ไซปรัส (Cyprus) เป็นประเทศบนเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกาะไซปรัสแห่งนี้ มีทะเลที่น้ำสีฟ้าใส หมู่บ้านบนเนินเขาบรรยากาศดี ของกินแสนอร่อย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่น่าสนใจไม่แพ้ที่เที่ยวในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอื่นๆ อย่างกรีซหรืออิตาลี นอกจากนี้ ที่นี่ค่าครองชีพยังไม่สูงมาก เป็นประเทศในสหภาพยุโรป สามารถใช้วีซ่าแชงเก้นแบบมัลติเพิลเข้าได้ และที่สำคัญ ขับรถฝั่งเดียวกับไทยค่ะ!!! เนื่องจากไซปรัสมีความซับซ้อนทางการเมือง เราต้องขออธิบายก่อนว่า ณ ปัจจุบัน เกาะแห่งนี้ แบ่งเป็น 2 ประเทศและมี UN Buffer Zone กั้นอยู่ตรงกลาง โดยทั่วไปเวลาเราพูดถึง “ไซปรัส หรือ Cyprus” เฉยๆ เราจะหมายถึงไซปรัสใต้ หรือ Republic of Cyprus ซึ่งคือ ไซปรัสที่อยู่ในสหภาพยุโรป (EU) แต่หากพูดถึง ไซปรัสเหนือ โดยทั่วไปจะใช้คำว่า Northern Cyprus หรือชื่อเต็มคือ Turkish Republic of Northern Cyprus ซึ่งได้การรับรองให้เป็นประเทศจากแค่ตุรกีเท่านั้น และด้วยเหตุนี้ นั่นหมายความว่า หากคนไทยจะไป… [READ MORE…]
มาถึงซาอุดิอาระเบียแล้ว ถ้าไม่มาเมืองหลวงอย่าง ริยาด (Riyadh) ก็คงเหมือนมาไม่ถึง ริยาดเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของซาอุดิอาระเบีย อยู่ค่อนมาทางตะวันออกของประเทศนะคะ เมืองอื่นที่เราไปมาในตอนก่อนๆ จะอยู่ทางตะวันตกหมดเลย เมืองนี้เป็นจุดเริ่มต้นของประเทศซาอุดิอาระเบียในปัจจุบัน ที่เที่ยวส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของประเทศ วัฒนธรรมอิสลาม ตึกสูงต่างๆ และ ผาสุดลูกหูลูกตาที่ทำให้เราเหมือนยืนอยู่สุดขอบโลก ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเที่ยวริยาด – เมืองนี้ ถือว่าอยู่บนทะเลทราย An-Nafud ซึ่งในฤดูร้อนนั้น ร้อนมากๆ มากกว่าสี่สิบองศาค่ะ และมีฤดูที่อากาศเย็นประมาณ 3-4 เดือน แต่อุณหภูมิดร็อปลงไปเยอะค่ะ ตามตารางจะเฉลี่ย 8-28 องศา แต่วันที่นัทไปคือ 11-14 องศา แล้วลมแรง หนาวทั้งวัน – สามารถเช่ารถขับได้เหมือนเดิม แต่ด้วยความที่ตอนนัทไปติดต่อรับรถเช่าที่สนามบิน ระบบล่ม ก็เลยเปลี่ยนใจนั่งแท็กซี่แทน ใช้ Uber แทนค่ะ ก็โอเคนะคะ สะดวกดี ไม่ต้องหาที่จอดรถด้วย อย่างไรก็ตาม ขับรถที่ริยาดกับเจดดาห์นี่ต้องคนขับคล่อง ใช้สกิลประมาณนึงเลยค่ะ – สำหรับการเที่ยวเมืองริยาด นัทแพลนไปเก็บจุดสำคัญไว้ดังนี้ค่ะ – Murabba Palace… [READ MORE…]
