[รีวิว] Le Meridien Phuket Beach Resort พักผ่อนเต็มอิ่มบนหาดส่วนตัว ชมวิวพระอาทิตย์ตกสวย สนุกกับกิจกรรมแน่น

ฟ้าใสๆ ทะเลสีสวย และ ซัมเมอร์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด คือ สเน่ห์ที่ทำให้ “ภูเก็ต” กลายเป็นเดสติเนชั่นระดับเวิลด์คลาสที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลงรักมาแสนนาน แล้วอะไรจะดีไปกว่า ชายหาดส่วนตัวที่มีทรายขาว น้ำใส กิจกรรมมากมายในรีสอร์ท สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แนวปะการังหน้าหาดที่ลงไปดำดูได้ ไปจนถึงวิวพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า ที่ไม่ว่าคุณจะชมจากระเบียงห้อง หรือ บนชายหาด ก็โรแมนติกไม่แพ้กัน ที่นี่โรงแรม Le Meridien Phuket Beach Resort (เลอ เมอริเดียน ภูเก็ตบีช รีสอร์ท) โรงแรมหรูบนหาดกะรนน้อย ที่ทำให้เราได้พักผ่อนแบบลืมความวุ่นวายจากโลกภายนอกไปเลย
เพียง 1 ชั่วโมงจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต โรงแรม Le Meridien Phuket Beach Resort (เลอ เมอริเดียน ภูเก็ตบีช รีสอร์ท) ตั้งอยู่บนหาดกะรนน้อย ซึ่งเป็นเวิ้งหาดที่มีโรงแรมแห่งนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หาดทรายยาวกว่า 500 เมตร ทำให้ที่นี่เป็นที่ที่เหมาะกับการทำกิจกรรมทางน้ำ ทางโรงแรมมีตั้งแต่ คายัค แพดเดิ้ลบอร์ด ไปจนถึงเรือใบ แต่ที่เด็ดกว่าคือ โซนกิจกรรมของทางโรงแรม ที่มีทั้งมินิกอล์ฟ ยิงธนู เปตอง มีร้านอาหารริมหาด และ ริมสระว่ายน้ำ มองไปเห็นแต่สีฟ้ากับสีเขียว แถมมีจุดถ่ายรูปน่ารักๆ อีกเยอะมากๆ ทำให้ที่นี่ ตอบโจทย์ทุกการพักผ่อนทั้งกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือ คู่รัก เลยค่ะ
Au Soleil by Le Méridien
ใครที่ชอบเดินทางไปชมวิวสวยๆ หรือ ชอบถ่ายภาพ ก็น่าจะทราบกันดีว่า ช่วงเวลาที่แสงสวยมากที่สุดของวัน คือช่วง ‘Golden Hour’ ซึ่งทางแบรนด์ Le Meridien นั้นเป็นแบรนด์จากฝรั่งเศสที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงยุครุ่งเรืองของการท่องเที่ยวอย่างหรูหรามีสไตล์ ทางโรงแรมเลยมีโปรแกรม Au Soleil by Le Méridien ที่เนรมิต Golden Hour ของเราให้น่าจดจำ โดยนำแรงบันดาลใจมาจากวันหยุดดีๆ บนชายฝั่งเมดิเตอเรเนียนทางตอนใต้ของฝรั่งเศส
ซึ่งโปรแกรมนี้ นัทประทับใจมากค่ะ มันไม่ใช่แค่โปรแกรม แต่เป็นเหมือนความรู้สึก เค้ายกกลิ่นอายทุกอย่างที่เหมือนวันหยุดซัมเมอร์ดีๆ ในฝรั่งเศส มาไว้ในเมืองที่มีซัมเมอร์ตลอดปีอย่างภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็น Le Scoop ไอศครีมเจลาโต้เย็นๆ ที่ทำให้เราออกจากห้องมาเดินเล่นรับแสง ร่มชายหาดสีสันสดใส อาหารว่างเบาๆ แบบ Petit Plates จับคู่กับเครื่องดื่ม Aperitifs ใส่น้ำแข็งเย็นๆ จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป
Au Soleil by Le Méridien ในช่วงชั่วโมงทองหรือ Golden Hour จึงเป็นไฮไลท์สำหรับเราในทริปนี้เลยค่ะ
มีเครื่องดื่มเย็นๆ เตรียมไว้ให้ในห้องเลย
บรรยากาศ French Riviera มากๆ เหมือนพักร้อนตามโรงแรมที่เมืองคานส์
ตอนเย็นดื่มด่ำกับ Petite Plates อาหารว่างพอดีคำ ที่เหมาะกับการหยิบทาน นั่งฟังเสียงดนตรี ชมพระอาทิตย์ตก พร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ รู้สึกว่าเวลาค่อยๆ เดินช้าลง เป็นค่ำคืนแสนวิเศษมากเลยค่ะ
Petit Plates ทำได้ดีทุกเมนูเลยค่ะ เราชอบ Tuna Tartare และ Scallop เป็นพิเศษ สดชื่นมากค่ะ
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็ถึงเวลาอาหารเย็นและการเฉลิมฉลอง
สำหรับอาหารเย็น เราสั่งเป็น Seafood Platter อาหารทะเลย่างสดๆ วัสถุดิบดี และ ย่างได้สุกพอดี ไม่แห้งเกินไป ที่สำคัญมีน้ำจิ้มและซอสถึง 3 แบบ ซอสเนยเข้มข้นไม่กลบความหวานของซีฟู้ดสดเลยค่ะ ชอบมากๆ น้ำจิ้มซีฟู้ดก็จัดจานถูกปากคนไทยเลย
หากใครอยากทราบเกี่ยวกับโปรแกรม Au Soleil by Le Méridien เค้าจัดทั่วโลกเลยค่ะ ไปชมกันได้ที่ www.lemeridien.com/ausoleil
Oceanfront 1-Bedroom Deluxe Suites
มาชมห้องพักกันค่ะ ครั้งนี้นัทพักในห้องพักแบบ 1-Bedroom Suite ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดถึง 128 ตร.ม. กันเลยทีเดียวค่ะ กว้างขวางและเป็นสัดส่วนมากๆ โดยพื้นที่นี้จะเป็นระเบียงถึง 63 ตร.ม. ให้เรานั่งเล่น นอนเล่น จะนั่งทานอาหาร นอนอาบแดด ก็ได้ทั้งนั้นเลยค่ะ หรือจะชมพระอาทิตย์ตกจากริมระเบียง ก็สวยไม่แพ้ข้างล่างเลย โรแมนติกสุดๆ
เข้ามาถึงห้องจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น ที่เปิดออกไปเป็นระเบียงใหญ่ วิวทะเลแบบพาโนราม่าเลยค่ะ มีชุดโซฟา โต๊ะทานอาหาร และเคาเตอร์มินิบาร์
เข้ามาด้านในเป็นห้องนอนกับเตียงขนาดคิงไซส์ นอนสบาย
ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่จะอยู่ในห้องน้ำค่ะ มีอ่างอาบน้ำขนาดค่อนข้างใหญ่ แยกกับส่วนของชาวเวอร์ อ่างล้างหน้าคู่แบบ His & Her มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเตารีด รองเท้าแตะ สบู่ แชมพู ชุดแปรงฟัน ดรายเป่าผม หวี ชุดโกนหนวด รวมไปถึงผ้าเช็ดตัวชายหาดด้วยค่ะ
วิวสวยๆ จากระเบียงห้อง นอนเล่นตอนพระอาทิตย์ตก ดีมากเลยค่ะ
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในห้องก็ครบครันค่ะ ชุดชากาแฟ ลำโพง Harman Kardon เสียงดีเลยค่ะ มีพวกยากันยุงเตรียมไว้ให้เผื่อด้วยค่ะ
ชุด Bath Amenities ที่นี่จะเป็นของ Malin + Goetz แบรนด์ดังกลิ่นหอมจากนิวยอร์กค่ะ สบู่สัมผัสดีมากๆ เลย
สบู่นุ่มละเอียดขนาดที่ ตีฟอง แล้ว โยนฟองขึ้นไปได้ อ่างอาบน้ำใหญ่ ฟินสุดๆ ค่า
สามารถเข้าไปเช็คราคา โปรโมชั่นต่างๆ จองตรงเป็นภาษาไทยบนเว็ปของเครือ Marriott ได้เลยนะคะ >> https://www.marriott.com/th/
Breakfast
มาชมอาหารเช้ากันบ้างค่ะ อาหารเช้าที่นี่จะเสิร์ฟที่ห้องอาหาร Latest Recipes ซึ่งเป็นห้องอาหาร All-Day Dining มีทั้งที่นั่งริมสระว่ายน้ำรับลมด้านนอก และ ด้านในห้องแอร์ค่ะ
ไลน์อาหารเช้าที่นี่ครบครันและใหญ่เลยทีเดียว มีทั้งอาหารโลคอลอย่าง หมูฮ้อง ขนมจีน ใบเหลียงผัดไข่ ข้าวผัด กับข้าว ก๋วยเตี๋ยว โจ๊กกุ้ง ขนมจีบ และยังมีอาหารซิกเนเจอร์เฉพาะที่นี่ อย่าง Egg Benedict ต้มยำ และ ไข่นายหัว ที่ห้ามพลาดเลยค่ะ
ส่วนอาหารตะวันตกก็ครบมากๆ ทั้ง เบเกอรี่นานาชนิด ขนมปัง โคลด์คัท ชีส สลัด ผลไม้ น้ำผลไม้ เมนูไข่ต่างๆ มันฝรั่ง เมนูคอนทิเนนทัลเบรคฟาสท์ โยเกิร์ต แพนเค้ก วาฟเฟิล ครบมากค่า
Pools & Resort Activities
ที่นี่กิจกรรมเยอะมากกกก หลายๆ คนอาจจะคิดว่าโรงแรมนี้อาจจะสร้างมานานประมาณนึง แต่โรงแรมที่สร้างในสมัยนั้น มักจะมีส่วนกลางที่ดีมากและใหญ่มาก เป็นแบบที่เราคิดถึงเลยล่ะ ที่นี่เองก็ปรับปรุงและรีโนเวททุกส่วนได้ใหม่ตลอดเลยค่ะ
สระว่ายน้ำของที่นี่นั้น มีถึง 3 สระ และ สระเด็กอีก 1 สระ สระว่ายน้ำทุกสระมีขนาดที่ใหญ่มาก มีสระมาตรฐานที่มีลู่แบบยาวๆ สระว่ายน้ำแบบพักผ่อนชิลล์ๆ และ สระลึกที่สามารถเรียนดำน้ำได้ค่ะ
แถมบางวัน เค้ามีเรียนดำน้ำฟรีในสระด้วยนะคะ!! ใครอยากทดลองดำน้ำแบบ Scuba Diving ว่าจะชอบรึป่าว ก็มาลองได้ค่ะ
ในโซนสระว่ายน้ำ และ ต้นมะพร้าวที่อยู่ทางลงหาดนั้น มี เตียงนอนอาบแดดและร่มที่เพียงพอมากๆ เลยค่ะ แถมยังมีจุดถ่ายรูปน่ารักๆ แทรกอยู่ด้วยค่ะ
อย่าลืมมาถ่ายรูปตรงนี้กันนะคะ
จากนั้นมาชม Resort Activities กันบ้างค่ะ ซึ่งที่นี่คือสุดยอดมาก อยู่ที่นี่ก็เหมือนได้เที่ยวแล้ว ไม่ต้องออกไปไหนเลย
เริ่มจากทางน้ำก่อนนะคะ สิ่งที่นัทประทับใจที่สุดคือ ที่นี่เป็นเพียงไม่กี่ที่ในภูเก็ต ที่มีแนวปะการังหน้าหาด และสามารถหิ้วหน้ากากสนอร์กเกิลออกไปดำน้ำได้เลย
แล้วพีคกว่าคือ มีอะไรให้ชมหลากหลายมากค่ะ ถ้าสังเกต ตอนค่ำ จะเห็นชาวบ้านมาตกปลา ซึ่งก็เข้าใจได้เลย เพราะว่ายไป มองไปตามโขดหินยังเจอล็อบสเตอร์เลยค่ะ — ส่วนปลาที่เจอก็จะมีตั้งแต่ ปลานกแก้ว ปลาปักเป้ากล่อง ปลาไหลมอร์เรย์ (ต้องดูตามโขดหินดีๆ นะคะ ถ้าน้ำลงเราจะใกล้มันมากๆ แล้วปกติเค้าค่อนข้างหวงที่ค่ะ) ปลาผีเสื้อเยอะมากๆ เลย
อย่างกิจกรรมดำน้ำฟรีที่สระนั้น ก็ดูแลโดยโรงเรียนดำน้ำที่อยู่ภายในโรงแรมค่ะ วันที่นัทไป ทางโรงเรียนก็ยังพาแขกออกไปดำน้ำลึกตรงนี้เลย จริงๆ ถือว่าเป็นที่ที่เหมาะกับการมาเรียนมากเลยค่ะ
ถัดจากนั้นก็ต้องยกให้เรือใบค่ะ ตรงนี้ถือว่ามีลม พี่ๆ พนักงานที่ดูแลก็ชำนาญมาก ปรึกษาหรือไปขอให้เค้าสอนเบสิกให้ได้ค่ะ พี่เค้าจะทราบว่า ลมมาช่วงไหน ช่วงไหนเล่นสนุก
นอกจากนี้ก็ยังมี Stand Up Paddle Board และ เรือคายัค ซึ่งที่นี่มีจำนวนอุปกรณ์ค่อนข้างพอเพียง และ ไม่รู้สึกว่าต้องรอคิวค่ะ
มาถึงกิจกรรมที่ไม่ต้องลงน้ำ ก็มีตั้งแต่ สนามไดรฟ์กอล์ฟเล็กๆ มีมินิกอล์ฟ 9 หลุม แข่งกันสนุกมากกกก มียิงธนู เปตอง วอลเลย์บอลชายหาด ฟุตบอลชายหาด และ คอร์ทเทนนิสค่ะ อุปกรณ์พร้อมเลย
Restaurants
Tonson Restaurant & Bar
ห้องอาหารใหญ่ อีกหนึ่ง All-Day Dining ของที่นี่ค่ะ เป็นห้องอาหารที่ทอดตัวยาวตั้งแต่ล็อบบี้ไปจนถึงริมหาดเลยค่ะ เมนูจะเป็นเมนูนานาชาติ หลากหลายจริงๆ ค่ะ ของทานเล่นดีงามมาก อย่างไก่ทอดเกาหลีที่เราสั่งมา คือติดใจสั่งสองวันติดเลยค่ะ Nachos ในรูปด้านล่างก็ดี มีทั้งอาหารแบบทานจริงจัง หรือ จะทานเล่นๆ ระหว่างพักจากกิจกรรมก็ได้ค่ะ บรรยากาศชิลล์มากๆ อาหารไทยก็ทำได้ดีค่า
La Fiamma
ที่นี่มีพิซซ่าเตาถ่าน อบใหม่หอมๆ ด้วยนะคะ เตาอยู่ริมหาดเลย เป็นเมนูที่เหมาะกับการทานริมสระว่ายน้ำ หรือ ริมชายหาดมาก เพราะทานง่ายและอิ่มอร่อย พิซซ่าที่นี่ แป้งบางแต่ยังมีความเหนียวนุ่ม รสชาติของซอสและชีสกลมกล่อม ทำได้ดีมากๆ เลยค่ะ แนะนำเลยค่ะ
Ariake Restaurant
ห้องอาหารญี่ปุ่นของโรงแรมที่มีทั้งเคาเตอร์เทปันยากิ และ ซูชิบาร์ ซึ่งขอแนะนำให้ทุกคนมานั่งที่เคาเตอร์เทปันยากิค่ะ เพราะเชฟจะทำอาหารแบบสดๆ พร้อมลีลาสร้างความสนุกสนานให้เราตื่นเต้นไปตลอดมื้อ ไม่ว่าจะเป็นการควงกระป๋องเครื่องปรุง การโยนไข่ ทำไฟลุก สนุกมากๆ
เมนูทั่วไปก็มีนะคะ
ส่วนเมนูเทปันยากิ เราจะเลือกเนื้อที่เราต้องการค่ะ ข้าวผัดกับซุปจะอยู่ในเซ็ทอยู่แล้วค่ะ
Le Spa
สปาขนาด 10 ห้อง ที่มีบริการตั้งแต่สปาตัว ใบหน้า และ ทรีทเม้นท์นวดค่ะ ที่นี่นวดดีมากกก Therapist เก่งมากเลยค่ะ จับโดนทุกจุด ประทับใจ นัทเลือกนวดน้ำมัน ผ่อนคลายมากๆ บรรยากาศและดนตรีในห้องก็ผ่อนคลายมากค่ะ นวดเสร็จแล้วสบายตัวเลย
