[รีวิว] GranMonte Wine Cottage ที่พักเขาใหญ่ พักผ่อนในไร่ไวน์ บรรยากาศแสนสงบใกล้ชิดธรรมชาติ

admin January 10, 2024

หากใครเคยไปเขาใหญ่ ก็คงจะเคยผ่านหรือแวะเที่ยวไร่ไวน์กรานมอนเต้ (GranMonte Vineyard and Winery) ไร่ไวน์ขนาดหนึ่งร้อยไร่ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและธรรมชาติ ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และหากคุณกำลังมองหาที่พักในเขาใหญ่ที่ได้เรื่องความเงียบสงบ ความชิลล์ เราขอแนะนำที่พักแสนอบอุ่น ภายในไร่ไวน์แห่งนี้อย่าง GranMonte Wine Cottage ค่ะ

การมาพักผ่อนที่ GranMonte Wine Cottage นั้น ถือเป็นประสบการณ์การพักผ่อนที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะเราจะได้ไร่ไวน์ขนาดร้อยไร่เป็นเหมือนสวนหลังบ้าน แถวนี้อากาศดีเหมาะกับการปลูกไวน์ บรรยากาศก็เงียบสงบไม่มีอะไรมารบกวน ตอนกลางคืนฟ้ามืด ดาวสวยมาก แม้ว่าไวน์กรานมอนเต้จะถือเป็นความภาคภูมิใจของไวน์ไทย แต่นัทก็อดพูดไม่ได้ว่า ตื่นเช้ามาปั่นจักรยาน อากาศเย็นๆ บรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกเลยค่ะ

ทั้งไร่ไวน์ GranMonte, ร้านอาหาร VinCotto และ ที่พัก Wine Cottage แห่งนี้ เป็นของธุรกิจครอบครัวชาวไทย ทำให้ตลอดการเข้าพัก เราจะสัมผัสได้ถึงความใส่ใจ มีสเน่ห์มีความอบอุ่นแบบครอบครัว ที่ทำให้ประทับใจได้ไม่ยากเลย นอกจากการมาพักที่นี่แล้ว เค้าจะรวมทัวร์ไร่ไวน์สำหรับ 2 ท่าน ทำให้เราได้ความรู้เกี่ยวกับไวน์และการผลิตไวน์มากขึ้น แถมในละแวกเดียวกัน ยังมีร้านอาหารและที่เที่ยวน่าสนใจที่ทาง GranMonte แนะนำ ถือเป็นการพักผ่อนที่ครบและไม่เหมือนใครจริงๆ

GranMonte Wine Cottage

บ้านพักท่ามกลางไร่ไวน์แห่งนี้นั้น ประกอบด้วย 8 ห้องพักเท่านั้น นั่นทำให้บรรยากาศไม่เคยวุ่นวายเลยค่ะ ตัวคอทเทจจะมี 2 ชั้น มีห้องที่เปิดหน้าต่างไปเป็นวิวไร่ไวน์ วิวป่า และ ห้องแบบ Deluxe และใครที่มาพักผ่อนกับน้องหมาน้องแมวก็สามารถรีเควสท์ห้อง Pet-Friendly ได้ด้วยนะคะ

ตอนเช็คอินจะมีเวลคัมดริงค์ให้เลือก เป็นน้ำองุ่นชีราส 100% หรือไวน์ Rose ของกรานมอนเต้ค่ะ

เราสามารถเรียกรถรับส่งจากลานจอดรถ ซึ่งจะเป็นบริเวณที่ตั้งของห้องอาหาร VinCotto และ GranMonte Shop มายังที่ห้องพัก โดยใช้เวลาเพียงแป้ปเดียวเท่านั้นค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงเช้าและช่วงเย็น นัทแนะนำให้เดินเล่นหรือปั่นจักรยาน เพราะบรรยากาศดีมากๆ

วันนี้นัทพักชั้นล่าง ห้อง 1 เป็น Forest View มีระเบียงของตัวเองที่มานั่งดื่มไวน์ชิลล์ๆ ดีมากๆ

ห้องพักในคอทเทจหลังนี้ เพิ่งมีการรีโนเวทไปเลยค่ะ ห้องพักตกแต่งอย่างอบอุ่น ใหม่ สะอาด เตียงนอนนุ่มสบาย มีโต๊ะทำงาน โซฟานั่งเล่น

ส่วนตรงมินิบาร์ ก็จะมีของทานเล่นที่ผลิตจากแถวเขาใหญ่ เครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึงไวน์กรานมอนเต้ ซึ่งจะมีราคาระบุอยู่นะคะ แล้วก็มีกาแฟดริป ชา กาน้ำร้อนให้บริการ