การเที่ยว Al Ula ประเทศซาอุดิอาระเบียของเราในครั้งนี้ ครึ่งหนึ่งคือการไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยว อีกครึ่งหนึ่งคือการมาพักผ่อนในแคมป์หรูกลางทะเล ที่มีวิวสวยทรงพลังมากๆ ค่ะ ปกติไปทะเลทรายที่อื่น อาจจะต้องไปทัวร์รถจี๊ปท่องไปตามหุบเขา แต่ที่นี่ หุบเขาคือสวนหลังบ้านของเราเลย ย้อนความเดิมตอนที่แล้ว นัทเที่ยว Al Ula วันแรก พาไป Hegra โบราณสถานอารยธรรมสองพันปี, ไป Al Ula Old Town ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารและคาเฟ่, ไป Maraya อาคารกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งอลังการมากๆ ใครยังไม่ได้อ่านตอนที่แล้ว คลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ ตอนนี้ เราจะพาทัวร์รีสอร์ทไปซะครึ่งวัน ก่อนที่จะไปเที่ยวในย่าน Art District, ไปชมหินรูปช้าง แล้วไปจบที่ร้านอาหารพร้อมจุดชมวิวที่จะทำให้เราเห็น Al Ula ทั้งเมืองเลยค่ะ Habitas Al Ula คืนที่สองที่อยู่ Al Ula นี้ นัทใช้เวลาช่วงเช้าอยู่ที่รีสอร์ทตลอดเลย นัทขอนิยามการมาพักผ่อนที่นี่ว่า เป็นความรู้สึกผ่อนคลาย ใกล้ชิดธรรมชาติ สงบ… [READ MORE…]
ภาพที่ทำให้นัทอยากมาเที่ยวซาอุดิอาระเบียมากที่สุด คือภาพจากเมือง Al Ula (อัลลูลา) ค่ะ เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีแหล่งโบราณสถานอารยธรรมเดียวกับเพตราอายุกว่าสองพันปี เป็นเมืองที่ซ่อนอยู่ในหุบเขา ผาหิน และ ทะเลทรายวิวเหมือนดาวอังคาร เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยการจัดแสดงศิลปะและงานสร้างสรรค์ รวมไปถึงเป็นที่ตั้งของอาคารกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมือง Al Ula นัทนั่งเครื่องมาจากเจดดาห์ประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ ตอนขาออกนัทบินไปต่อที่เมืองหลวงริยาดห์เลย ใช้เวลาประมาณชั่วโมงสี่สิบนาทีค่ะ มีสายการบิน Flynas กับ Saudia ค่ะ การเดินทางในเมือง Al Ula AlUla นั้น เป็นเมืองที่สร้าง facility มาเพื่อการท่องเที่ยวเลยค่ะ มีกิจกรรมแน่น มีอีเว้นท์ตลอด รัฐบาลโปรโมทสุดๆ การเที่ยวที่นี่ราคาจะสูงนิดนึง เพราะลูกค้าหลักคือคนจากริยาดห์เมืองหลวงค่ะ ค่าตั๋วเครื่องบินทั้งจาก ริยาดห์ และ เจดดาห์ จะแพงกว่าเมืองอื่นทั้งหมดทั้งที่ใกล้กว่า ลองหาเทียบใน Skyscanner.com ได้ค่ะ นอกจากไฟลท์แล้ว ที่พักก็จะค่อนข้างไปทางแนวหรูหราค่ะ โรงแรมดังๆ ที่มาเปิดคือเน้นความอลังการเลย ราคาในหน้าร้อนประมาณหมื่นบาทต่อคืน ส่วนหน้าหนาวจะอยู่ประมาณราวๆ สามหมื่นต่อคืนค่ะ ที่พักราคาประหยัดหน่อยจะเป็นอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ในย่านอยู่อาศัย ซึ่งก็สะดวกนะคะ แต่เป็นคนละฟีลกันเลยค่ะ… [READ MORE…]
