หลายๆ คน คงคุ้นหน้าคุ้นตา เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร จากรายการ Top Chef Thailand กันเป็นอย่างดี ซึ่งหากเราได้ติดตามเชฟ จะสัมผัสได้เลยว่า เชฟรักและทำความเข้าใจกับอาหารไทยไว้อย่างลึกซึ้งมาก แม้จะเลือกที่จะถ่ายทอดมันออกมาในรูปแบบโมเดิร์น ใช้เทคนิคตะวันตกและ Etiquette แบบไฟน์ไดนิ่งบ้าง แต่ในฐานะคนไทย เราทานแล้วบอกได้ทันทีเลยว่า แต่ละจานที่เชฟเสิร์ฟมานั้น คือเมนูอะไรของไทย

คำว่า Le Du มาจาก ฤดู โดยในขณะนี้ ทางร้านได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว และ อันดับที่ 14 จากลิสท์ Asia’s 50 Best Restaurants ค่ะ ร้าน Le Du ตั้งอยู่ในซอยไม่ไกลจาก BTS ช่องนนทรีย์ ซึ่งร้าน Le Du นั้น ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมือนมาทานไวน์บ้านเพื่อน

วันนี้ เราเลือกเป็น Le Du Tasting Menu ราคา 2,990 บาท +10% Service Charge สำหรับไวน์แพร์ริ่งอยู่ที่ 1,800 บาท+ ต่อ 6 แก้วค่ะ

อาหารมีทั้งหมด 6 คอร์สไม่นับ Amuse Bouche กับ Petit Four ค่ะ

เริ่มจาก Amuse Bouche คำแรก ‘ม้าฮ่อ’ เป็นคำที่เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว กับ ตัวม้าฮ่อมะขามด้านบน ทานแกล้มกับสัปปะรด สดชื่นมากค่ะ

ถัดมาเป็นกระทงทอง ที่เห็นด้านบนเป็นบีทรูท ด้านล่างเป็นมูสไก่ที่ทำได้กลมกล่อม มีทั้งความกรอบของกระทงทองด้านล่าง และ เนื้อสัมผัสของด้านบน เพลินมากค่ะ

เข้าสู่จานแรก ในเมนูจะเขียนมาแค่ Sea Bass ตัวปลากระพงจะทำมาในรูปแบบคล้ายๆ Tartare ท็อปด้วยผักชีฝรั่ง ส่วนพาวเดอร์กรานิต้าที่เห็นด้านบนเหมือนเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดค่ะ เย็นๆ จานนี้เป็นเหมือนพล่าปลากระพงนั่นเอง เปิดคอร์สได้ดีมาก

จานถัดมาเป็น Crayfish & Cooked Oyster, Jicama, Fresh Water Seaweed ยังคงเป็น Cold Dish นะคะ กุ้งเครย์ฟิช ทานกับมูสหอยนางรม ด้านล่างจะเป็นมันแกวกับหอยนางรมดองมา จานนี้มีวัตถุดิบพื้นบ้านอย่าง สาหร่ายผำ (เราไม่เคยรู้จักมาก่อน) ให้ทานแนมด้วย

คอร์สที่สาม เป็นจานปลาค่ะ จานนี้จัดว่าเด็ดเลย Grouper, Winter Melon, Shiitake Mushroom, Preserved lime เป็นปลาเก๋าที่นำเนื้อไปนึ่ง และ นำหนังไปทอดกรอบ (แบบกรอบมากๆ จริงๆ ) ทานกับฟักและซุปมะนาวดองค่ะ จานนี้ เหมือน ต้มแซ่ปปลามะนาวดอง ปลาคุ้กได้เพอร์เฟคท์มาก น้ำซุปกลมกล่อม เป็นจานที่ชอบมากค่ะ

คอร์สถัดมา น่าจะเดาออกเลยว่าคืออะไร River Prawn, Pork belly jam, shrimp paste and organic rice ข้าวคลุกกะปินั่นเอง ซอสที่อยู่ตรงตัวกุ้งครีมมี่มากๆ เป็นเหมือนซอสต้มยำ มีไข่กรอบอยู่ตรงหัวกุ้ง ทานทุกอย่างรวมกันแล้วกลมกล่อม ไม่มีรสชาติอะไรที่โดดเกินไป โดยเฉพาะตัวข้าวคลุกกะปิที่ลื่นมากๆ

สำหรับเมนดิช ทางร้านจะให้เลือกระหว่าง Chicken or Beef or Pork ค่ะ

สำหรับจานกันจะเป็น Chicken, jasmine rice croquette, liver, aromatic ginger sauce จานนี้ก็ดีงามค่ะ มันคือข้าวมันไก่ ซึ่งข้าวมาในรูปแบบ Croquette เนื้อไก่ก็ทำได้นุ่มเด้งดีค่ะ

อีกออปชั่น พาขึ้นเหนือไปเลย Pork Jowl, young jackfruit, Hung-lay curry หมู sous vide นี่มันโคตรนุ่ม ทานคู่กับซอสแกงฮังเล และ ขนุนค่ะ

สุดท้ายเป็นอีกหนึ่งการตีความที่เราชอบมากเช่นกัน Duck Egg Custard, lotus seed & Shallot Ice cream ไอศครีมหอมแดงอาจจะฟังดูแย่ แต่พอทานกับคัสตาร์ดไข่เป็ดแล้วมันคือ …..ขนมหม้อแกงนั่นเองค่าาา จานนี้กินได้เรื่อยๆ เลย อยากกินอีก

ปิดท้ายกันด้วยขนมและผลไม้ไทยค่ะ

---

ร้าน Le Du