นับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและน่ายินดีอย่างยิ่ง สำหรับวงการอาหารเอเชีย เมื่องานประกาศผลรางวัล The World’s 50 Best Restaurants รางวัลที่จัดอันดับร้านอาหารที่ดีที่สุด 50 ร้านทั่วโลก ได้เลือกประเทศสิงคโปร์ เป็นสถานที่จัดงานในปี 2019 นี้ และนี่เป็นครั้งแรกที่งาน The World’s 50 Best Restaurants ได้เลือกประเทศในเอเชียเป็นสถานที่จัดงาน หลังจากที่เคยจัดในประเทศอย่างๆ เช่น สเปน หรือ ออสเตรเลียมาแล้ว

หากใครติดตามวงการอาหารระดับโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกินตัวยง หรือ ชื่นชอบในการทำอาหาร หรือ แม้แต่ชอบดูรายการทำอาหาร เราเชื่อว่า ชื่อของเชฟดังๆ ในงานนี้ต้องผ่านตาคุณมาบ้าง แต่สำหรับเราที่อินกับ Culinary Art เป็นพิเศษ นี่รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในงานออสการ์แห่งวงการอาหาร ที่เราจะได้เจอเชฟระดับโลกเยอะมาก เอาจริงๆ บางทีเราก็สับสนเหมือนกันว่า นี่คนรู้จักที่เราเคยร่วมงานด้วย หรือ เราคุ้นหน้าเค้าเพราะอยู่ในสารคดีเน็ตฟลิกซ์กันแน่

---

#50BestTalks

ประเดิมค่ำคืนแรกที่เรามาถึงสิงคโปร์ กับงาน #50BestTalks ซึ่งเป็นงานที่ให้เชฟได้มาพูดคุยกันในหัวข้อเรื่องต่างๆ #50BestTalks ครั้งล่าสุด เราเพิ่งไปมาในงาน Asia’s 50 Best Restaurants ที่มาเก๊า ซึ่งเชฟการิมา จากร้าน Gaa และ เชฟโบ จาก Bolan พูดถึงประเด็นต่างๆ ได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก

สำหรับ #50BestTalks ในงาน The World’s 50 Best Restaurants 2019 ในครั้งนี้ ได้เชฟจากร้านอันดับท็อปๆ ของโลก ที่เราตื่นเต้นเป็นพิเศษคงจะเป็น เชฟ Massimo Bottura จาก Osteria Francescana ร่วมด้วย เชฟ Daniela Soto-Innes, Eric Ripert , Ana Ros และ Tetsuya Wakuda ซึ่งเชฟก็พูดถึงหลายประเด็นน่าสนใจโดยเฉพาะเบื้องหลังการทำงานในครัว ที่ต้องมีการบาลานซ์ความเคร่งเครียดกับความสนุกผ่อนคลายในการทำงาน เพื่อที่จะส่งพลังบวกออกมาให้เยอะที่สุด

---

Food Meets Future

วันถัดมาก็เข้ามาสู่การแถลงข่าวก่อนงานประกาศรางวัล ซึ่งก็ได้เชิญเชฟ (เราขอพูดเป็นภาษาบ้านๆ ว่า เชฟที่ขึ้นไปบนเวทีนี่คือโหดมากนะ ทั้งความเป็นตำนาน ความจองยาก ความคิดสร้างสรรค์กับสตอรี่ของเชฟ ที่เราอาจจะเคยเห็นในหนังสือเล่มหนา หรือ สารคดีเกี่ยวกับเชฟ อย่าง Can Roca นี่จอง 11 เดือนกันเลยทีเดียว แล้วเราไม่ได้อยากไปทานแค่ครั้งเดียว เห็นเชฟโพสท์เมนูใหม่ทีไร รู้สึกแบบใจสั่นอยากจะบินไปสเปนทุกครั้ง)

การแถลงข่าวในครั้งนี้ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกณฑ์การทำลิสท์นี้ โดยมีหลักเกณฑ์ยังคงเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา แต่เพิ่มเติมเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ โดยการใช้ผู้โหวตเป็นเพศหญิง-ชาย ในจำนวนเท่าๆ กัน ส่วนประเด็นที่เป็นที่อื้ออึง คงจะเป็นเรื่องการเพิ่มเซคชั่นใหม่อย่าง Best of the Best ที่ทำหน้าที่เสมือน Hall of Frame คือร้านไหนที่เคยได้ที่หนึ่งแล้ว จะไปอยู่ในเซคชั่นนี้แทน ซึ่งก็มีทั้งเสียงเห็นด้วย เพราะไม่เช่นนั้น ร้านอันดับต้นๆ ก็จะวนๆ อยู่แค่นั้น ยากที่จะทำลิสท์ แต่ก็มีผู้ไม่เห็นด้วย มองว่า ก็ควรจัดอันดับไปตามจริงนั่นแหล่ะ

