เมื่อพูดถึงหนึ่งในโรงแรมที่มีชื่อเสียงเป็นเลิศเรื่องความหรูหราและการบริการ ต้องมีชื่อโรงแรม เดอะ เพนินซูล่า กรุงเทพฯ (The Peninsula Bangkok)ติดอยู่ด้วยแน่ๆ เพราะที่นี่ถือได้ว่าเป็นโรงแรมระดับตำนานของกรุงเทพฯ ซึ่งเราเพิ่งได้มีโอกาสมาพักและสัมผัสด้วยตัวเอง จึงเข้าใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นที่รักจากนักเดินทางทั่วโลก

โรงแรม เดอะ เพนินซูล่า กรุงเทพฯ (The Peninsula Bangkok) นั้น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนฯ ค่ะ สิ่งที่เราประทับใจมากๆ น่าจะเป็นความลงตัวระหว่างการเป็นโรงแรมสำหรับผู้บริหารหรือนักธุรกิจที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ซึ่งดูได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าพัก ผสมผสานไปกับกิจกรรม Wellness ที่ช่วยสร้างสมดุลย์ให้เราพักผ่อนได้อย่างมีสุขภาพกายและใจที่ดี

และในฐานะคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพเอง การมาพักผ่อนที่นี่ ก็ช่วยให้เราลืมความวุ่นวายของโลกภายนอกไปได้เลย บรรยากาศภายในโรงแรมแสนสงบ เต็มไปด้วยสวยสีเขียวชะอุ่ม สระว่ายน้ำยาว ทอดตัวลงไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา อาหารเช้าเต็มอิ่ม ห้องพักวิวสวย วัสดุการตกแต่งชั้นเลิศ รายละเอียดการบริการที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองซักครั้ง

 

---

Deluxe Room

สำหรับ โปรโมชั่นที่นัทจองจะเป็นการเข้าพักในห้องแบบ Deluxe Room ค่ะ ซึ่งทุกห้องจะเห็นวิวแม่น้ำ และ นี่คือข้อดีของการอยู่ฝั่งธนฯ ค่ะ เพราะเราจะมองกลับไปเห็นวิวสกายไลน์ของกรุงเทพทั้งเมืองเลยค่ะ

ห้องมีขนาดกว้างประมาณ 45-47 ตร.ม. การตกแต่งค่อนข้างคลาสสิก เพราะเป็นโรงแรมที่อยู่มานาน แต่ทุกอย่างดูใหม่มากๆ ค่ะ ทั้งตู้ ประตู บาร์ รายละเอียดต่างๆ รู้สึกว่าใหม่ และใช้วัสดุดีมากๆ ไม้สักอย่างดี ดูเนี้ยบมากๆ ห้องน้ำเป็นหินอ่อนทั้งหมด ผ้าเช็ดตัวยังปั๊มโลโก้ตัว P เลยค่ะ อีกทั้งเครื่องนอนของที่นี่ เป็นผ้าที่มีสัมผัสนุ่มลื่นและสบายตัวมากๆ ค่ะ

รายละเอียดต่างๆ บอกได้ถึงความหรูหรา คลาสสิก และ เหนือกาลเวลา

นอกจากนี้ ถ้าเป็นเรื่องเทคโนโลยีคือใหม่มากๆ ค่ะ ที่นัทบอกว่า เป็นโรงแรมที่เข้าใจนักธุรกิจมากๆ เพราะในห้องมีปริ้นเตอร์ ทุกอย่างพร้อมเชื่อมต่อ Chromecast บนทีวีต่อ Netflix ได้ง่ายมากๆ ระบบเสียงก็ดีค่ะ

มินิบาร์ภายในห้องค่ะ จะไม่ได้รวมอยู่ในค่าห้องนะคะ มีชากาแฟที่ complimentary ค่ะ

อ่างใหญ่แช่สบาย น้ำที่ชาวเวอร์และเรนชาวเวอร์ อุ่นและไหลแรงมากๆ ค่ะ อาบสบาย

Bath Amenities จะเป็นของโรงแรม The Peninsula Bangkok เอง กลิ่นหอม สัมผัสดีเลยค่ะ ชอบรองเท้าสลิปเปอร์มากๆ เป็นแบบ fluffy ใส่สบาย

ภายในห้องแบ่งเป็นสัดส่วนดีมากๆ แล้วมีมุมพักผ่อนและโต๊ะทำงานที่ครบครันสุดๆ

ตรงนี้จะเป็นกล่องรองเท้าที่อยู่ติดประตูห้องค่ะ ถ้าวางรองเท้าไว้ ทางแม่บ้านก็จะนำไปขัดให้ค่ะ

---

Pool & Fitness

ปกตินัทมาโรงแรมนี้ จะมาแค่ทานอาหารค่ะ ไม่เคยเดินลึกเข้ามาถึงสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำที่นี่บรรยากาศดีมากกกก มีความเหมือนเมืองชายฝั่งแบบริเวียร่านิดๆ แล้วเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สวยเลยค่ะ

สระว่ายน้ำยาวมากๆ มีหลายโซน แขกที่มาเข้าพักก็จะยังรู้สึกเป็นส่วนตัวค่ะ โดยเฉพาะเดย์เบดที่อยู่ในศาลา

ภายในยังมีฟิตเนสเล็กๆ และ บ่อน้ำร้อนน้ำเย็นให้แช่ได้ด้วยนะคะ

จองโปรโมชั่นได้ที่ >> https://bit.ly/3AxiroG

---

French Themed Dinner Buffet at River Cafe & Terrace

มาที่อาหารเย็นของเรา ใช้เครดิตกับ French Themed Dinner ราคาท่านละ 2,180 บาท ++ ค่ะ อันนี้เสิร์ฟวันธรรมดานะคะ ถ้าเป็นวีคเอนด์จะเป็น Seafood Dinner Buffet ค่ะ แต่วันนี้ก็มีซีฟู้ดนะคะ แค่ไม่มีล็อบสเตอร์ค่ะ

สามารถนั่งริมน้ำก็ได้ หรือ จะนั่งในห้องแอร์ก็มีค่ะ

อาหารมีให้เลือกหลากหลายมาก ทั้ง ฟัวกราส์สเตชั่น, กุ้งแม่น้ำเผา, สเต๊กเนื้อ, ชีสและโคลด์คัท, อาหารฝรั่งเศส, อาหารไทย, ซีฟู้ดต่างๆ, ซูชิ ซาชิมิ และ ไลน์ขนมหวานที่ดีงามสุดๆ

มุมสลัด

มุมฝรั่งเศส

อาหารหลากหลายมากค่ะ แล้วฝั่งอาหารไทยคือทำเผ็ดจัดจ้าน ถูกใจมาก

ขนมหวานในไลน์ที่นี่คือดีงามมากค่ะ เป็นไฮไลท์เลย รู้สึกได้ว่าทำสดใหม่ Pastry มาแบบ ทาร์ทเป็นทาร์ท เค้กเป็นเค้ก

จองโปรโมชั่นได้ที่ >> https://bit.ly/3AxiroG

---

Wellness Activities

การเข้าพักของเรานั้น รวมการเข้าร่วมกิจกรรม Wellness Activities ซึ่งมีโปรแกรมทุกวันค่ะ โปรแกรมน่าสนใจมากกกก มีทั้งคลาสออกกำลังกาย คลาสทำคอมบูฉะ คลาสปลูกต้นไม้ มวยไทย โยคะ พิลาทิส ฯลฯ

คลาสแรกที่เรามาคือ Sourdough Making Class ค่ะ เค้าจะสอนวิธีการทำ Sourdough แล้วยังได้ ยีสท์กลับมาเลี้ยงด้วยค่ะ