เข้าสู่เมืองแรกที่เรามาเที่ยวกันในซาอุดิอาระเบียอย่าง เจดดาห์ (Jeddah) กันเลยนะคะ เนื่องจากเราอยากใช้ไมล์การบินไทย และการบินไทยจะมีบินตรงแค่เจดดาห์ค่ะ เลยมาเริ่มที่นี่ก่อน เมืองเจดดาห์นั้น เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศซาอุดิอาระเบีย และ เป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในทะเลแดงหรือ Red Sea และเมืองเจดดาห์จะค่อนข้างมีความสำคัญตรงที่หากชาวมุสลิมท่านใดจะเดินทางมาแสวงบุญที่เมืองเมกกะ (Mecca) ก็จะต้องมาลงที่สนามบินเจดดาห์แล้วนั่งรถไปต่อค่ะ และด้วยความที่ เจดดาห์ นั้น อยู่ห่างจากเมืองหลวงอย่างริยาดห์แบบคนละชายฝั่งของประเทศ ทำให้บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างและน่าเที่ยวทั้งสองเมืองเลยค่ะ ว่าแล้ว ตามมาเที่ยวเจดดาห์กันเลยนะคะ อย่างที่บอกไปในตอนที่แล้ว ทริปนี้การเที่ยวซาอุดิอาระเบียทุกเมืองของนัท จะเป็นการบินไปลงสนามบินแต่ละเมือง แล้วเช่ารถขับเที่ยวค่ะ นัทบินมาถึง ผ่านตม. ใช้เวลารวดเร็วมาก แต่รอกระเป๋าเดินทางค่อนข้างนาน ส่วนที่นานที่สุดคือตรงเช่ารถ เพราะเหมือนเป็นวิธีเดินทางที่ฮิตของนักท่องเที่ยว ทุกคนก็จะมาต่อคิวกันตรงเช่ารถค่ะ ตามป้าย Car Rental ลงลิฟท์ไปชั้นล่างได้เลย พอเช่าเสร็จก็รับรถตรงที่จอดฝั่งตรงข้ามค่ะ นัทหารถจาก Rentalcars.com นะคะ << คลิ๊กที่นี่ได้เลย ส่วนใครไม่สะดวกขับรถเที่ยวเอง จะมีทัวร์อยู่ ส่วนใหญ่นัทหาใน Tripadvisor.com เพราะมีรีวิวคนจริงอยู่ค่ะ ลองคลิ๊กลิงค์หาได้เลย ไฟลท์ของการบินไทย ช่วงที่นัทมาจะบินเวลา 18.45 มาถึง 22.40… [READ MORE…]
เชื่อว่าภาพจำของ “เซี่ยงไฮ้” สำหรับใครหลายคน คือ ตึกสูงระฟ้า เมืองที่คึกคัก และเต็มไปด้วยผู้คน แต่วันนี้ เราขอพามาย่านที่อาจจะไม่ได้ติดอันดับแรกในไกด์บุ๊คของนักท่องเที่ยว แต่เป็นย่านคุณจะได้เห็นหนุ่มสาวชาว Shanghainese แฮงก์เอาท์กัน เป็นย่านที่เดินสนุก ไม่แออัด รู้สึกทุกอย่างมันชิคไปหมดเลยค่ะ จริงๆ แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ย่านนี้มักจะถูกเรียกว่า ย่าน Former French Concession หรือแปลว่า เขตสัมปทานเก่าของฝรั่งเศส เป็นเขตที่ให้ชาวตะวันตกเข้ามาเช่า เป็นข้อตกลงที่เกิดขึ้นหลังแพ้สงครามฝิ่น แต่ด้วยความที่ประวัติศาสตร์ช่วงนั้นทำให้จีนดูค่อนข้างอ่อนแอ ทางการจีนเลยรณรงค์ไม่ให้ใช้คำนี้ในการเรียกย่านนี้ค่ะ บางคนก็จะเรียกเป็นชื่อถนนแทน แล้วก็จะมีคำที่พยายามตั้งขึ้นมาเรียก เช่น ย่านที่นัทจะพาไป เป็นบริเวณ Hengfu Historical Area เพราะอยู่แถวถนน Hengshan และ Fuxing ค่ะ ที่ต้องอธิบายไว้ก่อน เพราะเวลาไปเสิร์ชหาข้อมูลภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่ก็ยังจะเจอคำนี้อยู่ค่ะ ลักษณะเด่นของย่านนี้ คือเหล่าอาคารที่มีกลิ่นอายยุโรปตามชาวตะวันตกที่มาเช่าและอาศัยอยู่ มีการใช้อิฐหรือหิน ถูกสร้างช่วงปี 1920s-1930s มีทั้งสไตล์คลาสสิก และ Art Deco และแถวนี้… [READ MORE…]
เชื่อว่าหลายคนคงจะมีโอกาสแวะมาทรานสิทต่อเครื่องกันที่ สนามบิน Hamad International Airport ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งหากใครยังมีเวลาอีกซัก 2-3 วัน นัทขอชวนทำ Stopover หาเรื่องเที่ยวเพิ่มอีกหนึ่งประเทศ มาเที่ยว โดฮา ประเทศกาตาร์ (Doha, Qatar) ประเทศริมอ่าวอาหรับที่ล้ำไม่แพ้ที่อื่น เต็มไปด้วยมิวเซียมและอาคารดีไซน์สวยอลังการ ไปเดินตลาดอาหรับ กิน ช้อปริมทะเล หรือใครมีเวลาจะไปขี่อูฐกลางทะเลทรายก็ยังได้ ขอเกริ่นก่อนว่า จุดที่นัทประทับใจมากกกของโดฮา นอกจากมิวเซียมเก๋ๆ แล้ว ขอยกให้ถนนที่เรียบแบบสภาพดีมากกกก ขับรถเองสนุกมากกกกกค่ะ บ้านเมืองสะอาด แม้แต่แถวตลาดบาซาร์ (souk) ยังสะอาดไปหมด ที่สำคัญ น้ำมันรถลิตรละ 18 บาท นัทขับเที่ยวทั้งวัน เติมน้ำมันไปสองร้อยบาทเท่านั้น แม้กาตาร์อาจจะไม่ใช่ประเทศที่เราตั้งใจบินจากเมืองไทยมาพักผ่อนแล้วกลับ แต่ถ้ายังไงก็บินมาลงโดฮาอยู่แล้ว ครั้งนี้คงไม่ใช่แค่ครั้งเดียวค่ะ นัทคงจะหาโอกาสมา stopover เรื่อยๆ เลย Stopover ที่โดฮา และ วีซ่า กาตาร์ – ณ… [READ MORE…]
จากความเดิมตอนที่แล้ว เราได้พาทุกคนไปเที่ยวเมืองหลวงของโปรตุเกสอย่างลิสบอนมาแล้ว ตอนนี้ ขอพาไปเที่ยวเมืองท่าทรงเสน่ห์ เมืองที่นัทชอบมากที่สุดในโปรตุเกส ถึงขั้นที่เรียกว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่นัทชอบมากในยุโรปเลยก็ว่าได้ค่ะ ที่นี่คือเมือง Porto หรือ Oporto (ปอร์โต หรือ อ่านแบบโปรตุกีสว่า โปร์ตู) เมืองใหญ่อันดับสองของโปรตุเกส ที่ตั้งอยู่บนโค้งแม่น้ำ Duoro River มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมายจนตัวเมืองเก่า Porto ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วยค่ะ จริงๆ นัทเคยได้ยินชื่อเมือง Porto จาก “พอร์ตไวน์” (Port Wine) ไวน์หวานชื่อดังจากโปรตุเกส และเราก็ตั้งใจว่าจะต้องมากินถึง Wine Cellar ให้ได้ซักครั้ง ซึ่งโรงเก็บไวน์ที่นี่ก็เจ๋งมากกกก ไวน์ที่ถูกบรรจุลงในถังจากไร่ ถูกส่งลงเรือล่องมาบนแม่น้ำ Duoro มาบ่มที่นี่ โรงเก็บไวน์ก็จะอยู่ติดกับแม่น้ำเลยค่ะ นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีศิลปะบนกระเบื้องสีฟ้าสวยงามที่เรียกว่า Azulejos ตกแต่งอย่างเป็นเอกลักษณ์อยู่ในทุกมุมเมืองเลย การเดินทางไป Porto – Porto เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของลิสบอนเมืองหลวงประมาณ 320 กม. มีสนามบินเป็นของตัวเอง และมีไฟลท์จากหลายประเทศในยุโรปค่ะ – หากเดินทางจาก… [READ MORE…]