จากนั้น เราจึงเข้าสู่งานฉลองครบรอบ 120 ปี ของ San Pellegrino น้ำแร่สปาร์กกิ้งคุณภาพสูงจากอิตาลี ซึ่งเปิดด้วยการพูดถึงอนาคตของวงการอาหาร โดยเชฟเก่งๆ เช่นเคย

ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ เห็นจะเป็นกำแพงขนมหวาน ที่อยู่ในแกลเลอรี่เสมือนงานศิลปะ แต่เราสามารถชื่นชมและหยิบออกมาทานได้ ขนมทั้งหมดบนกำแพงนี้ ถูกสร้างสรรค์โดยเจ้าแม่เชฟขนมหวาน Janice Wong เราชอบเกือบทุกชิ้นเลย ทานเพลินมาก

---

The World’s 50 Best Restaurants Ceremony

และก็มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของทริปนี้ ก็คืองานประกาศรางวัลนั่นเอง

ภายในงาน เริ่มจากการกล่าวไว้อาลัยถึง Anthony Bourdain และ Joel Robuchon สองบุคคลสำคัญในวงการอาหารที่เพิ่งเสียชีวิตไป

จากนั้นจึงประกาศรางวัล Best of the Best ภาพนี้ตำนานมากๆ เป็นเชฟที่เราชอบ แบบชอบมากกกกกก (ถ้าไปอ่านรีวิว จะรู้เลยว่าเราชอบแนวๆ แบบนี้) ทั้งเชฟ Joan Roca (เราชอบเชฟ Jordi มากกกก แต่เค้าไม่มา) ทั้ง Heston Blumental ยังมี Daniel Humm กับ Massimo Bottura อีกด้วย

การประกาศรางวัลเป็นไปอย่างคึกคัก เราเห็นเชฟระดับโลกที่คุ้นหน้าคุ้นตา ไม่ว่าจะเคยเห็นสารคดีหรือหนังสือของเขามาก่อน จนมาถึง Top 5 ที่ทำให้เราตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

อย่างแรกเลย ตั้งแต่ประกาศมายังไม่มีชื่อ Gaggan แปลว่า ร้านอาหารอันดับหนึ่งตลอดกาลของเอเชียยังคงได้อันดับต้นๆ ในโลก

อย่างที่สอง ก็ในเมื่อตัวท็อปของลิสท์นี้ (หลายคนเรียกว่าเป็น โป๊ปแห่งวงการอาหาร) ถูกยกขึ้นทำเนียบ Best of the Best ไปหมดแล้ว จะเหลือร้านไหนอยู่บ้าง

ร้านที่เราแน่ใจว่า อยู่อันดับต้นๆ แน่ๆ ก็คือ Mirazur และ Noma แต่ก็ยังแอบคิดว่า เอ๊ะ Noma เคยได้ที่ 1 ไปแล้วและอยู่ใน Best of the Best ด้วย

เมื่อประกาศอันดับที่ 2 ออกมาปุ๊ป เราก็ได้ทราบว่า ทางลิสท์ มอง Noma (ที่ย้ายโลเคชั่น และ สร้างคอนเซปท์ใหม่) เป็นร้านใหม่ไปเลย และแน่นอนว่า เมื่อร้านระดับตำนานแบบนี้เข้ามาในลิสท์อีกครั้ง เขาได้ตำแหน่งสูงถึงที่สอง ซึ่งตอนนั้นเราก็รู้แล้วว่า อันดับหนึ่งต้องตกเป็นของ Mirazur ร้านอาหารในเมือง Menton แถบ French Riviera ของฝรั่งเศส (ส่วนตัวเวลาเราขับรถแถวๆ นั้น เราจะไม่รู้เลยว่าเราข้ามจากอิตาลีไปฝรั่งเศสรึยัง แล้วก็จะมีเมือง Menton เนี่ยแหล่ะเป็นแลนด์มาร์กว่าข้ามมาฝรั่งเศสแล้ว)

วินาทีรับรางวัลเป็นไปอย่างชื่นมื่น ทีม Mirazur นำโดยเชฟ Mauro Colagreco ขึ้นรับรางวัล พร้อมธงสี่ประเทศที่มีความสำคัญกับเค้าและ Mirazur

ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ที่ Marquee คลับแห่งใหม่ใน Marina Bay Sands เป็นคลับที่เจ๋งมากจ้าาาา มีชิงช้าสวรรค์แบบขึ้นได้จริง อยู่ในนั้น เหมาะกับการปาร์ตี้จริงๆ ส่วนเราด้วยความฟู้ดดี้ ก็แอบติ่ง ขอถ่ายรูปกับเชฟมาหลายคนเลย ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับเชฟทุกท่านที่ได้รับรางวัลด้วยนะคะ

สามารถติดตามผลรางวัล The World’s 50 Best Restaurants 2019 ได้ที่นี่เลยค่ะ

ประกาศรายชื่อ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก จากลิสท์ The World’s 50 Best Restaurants 2019