อีกโปรแกรมที่ขอแนะนำเลยจะเป็น Aqua Yoga หรือ โยคะบนน้ำค่ะ ตอนแรกเหมือนจะยากนะคะ ที่เราไม่ชินบอร์ด แต่จริงๆ ทำไปแล้ว รู้สึกว่า มันเบากว่าเวลาที่น้ำหนักกดลงพื้นค่ะ อยู่บนน้ำก็จะได้เรื่องของการทรงตัว แล้วก็รู้สึกสดชื่นด้วยค่ะ

ภายในโรงแรมก็จะมีมุมสวนสมุนไพรเล็กๆ

---

Breakfast

เริ่มต้นวันอย่างสดใสด้วยอาหารเช้าดีๆ กันค่ะ อาหารเช้าจะไม่ได้รวมในค่าห้อง แต่สามารถใช้เครดิตได้เช่นกันนะคะ

อาหารเช้าจัดเต็มไม่แพ้ดินเนอร์เลยค่ะ

เราจะทานกันตรง Terrace ซึ่งมีที่นั่งทั้งภายในห้องแอร์และเอาท์ดอร์ค่ะ

ชอบมากๆ ที่มีชีสโคลด์คัท ขนมปังอบใหม่ แซลมอนรมควัน แล้วก็ผลไม้พวกเบอร์รี่ค่ะ

---

The Lobby

ความประทับใจมาพักที่นี่นั้น เริ่มตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ จะรู้สึกได้ถึงความโอ่โถง พนักงานทุกคนทักทาย รู้สึกอบอุ่นมากๆ ตั้งแต่ทางเข้าเลยค่ะ

ล็อบบี้โอ่โถงมากๆ

ที่นี่มีเซ็ทอาหารเที่ยงด้วยนะคะ เซ็ทดีมากๆ

มีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ด้วยค่ะ

---

Promotion

** ช่วงนี้คุ้มมากๆ เพราะมีโปรที่สามารถใช้ เราเที่ยวด้วยกัน ได้อีก จากปกติที่มูลค่าเกือบสองหมื่น เราจ่ายเพียง 3,900.- เท่านั้น**

เป็นแพกเกจห้องพักราคา 6,500 บาท ที่ให้เครดิตอาหารและเครื่องดื่มเต็มๆ  6,500 บาท แต่พอใช้เราเที่ยวด้วยกัน ก็จะเหลือ 3,900.- สำหรับการเข้าพักวันธรรมดา ส่วนใครที่สะดวกเสาร์อาทิตย์ ก็จะเป็น 4,900.- แต่ได้เครดิต 7,900 บาทเลย

ซึ่งนัทแนะนำให้ใช้กับ Seafood Buffet Dinner นะคะ เพราะราคาปกติก็ต้องจ่ายสองคน เกินห้าพันอยู่แล้ว แบบนี้เหมือนได้ห้องพักเพิ่มขึ้นมา แล้วยังร่วมคลาสกิจกรรม Wellness ระหว่างเข้าพักได้ทุกคลาสเลยค่ะ หลายคลาสสนุกมากๆ คุ้มค่ามากค่ะ

โปรโมชั่นต้องจองผ่านลิงค์นี้เท่านั้นนะคะ >> https://bit.ly/3AxiroG

สำหรับโปรเราเที่ยวด้วยกัน
– ไม่สามารถจองโรงแรมที่อยู่จังหวัดเดียวกับทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ์ได้
– ตอนจองผ่านลิงค์ https://bit.ly/3AxiroG สามารถระบุเลขบัตรประชาชนและเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนกับ #เราเที่ยวด้วยกัน ลงในช่องคำขอพิเศษ
– ติดต่อกับทางโรงแรม เพื่อชำระผ่าน G-Wallet ของแอพเป๋าตัง อย่างน้อย 8 วันก่อนการเข้าพัก