[รีวิว] พระนคร (Phra Nakhon) ห้องอาหารไทยแท้ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในโรงแรม Capella Bangkok

admin November 12, 2020

หนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงของโรงแรม Capella โด่งดังในทุกที่ที่ไป ก็คือการนำวัฒนธรรมท้องถิ่น เข้ามาใช้ในโรงแรม รวมถึงบริการ Capella Culturist ที่เป็นผู้ดูแลคอยบรรจงเฟ้นหากิจกรรมเชิงวัฒนธรรมในท้องถิ่นให้กับแขกผู้เข้าพัก เราจึงการผสมผสานวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ร่วมกับองค์ประกอบต่างๆ ของโรงแรม คาเพลลา กรุงเทพฯ (Capella Bangkok) อยู่เสมอ และนั่น ทำให้เรารอคอยที่จะสัมผัส ห้องอาหาร “พระนคร” (Phra Nakhon) ห้องอาหารไทยริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภายใน โรงแรม คาเพลลา กรุงเทพฯ (Capella Bangkok)

เริ่มตั้งแต่สูตรอาหารไทยที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น โดย เชฟเล็ก-วิเชียร ไตรรัตนวาธิน เชฟอาหารไทยผู้มีประสบการณ์การทำงานในนิวซีแลนด์มากว่าทศวรรษ พร้อมวัตถุดิบที่สดใหม่ บรรยากาศที่สวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เปิดเมนูมา เราจะเห็นภาพต่างๆ ในประวัติศาสตร์ของถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม คาเพลลา แห่งนี้

ห้องอาหาร “พระนคร” (Phra Nakhon) เสิร์ฟอาหารไทยมื้อเที่ยงและมื้อเย็น โดยมีทั้งเมนูอะลาคาร์ท และ แบบสำรับที่เป็นเซ็ทอีกด้วยค่ะ สำหรับที่นั่งจะมีทั้งริมน้ำ (outdoor) และ ภายในห้องอาหารค่ะ

เนื่องจากมาทานครั้งแรก เราจึงลองสำรับ ซึ่งเป็นเซ็ท Sharing Menu สนนราคาอยู่ที่ท่านละ 2500.- ซึ่งปริมาณอาหารเยอะเต็มอิ่มเลยค่ะ

เริ่มมื้อกันด้วย Amuse Bouche เป็น complimentary ค่ะ เปิดมื้อได้ดีเลย

สำหรับ ชุด “สำรับ” ที่เราเลือก จะมีอาหารทั้งหมด 10 เมนู โดยแบ่งเสิร์ฟ ของทานเล่นก่อน แล้วจึงเสิร์ฟ กับข้าวทั้งหมด ตามด้วยของหวานค่ะ ที่เราชอบมากๆ จะเป็น น้ำพริกประจำวัน ที่มีเสิร์ฟทุกท่านนะคะ

ที่นี่อาหารไทยครบรสมาก เผ็ด เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม จัดจ้านมาเต็มค่ะ ผนวกกับวัตถุดิบสดๆ ดีๆ ทำให้เป็นประสบการณ์ที่ดีเลยค่ะ

เริ่มจากของทานเล่น (แต่ปริมาณไม่เล่นเลย เต็มปากเต็มคำมากค่ะ)

เนื้อสะเต๊ะ ที่หมักหอมเครื่องเทศ น้ำจิ้มเข้มข้น แต่ที่เราชอบจะเป็นผักดองอาจาด ที่ทำออกมาได้กลมกล่อมมากค่ะ

กุ้งรวนพริกเผากับปลาสลิดทอดกรอบ เมนูนี้ฟินมากค่ะ เพราะเราชอบปลาสลิดทอดกรอบมาก ต้องกรอบและไม่อมน้ำมันนะคะ รสไม่เค็มแหลม เข้ากับพริกเผาด้านบนมากค่ะ

ปลาดุกอุยย่างกับยําส้มโอตามฤดูกาล

ไส้อั่วกับน้ำพริกหนุ่มแนมผักพื้นบ้าน น้ำพริกหนุ่มกลิ่นหอม มีกลิ่นพริกย่าง และ สดมาก ส่วนไส้อั่วจะมาแนวเนื้อละเอียดแบบไส้กรอกเลยค่ะ

จากนั้นจะเข้าสู่สำรับอาหารที่เสิร์ฟพร้อมกันค่ะ

สิ่งที่เราตกใจมากคือเสิร์ฟปลาตัวใหญ่มากกกก และ สดมากๆ ค่ะ ประทับใจมากเลย อย่างปลาก็ใช้เป็นวิธีอบ เนื้อแน่นหวาน ไม่มีกลิ่นคาวเลย เราชอบวิธีนี้มากกว่า Salt baked ของตะวันตกอีกค่ะ

อาหารโดยรวมรสชาติดีเลยค่ะ ที่ชอบเป็นพิเศษอย่างที่บอกไปตอนต้น คือน้ำพริกประจำวัน และ พวกวัตถุดิบค่ะ อย่างผัดคะน้าใส่แปะก๊วยรสชาติดี

เมนูที่ชอบในเมนดิชจะเป็นแกงขี้เหล็กแก้มวัว ซึ่งเนื้อวัวนุ่มแบบไม่ต้องเคี้ยวเลย พริกแกงหอม เข้มข้นและรสชาติกลมกล่อมมากค่ะ

ต้มยํากุ้งแม่น้ําอยุธยากับเห็ดนางฟ้าน้ําซาวข้าว

แกงขี้เหล็กแก้มวัว
ลาบไก่พื้นบ้าน
ปลาหมักน้ำปลาอบน้ำจิ้มตระไคร้หอม
ผักคะน้าผัดแปะก๊วยเห็ดหอมสด

ปิดท้ายด้วยของหวาน ต้องแอบเรียนตามตรงว่า มากันสองคน ทานกันไม่หมดนะคะ เราต้องห่อกลับบ้านเลย แต่อร่อยค่ะ

ข้าวเหนียวมะม่วงกับไอศกรีมกะทิ ปราณีต หรูหรา จัดเต็ม ไอศครีมกะทิหอมมากค่ะ

สำหรับการบริการและบรรยากาศ ก็ดี สมชื่อโรงแรมค่ะ พนักงานดูแลดีมาก จะมีส่วนที่เป็นครัวเปิด เราก็จะเห็นทางทีมทำงานค่ะ ถ้าอยากได้บรรยากาศโรแมนติกหน่อย ก็นั่งริมน้ำได้ค่ะ (ต้องทากันยุงนิดนึงนะคะ) แต่เป็นร้านที่เหมาะกับทั้งมากับเพื่อน ธุรกิจ หรือ ครอบครัว เลยค่ะ ไวน์ลิสท์ก็ดีนะคะ คาเพลลาได้คนดูแลเรื่องไวน์ดีมาก ยิ่งที่ห้องอาหาร Cote คือ Sommelier เก่งมากๆ ต้องยอมรับเลยค่ะ