ตอนที่นัทบอกทุกคนว่าจะไปเที่ยว “ซาอุดิอาระเบีย” หลายคนทำหน้าสงสัย หลายคนถามว่าน่ากลัวรึปล่าว เดินทางไปท่องเที่ยวปกติได้มั้ย หรือแม้แต่เพื่อนชาวมุสลิมหลายท่านที่มีโอกาสไปแสวงบุญ ก็ถามว่า ซาอุดิอาระเบีย มีอะไรให้เที่ยว? จากทริปที่นัทไปมา ซาอุดิอาระเบีย มีทั้งแง่มุมของวัฒนธรรม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่แปลกตาและเป็นเอกลักษณ์ ประเทศนี้เป็นประเทศที่ไม่มีแม่น้ำ เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของเอเชีย ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก และที่สำคัญ เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม เดินทางไปเที่ยวได้ตั้งแต่ปี 2018 และ เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม เข้าได้ตั้งแต่ พฤษภาคม 2022 เป็นต้นมาค่ะ แม้ว่านัทจะเคยเดินทางในตะวันออกกลางรวมไปถึงโลกมุสลิมทั้งในแอฟริกาเหนือ, เอเชียกลาง และ รอยต่อระหว่างยุโรปกับเอเชีย มาหลายประเทศ แต่ซาอุดิอาระเบีย เป็นหนึ่งในทริปที่เซอร์ไพรส์และนัทประทับใจมากในหลายแง่มุมเลยค่ะ เป็นประเทศที่แม้ว่าจะเป็นมุสลิมเคร่งครัด แต่ผู้คนดูเคารพในการไปท่องเที่ยวของเรามากๆ ผู้หญิงไม่ได้ถูกบังคับคลุมผม สามารถขับรถได้ และ เป็นที่แรกในภูมิภาคนี้ถัดจากดูไบ ที่นัทไม่โดนมองด้วยความสงสัยว่าผู้หญิงมาเที่ยวได้ยังไง (ซึ่งแม้แต่มัลดีฟส์ในเกาะท้องถิ่น ยังโดนมองแปลกๆ เลย ด้วยชุดความเชื่อว่า ผู้หญิงห้ามออกจากบ้านโดยไม่มีผู้ชายไปด้วย) ที่สำคัญ คนขายของ คนขับแท็กซี่ ตามสถานที่ท่องเที่ยวไม่มีใครมาตื๊อเลย บอกว่า No, thank… [READ MORE…]
หากใครมีโอกาสมาสวิตเซอร์แลนด์ ก็อาจจะได้ผ่านมาอีกเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่าง Interlaken ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่ไปเที่ยวได้หลายหมู่บ้านและยอดเขา ชื่อเมือง Interlaken นั้นแปลตรงตัวว่าระหว่างทะเลสาบ หรือ Between Lakes และเมืองตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ ทะเลสาบ Brienz ทั้งสองทะเลสาบนั้นมีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่รอบๆ มากมาย มีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วัฒนธรรม โดยวันนี้ เราจะพาทุกคนไปเที่ยวเมือง Thun เมืองหลักฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ Thun เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และเป็นเอกลักษณ์ น่าเที่ยวมากๆ ค่ะ วิธีการเดินทาง ถ้าใครวางแผนดีๆ สามารถนั่งเรือเฟอร์รี่มาจากเมือง Interlaken ได้นะคะ ก็จะได้เห็นวิวปราสาทอื่นๆ ระหว่างทางด้วย เฟอร์รี่นี้ รวมอยู่ใน Swiss Travel Pass แล้ว ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ แต่ต้องเช็คตารางเวลาในแต่ละฤดูค่ะ ส่วนรถไฟมา Thun มีตลอด เชื่อมจากหลายเมืองหลัก สะดวกมากๆ ค่ะ นัทใช้ Swiss Travel… [READ MORE…]