[รีวิว] Thong Dee – The Kathu Brasserie มื้ออาหารในภูเก็ต ที่เติมเต็มทุกความประทับใจ

เมื่อพูดถึงลายแทงร้านเด็ดในภูเก็ตแล้ว ส่วนใหญ่เรามักจะได้ลายแทงอาหารพื้นเมืองภาคใต้ หรือ อาหารไทยจีนมาเป็นส่วนใหญ่ แต่ในทริปนี้ หลังจากที่นัทได้มีโอกาสคุยกับ ชาวต่างชาติที่อยู่ภูเก็ตมานานเป็นสิบๆ ปี หลายคนได้แนะนำร้าน Thong Dee – The Kathu Brasserie (ร้าน ทองดี ภูเก็ต) ขึ้นมาเป็นเสียงเดียวกัน จนทำให้เราต้องเดินทางมาลิ้มลองซักครั้ง

ร้านทองดี ภูเก็ต เป็นร้านอาหารอันดับหนึ่งใน TripAdvisor ใน อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และค่อนข้างแน่นไปด้วยคนพื้นที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มี Sunday Brunch ที่เต็มทุกๆ สัปดาห์ และเรากับเพื่อน ก็ขอยอมรับว่า อาหารร้านนี้ทำให้เรารู้สึก fulfill จริงๆ อาจจะด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง รสชาติอาหารสไตล์โฮมมี่ๆ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนเพื่อนที่ทำอาหารอร่อย ทำให้กินที่บ้าน

เมนูอาหารที่นี่ มีทั้งอาหารไทย และ อาหารตะวันตก นะคะ ซึ่งเราเลือกสั่งเป็นเมนูตะวันตกซะส่วนใหญ่ และด้วยความที่ลูกค้าชาวตะวันตกที่อาศัยในภูเก็ตของร้านนี้ มาจากหลากหลายชาติ ทำให้มีเมนูที่หลากหลาย ทั้งเยอรมัน สวีดิช อิตาเลียน ฝรั่งเศส ซึ่งใช้เทคนิคการทำอาหารแบบตะวันตกอยู่แล้วค่ะ

ร้านทองดีนั้น มี 2 สาขานะคะ คือ สาขา Kathu Brasserie ในอำเภอกะทู้ เราขับตามกูเกิ้ลแมพไป หาเจอง่ายมากๆ ค่ะ คร่าวๆ คืออยู่ระหว่างป่าตองกับในเมืองค่ะ และ The Town Bistro ซึ่งเป็นสาขาในเมืองภูเก็ต (ตรงที่เราไปคาเฟ่ฮอปปิ้งและถ่ายรูปกับตึกสีสวยๆ แหล่ะ) แต่ในเมืองเมนูอาจจะไม่เต็มเท่าสาขากะทู้ค่ะ


มาชมอาหารกันบ้าง

เริ่มกันที่ สตาร์เตอร์จานแรก Gambas “Pil Pil” (ราคา 260 บาท)

จานนี้เป็นจานแบบทาปาสจากสเปนค่ะ กุ้งสดๆ ผัดกับน้ำมันพริก กระเทียม และ ปรุงรส จานนี้ถูกปากมาก

ตอนแรกนึกว่าที่ร้านจะไม่ได้ใช้ของสด แต่กลายเป็นว่า เชฟยังไปหาซื้อและเลือกวัตถุดิบด้วยตัวเองอยู่ตลอด ไม่เหมือนร้านอาหารเชนใหญ่ๆ ที่ต้องสั่งผ่านจัดซื้ออะไรแบบนั้นนะคะ เราคิดว่า จุดนี้แหล่ะ คือสิ่งทำให้เรารู้สึกเหมือนทานอาหารบ้านเพื่อน

ถัดมาเป็น Chicken Liver Parfait (ราคา 190 บาท)

ตับไก่บดจนเป็นเนื้อมูส อบกับเหล้าคอนยัค เสิร์ฟพร้อมแยมแครนเบอร์รี่ เข้ากันดี ตับบดมีรสชาติดี และ เนื้อเนียนมากๆ รสชาติลึกแต่ไม่มีความแหลมของเหล้าเลยค่ะ ฟีลเหมือนอาหารที่โฮสท์มัมทำให้เราทานสมัยไปเรียนแลกเปลี่ยนเลย

Trio (Chefs Choice Starters) (ราคา 290 บาท)

ชีสบรี, เห็ด และ กุ้ง ชุบแป้งทอดค่ะ จานนี้ดีตามมาตรฐาน ทานเพลินๆ เลยค่ะ

เข้าสู่ Main Course กันบ้างนะคะ

จานแรก เป็นอกเป็ดย่างบนหินภูเขาไฟซึ่งเราจะเลือกให้ทำได้ 3 แบบค่ะ Duck Breast (ราคา 490 บาท)

เราเลือกเป็นแบบ A L’Orange หรือ ซอสส้ม นั่นเอง อกเป็ดทำมาสุกพอดีมากๆ นุ่มฉ่ำ

Yellow Fin Tuna Fillet (ราคา 750 บาท)

จานนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆๆ แนะนำเลยค่ะ ตัวสเต๊กทูน่าชิ้นโต ไม่มีความคาวเลย เนื้อแน่นรสชาติกลมกล่อม เข้ากับซัลซ่ามะม่วงและซอสโรสแมรี่ ที่เสิร์ฟมาด้วยกันมากๆ

Fillet of Beef Stroganoff (ราคา 750 บาท)

เราชอบทานสโตรกานอฟอยู่แล้ว ซอสที่นี่เข้มข้น ไม่เลี่ยน เนื้อออสเตรเลียนที่อยู่ด้านใน นุ่มฉ่ำดีค่ะ

เมนูเนื้อที่นี่ดีนะคะ เชฟ พรจันทร์ เลือกเนื้อเองทุกวัน เชฟบอกว่า ถ้าวัตถุดิบไม่ดี ก็ไม่ขายเมนูนั้นค่ะ

Swedish Meatballs (ราคา 350 บาท)

เมนูนี้ต้องขอให้ทุกคนลืมมีทบอลล์จากห้างเฟอร์นิเจอร์สัญชาติสวีดิชไปก่อนนะคะ นี่คือมีทบอลล์ แบบที่เราได้กินที่สวีเดนเลย เนื้อแน่น เกรวี่เข้มข้น เสิร์ฟคู่กับ แยมลินกอนเบอร์รี่ และ แตงกวาดอง เข้ากันที่สุด ส่งเสริมรสชาติกันดีมากๆ เลยค่ะ
ทีเด็ดอยู่ที่ คุณแพทริก เจ้าของร้านเป็นคนสวีดิช และใช้ลิงกอนเบอร์รี่สดๆ ทำแยมเอง ให้ที่บ้านส่งมาจากสวีเดนบ้าง ขนมาเองบ้าง และใช้เสิร์ฟที่ร้านค่ะ รสชาติเลยมีกลิ่นและความเปรี้ยวฝาดนิดๆ ของ Lingon Berries อยู่ ซึ่งมันเข้ากับทุกอย่างมากๆ เป็นจานที่ดูเรียบง่าย แต่เราชอบที่สุดเลยค่ะ

ปิดท้ายกันด้วยของหวาน ถามว่าพวกเราแฮปปี้กับมื้อนี้ขนาดไหน ก็ต้องบอกว่า เป็นผู้หญิงมากัน 4 คน กินของหวานไป 5 จานหลังจากของคาวข้างต้น แล้วทานแบบหมดเกลี้ยงนะคะ แม้แต่ไอศครีมก็ไม่เหลือ

Crêpes Suzette

เรากล้าพูดเลยนะคะ ว่า Crepe Suzette ที่นี่ ทำออกมาลงตัวมากกกกก ไม่หวานเกินไป แป้งแครปนุ่มหนึบ ซอสไม่มีกลิ่นเหล้าแรงๆ ไอศครีมเนื้อดี ทุกอย่างเข้ากันไปหมด จานนี้มาถึงจานแรก พนักงานยังไม่ทันเสิร์ฟขนมจานถัดไป คือหมดเกลี้ยงไปแล้ว

Rhubarb Cake (ราคา 220 บาท)

ที่นี่ใช้ รูบาร์บ จากฝรั่งเศส มาอยู่บนหน้าสปอนจ์เค้ก รูบาร์บมีความเปรี้ยวนิดๆ สดชื่นดีค่ะ โรยอัลมอนด์ เสิร์ฟคู่ไอศครีมวานิลลา

Monkey Fever (ราคา 190 บาท)

เมนูเฉพาะของทางร้าน ที่ทำกล้วยและอัลมอนด์มาทำเป็นทาร์ท เสิร์ฟคู่กับไอศครีมมะพร้าว

Lava Cake (ราคา 280 บาท)

ทางร้านบอกว่าเมนูนี้ขายดีที่สุด ซึ่งก็ดีมากๆ ค่ะ (แต่ใจเรายังยึดติดกับ Crepe Suzette เป็นการส่วนตัว) ตัดออกมาลาวาไหลเยิ้ม ช๊อคโกแลตเข้มข้น ขนมที่นี่ทำเองทั้งหมดนะคะ

Profiteroles with Chocolate Sauce (ราคา 240 บาท)

ใช่ค่ะ เรากินหมด! Profiteroles ที่ประกอบด้วยชู วานิลลาครีม และ ช๊อคโกแลตซอส เสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมวานิลลาเนื้อเนียน

บรรยากาศที่นี่ก็จะชิวๆ นะคะ เห็นมีทั้งครอบครัว กลุ่มเพื่อน และ คู่รัก มานั่งกินดื่มกันแบบชิวๆ ก็คิดว่าเป็นอีกร้านที่ขอแนะนำในภูเก็ต และตัวเราก็จะกลับมาอีกแน่นอนค่ะ


ร้าน Thong Dee – The Kathu Brasserie

มื้อเย็น ทุกวันอังคาร – เสาร์ เวลา 16.00 น. – 22.00 น.
วันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. – 22.00 น.
ปิดทุกวันจันทร์

โทร : 076-319-323
เว็ปไซต์ https://www.thongdee.com/

error: