ตอนนี้ขอพาเข้าสู่เมืองใหญ่อันดับสองของไซปรัสอย่าง Limassol เมืองนี้ เป็นเมืองใหญ่ริมทะเลที่มีความคึกคัก บรรยากาศการเที่ยวกลางคืนสนุก เป็นบรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียนด้วยอากาศ อาหาร แต่ที่ต่างจากเมืองเมดิเตอร์เรเนียนอื่นๆ น่าจะเป็นความร่วมสมัย ความสะดวกสบาย เช่น ไม่อยู่บนเนินหรือผา ถนนเข้าถึงหมด มีที่จอดรถ ทำให้นัทใช้ที่นี่เป็นเบสในการเที่ยวไซปรัสแบบสบายๆ เลยค่ะ

ตัวเมือง Limassol เอง อาจจะไม่ได้มีแลนด์มาร์กแบบชัดๆ แต่มันคือไวบ์หรือบรรยากาศค่ะ มีโซนพรอมเมอนาดยาวๆ ริมทะเล มีหาดยาว มีมาริน่าที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร มีโซนเมืองเก่า ถนนช้อปปิ้ง ร้านอาหารแบบ Taverna เต็มเมือง และยังมีโบราณสถานอยู่เมืองใกล้ๆ อีกด้วย ซึ่งทั้ง 4 วันที่มาอยู่ส่วนใหญ่นัทจะได้เดินเที่ยวช่วงเย็นๆ และ กลางคืนค่ะ เดินสบายนะคะ ถ้าเอารถเข้าไป มีที่จอดรถอยู่ แต่ว่าถ้ามาศุกร์เสาร์เย็น ก็จะแน่นหน่อยค่ะ นัทเลยเดินจากที่พักหมดเลย

Limassol Old Town

เราเริ่มจากการเดินเล่นในเมืองเก่า Limassol ก่อน ซึ่งชื่อเมืองนี้เริ่มโด่งดังในบันทึกประวัติศาสตร์ตอนที่ Richard the Lionheart (ริชาร์ดใจสิงห์) เข้ายึดไซปรัส และแต่งงานกับ Berengaria of Navarre ที่กลายเป็นราชินีอังกฤษที่นี่ ตัวเมือง Limassol จึงมีหลักฐานอย่าง Limassol Castle ป้อมปราการในยุคกลาง มาจนถึงยุคไบแซนไทน์ เคยตกอยู่ในการปกครองของจักรวรรดิเวเนเทียน และ ออตโตมัน ทำให้มีสถาปัตยกรรมและอาคารที่ผสมผสานและน่าสนใจอยู่ด้านในเมือง

ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์มีสตรีทอาร์ทบ้าง มีย่านคนอยู่บ้าง แต่ Old Town ที่นี่มีเสน่ห์มากจริงๆ ค่ะ

Saripolou Square & Old Market

ในตัวเมืองเก่าจะมีจัตุรัส Saripolou อยู่ค่ะ มาตอนกลางคืน คือเหมือนวัยรุ่นทั้งเมืองมารวมกันตรงนี้ ตื้ดสุดๆ ส่วนช่วงกลางวันก็กินไอศครีม กินกาแฟไปค่ะ

Limassol Promenade (Molos)

ถนนคนเดินกึ่งสวนสาธารณะยาวกว่า 1.4 กม. จากท่าเรือเก่า ไป ยัง Olympion Beach เป็นถนนริมทะเลสำหรับคนเดินที่กว้าง สะอาด และน่าเดินมากๆ ค่ะ ตลอดทางจะมีพวกปะติมากรรม งานศิลปะ มีซุ้มคาเฟ่ ช่วงเย็นจะเห็นคนมาแฮงก์เอาท์เยอะมากเลย

Old Port & Marina

หนึ่งฝั่งของ Molos คือ ท่าเรือเก่า ซึ่งตอนนี้เป็นที่แฮงก์เอาท์ เต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์ ตอนเย็นๆ คึกคักมากและบรรยากาศดีมากค่ะ

Mezze at Tavernas

มาถึงไซปรัสแล้ว ห้ามพลาดอาหาร Cypriot เด็ดขาดเลยค่ะ ถามว่าเหมือนกรีกมั้ย ต้องบอกว่ามีกลิ่นอาย มีธรรมเนียมการทานคล้ายกรีก แต่ก็เหมือนกับอาหารคนละภูมิภาคอ่ะค่ะ อาหารเหนือกับใต้ยังไม่เหมือนกันเลย ใน Limassol มีร้านอาหารแบบ Tavernas ซึ่งเป็นร้านดั้งเดิมเยอะมากๆ บรรยากาศจะคอมฟอร์ตๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อย่าง ส่วนชีสจะเป็นชีสขาว เช่น ฮาลูมี่ เฟต้า มีมีทบอลล์บ้าง อร่อยทุกเมนูเลยค่ะ นัทมาทานกันที่ร้าน Γιαγκίνι อยู่ข้าง Anita Gelato ตรง Sapipolou Square ค่ะ

