใน กทม ก็มา!
ภายในแอบมีมุมลับนะคะ เป็นห้องสตีมรูมที่สีสวยมากๆ
The Parlour
ตรงนี้เป็นมากกว่าร้านอาหารหรือคาเฟ่เลยค่ะ เป็นเหมือน community space และแหล่งแฮงค์เอาท์ ด้วยบรรยากาศสดชื่น เต็มไปด้วยไอเดีย เป็นสเปซที่มีโปรแกรมทั้งทอล์กโชว์ เวิร์คช้อป ซาวด์สตูดิโอ – และยังเสิร์ฟอาหารไทย อาหารนานาชาติ และเครื่องดื่มอีกด้วยค่ะ
เป็นห้องอาหารที่นัทชอบ เพราะรู้สึกว่า happening สุดๆ ดูเป็นคอมมิวนิตี้ ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียต่างๆ อยู่ตลอด
อีกมุมที่สีสวยมากกก เข้ามาแล้วสดชื่น
อาหารไทยจากห้อง Parlour รสชาติดี ใช้ได้เลยค่ะ เป็นอาหารที่ดูธรรมดาๆ แต่รสชาติคอมฟอร์ท ไม่ธรรมดาเลย เนื้อย่างดีงามมากๆ
Tease
ในโซนของ The Parlour จะมีทีรูมสุดเก๋อยู่ค่ะ ที่นี่ออกแบบได้แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ สีขาวดำ เก๋มากๆ
Sky Beach Bangkok
รูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในเมืองไทยขณะนี้ เสิร์ฟเครื่องดื่มกันตั้งแต่เที่ยง มาชมวิวได้ตลอด เพราะวิวพาโนรามาสวยงามสุดๆ บรรยากาศก็ต่างออกไปในแต่ละช่วงเวลา มีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ อีกเช่นเคยค่ะ
Mott32
ร้านอาหารชื่อดังที่เวลาใครไปเที่ยวฮ่องกงก็ต้องแวะทาน ได้ข่าวว่าคิวยาวมากๆ ทางเราก็ยังไม่ได้ชิมเหมือนกันค่า
Functional Room and Surrounding
ที่นี่ยังมีห้องประชุม และ บริเวณจัดอีเว้นท์ที่ตอบโจทย์หลากหลายอีกด้วยนะคะ
อีกสิ่งที่นัทชอบมากๆ คือการใช้ต้นไม้จริงภายในอาคารเยอะมากๆ แล้วก็หลายๆ โซนมีโซนเอาท์ดอร์ บรรยากาศดี
โรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด กรุงเทพ มหานคร)
ตั้งอยู่บนถนน นราธิวาสราชนครินทร์ ติดบีทีเอสช่องนนทรี มีบริการที่จอดรถแบบ Valet Parking
Website : https://www.standardhotels.com/
Tel. : 02-085-8888