Unlock Art
โรงแรม Le Meridien ทั่วโลกจะมีโปรแกรม Unlock Art ที่จะพาเราไปสัมผัสกับงานศิลปะท้องถิ่นและสีสันในเมืองที่เราไปค่ะ ดังนั้นหากพูดถึงภูเก็ตแล้ว เราคงจะไม่พูดถึงสตรีทอาร์ทไม่ได้เลย เพราะกลายเป็นเสน่ห์และสีสันของที่นี่ไปเรียบร้อยแล้ว
หากใครที่มาพักที่ Le Meridien Phuket Beach Resort แล้ว ขับรถเพียง 30 นาทีก็ถึงในเมืองภูเก็ตแล้วค่ะ ส่วนถ้าใครไม่มีรถ ทางโรงแรมมีบริการรถรับส่งส่วนตัวนะคะ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สามารถสอบถามโรงแรมได้เลยค่า มาคาเฟ่ฮอปปิ้งกันเก๋ๆ ได้เลย ร้านใหม่เพียบค่ะ
นอกจาก สตรีทอาร์ท และ อาคารสวยๆ ในเมืองภูเก็ตแล้ว ทางโรงแรม ยังพาร์ทเนอร์กับอาร์ตมิวเซียมหรืออาร์ตแกลเลอรี่ท้องถิ่น ซึ่งเราสามารถแสดงคีย์การ์ดของโรงแรม และ เข้าชมได้ฟรีเลยค่ะ ที่ภูเก็ตจะเป็น Phuket Trickeye 3D Museum มิวเซียมภาพหลอกตาที่เวลาเราถ่ายรูปแล้วจะเหมือนหลุดเข้าไปในภาพวาด ซึ่งความพิเศษก็คือมีภาพวาดที่เป็นเรื่องราวและประวัติของภูเก็ตด้วยค่ะ แต่เสียดายที่ทางมิวเซียมปิดอยู่เลยยังไม่ได้เข้าไปชมค่ะ
Coffee Culture!
ที่โรงแรม Le Meridien นั้น เน้นมาตรฐานของกาแฟแบบยุโรป โดยจะใช้กาแฟสดแบรนด์ Illy จากอิตาลีเป็นมาตรฐานค่ะ วันนี้ทางโรงแรมเลยชวนมาเวิร์กช้อปทำกาแฟกัน พี่บาริสต้า ความรู้แน่นสุดๆ และรู้เลยว่า ช้อตเอสเปรสโซ่หอมๆ กับ ฟองนมที่เนียนนุ่ม ทำให้กาแฟทุกแก้วที่โรงแรมเสิร์ฟนั้น มีมาตรฐานและทำให้เราได้เริ่มต้นวันอย่างสดใสเลยล่ะค่ะ
ทั้งหมดนี้ ก็นับเป็น 3 วัน 2 คืน ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมและการพักผ่อน ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีครบในรีสอร์ตแห่งเดียว แถมได้รูปเก๋ๆ กลับมาเต็มเลย หากใครมีโอกาส อย่าลืมไปสัมผัส Golden Hour ภายใต้แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้า กับ Au Soleil กันที่ Le Meridien Phuket Beach Resort (เลอ เมอริเดียน ภูเก็ตบีช รีสอร์ท) นะคะ
โรงแรม Le Meridien Phuket Beach Resort (เลอ เมอริเดียน ภูเก็ตบีช รีสอร์ท)
ตั้งอยู่บนหาดกะรนน้อย จังหวัดภูเก็ต
สามารถเข้าไปเช็คราคา โปรโมชั่นต่างๆ จองตรงเป็นภาษาไทยบนเว็ปของเครือ Marriott ได้เลยนะคะ >> https://www.marriott.com/th/
Website : https://www.marriott.com/hotels/travel/hktmd-le-meridien-phuket-beach-resort/
โทร. 076-370-100