ส่วนด้านล่างนี้เป็นแนวซีฟู้ดที่หาได้ทั่วไปเลยค่ะ

Kourion

ขอบรถออกจาก Limassol ประมาณ 10-15 นาที จะเป็นที่อยู่ของ แหล่งโบราณสถาน Kourion หรือ Curium ซึ่งเป็นเมืองเก่าในยุคกรีกโบราณ ยังเห็นโรงละครริมทะเลที่สร้างมาตั้งแต่ สองร้อยปีก่อนคริสตกาล มีซากวิลล่าแบบโรมัน มีพื้นโมเสคอยู่ใน Baths of Eustolios ถือว่าเป็นอีกโบราณสถานที่น่าชมค่ะ

---

ที่ Limassol นัทพักที่ Lima Sol House ซึ่งเป็นโฮสเทลนะคะ แต่เป็นสไตล์อพาร์ทเม้นท์ นัทอยู่ห้องส่วนตัวกันสองคน ก็เหมือนเวลาอยู่อพาร์ทเม้นท์ในยุโรปที่แชร์ห้องน้ำกับห้องครัว พวกนัททำอาหารกันจริงจังมาก ชอบที่นี่ที่มีที่จอดรถ แล้วก็เดินไปเที่ยวตรงริมหาดได้ค่ะ

หาที่พักใน Limassol > Booking.com คลิ๊กเลย

---

Lefkara Village

จากที่พาไปมาทั้งหมด 3 ตอน ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองริมทะเล แต่เมืองสุดท้ายที่จะพาไป เป็นเมืองบนเขาค่ะ Lefkara Village ตั้งอยู่บนทิวเขา Troodos อยู่ประมาณกลางทางระหว่าง Limassol กับ Larnaca ซึ่งแนะนำให้แวะขามาหรือขากลับก็ได้ค่ะ เพราะนัทบินไปกลับจากสนามบิน Larnaca อยู่แล้ว

หมู่บ้านนี้ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ โดยนัทปักหมุดมาลงที่ Pano Lefkara แปลว่า Upper Lefkara ค่ะ เป็นหมู่บ้านที่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในไซปรัสที่ไปมาเลย โดยทั่วไป เมืองนี้จะดังเรื่องลูกไม้ทำมือมากๆ ค่ะ เป็นหนึ่งในของพื้นบ้านที่สืบทอดกันมา

หมู่บ้านนี้ ให้อารมณ์เดินหลงๆ ค่ะ ถนนเล็กๆ บ้านน่ารักๆ สีสันสวยๆ นัทเริ่มจากปักชื่อ Pano Lefkara ในกูเกิ้ลแมพ หาที่จอดรถ แล้วเดินไปเรื่อยๆ โดยถนนเล็กๆ บางอันก็ไม่มีชื่อค่ะ แต่จุดหลักๆ คือ Lefkara Square, ถนน Timiou Stavrou และ Church of the Holy Cross ค่ะ

Church of the Holy Cross สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ค่ะ มีแท่นบูชาด้านในที่สวยงามมากๆ ตัวโบถส์ตั้งอยู่ตรงจุดที่เห็นวิวสวยๆ ของทิวเขา Troodos ด้วยค่ะ

จากนั้นก็เดินเลาะกลับมาตรงถนนหลัก ซึ่งผ่านหน้าบ้านและหน้าร้านสวยๆ มาเยอะเลย

และนี่ก็คืองานลูกไม้ที่โด่งดังมาก เรียกว่า Lefkara Lace ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน ว่ากันว่า ตอนที่ Leonardo da Vinci มาเที่ยวไซปรัส เค้าได้นำลูกไม้นี้กลับไปตกแต่ง Duomo ที่มิลานด้วยนะคะ ทุกวันนี้ Lefkara Lace ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกเชิงวัฒนธรรมด้วยค่ะ

จากนั้นเราก็ขับรถกลับมาคืนที่ สนามบิน Larnaca ก่อนจะบินไปประเทศถัดไป นับเป็นทริปไซปรัสที่ราบรื่น สนุก แต่รู้สึกว่าอยู่สั้นไป และเป็นประเทศที่ควรมีเวลาอย่างน้อย 7-10 วันเลยค่ะ

---

สำหรับทริปนี้ นัทเขียนไว้ทั้งหมด 4 ตอนนะคะ

EP 1 : รู้จักไซปรัส
EP 2 : Larnaca + Ayia Napa
EP 3 : Paphos + Aphrodite Rock
EP 4 : Pano Lefkara + Limassol

---

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

 

---

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com