ภายในมีตู้เสื้อผ้า ชุดคลุมอาบน้ำ ดรายเป่าผม ห้องน้ำกว้างขวาง ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Panpuri ค่ะ

Breakfast

อาหารเช้า ทางโรงแรมจะให้เลือกไว้ล่วงหน้าค่ะ โดยจะเสิร์ฟเป็นชุด มีให้เลือกทั้งชุดอาหารไทยอย่างข้าวต้ม หรือ ชุดไข่กระทะ ไข่เบเนดิกต์ ซีเรียล ซึ่งเป็นสไตล์โฮมมี่ๆ แต่รสชาติดี เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังเนยแยม ขนมอบ โยเกิร์ต ผลไม้ สปาร์กลิ่งไวน์ น้ำองุ่น

บรรยากาศของห้องอาหารก็ดีมากค่ะ ช่วงเช้าอาหารเย็น เราเลือกนั่งกันริมน้ำ ล้อมด้วยสวนเขียวขจี

VinCotto Restaurant

นอกจากอาหารเช้าแล้ว ร้าน VinCotto ยังถือเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารดังของเขาใหญ่เลยค่ะ ทางร้านเล่าว่า เมื่อก่อนคุณแม่ทำอาหารรับแขกเอง เพราะมีแขกที่มาเยี่ยมชมไร่ไวน์ มาแวะเที่ยว แล้วอยากทานอาหาร สไตล์ของอาหารเลยจะมีความโฮมมี่ คุณภาพดี รสชาติคลาสสิกแบบถูกปากทุกรุ่นทุกวัย มีทั้งเมนูอาหารไทยและเมนูตะวันตก ซึ่งทำได้ดีทั้งสองเลยค่ะ บรรยากาศอบอุ่นมากๆ

ในเมนูมีตัวเลือกเยอะและหลากหลาย โดยมีเมนูที่น่าสนใจเป็นเมนูที่ทำมาจากวัตถุดิบในไร่ เช่น ไก่ห่อใบองุ่น ซึ่งไก่ยังมีความฉ่ำและใบองุ่นไม่มีกลิ่นหรือรสขม มีความเข้ากันกับซอส และใบองุ่นมีความกรอบเพิ่มความอร่อยให้เมนูนี้ดีมากค่ะ ส่วนขนมที่มีวานิลลาก็จะเป็นวานิลลาที่ปลูกและตากแห้งเอง นอกจากนี้ ยังมีซอมเมลิเยที่คอยแนะนำไวน์ให้เข้ากับอาหารได้ด้วยค่ะ

ส่วนเมนูที่นัทชอบมากๆ ก็มี ชีสบูราต้าสด ลูกโตเนื้อเนียน เสิร์ฟกับซอสเพสโต้กลมกล่อม และ มะเขือเทศ, สปาเก็ตตี้เส้นดำ ผัดซีฟู้ดรสชาติจัดจ้าน, โรตีแกงเขียวหวานเนื้อ จริงๆ มีเมนูอีกเยอะมากเลย นัทสั่งมาก็ดีหมดเลยค่ะ

Vineyard & Winery Tour

หากพักที่นี่ จะสามารถร่วมทัวร์ได้ 2 ท่านพร้อมไวน์เทสติ้ง หรือหากใครที่แวะมาเที่ยว ก็สามารถมาชมได้ตลอดค่ะ

ซึ่งหากพูดถึงไวน์กรานมอนเต้แล้ว เราก็ต้องพูดถึง Winemaker ของที่นี่ คุณนิกกี้ – วิสุตา โลหิตนาวี ซึ่งดูแลการผลิตไวน์ทุกขั้นตอนตั้งแต่การปลูกองุ่น การตัดแต่งชำ พันธุ์องุ่นต่างๆ ที่ต้องทดลองปลูกจนพบกับพันธุ์องุ่นทำไวน์ที่เหมาะกับผืนดินแห่งนี้ ไปจนถึงการเพรสน้ำองุ่น เข้าไปหมัก บ่ม กว่าจะมาเป็นไวน์ที่เราเห็นในขวด ต้องบอกเลยว่าผ่านหลายขั้นตอน

ยิ่งถ้าพูดถึง Cremant หรือสปาร์กลิ่งไวน์ของที่นี่ก็ใช้วิธีแบบ Traditional Method ซึ่งต้องใช้มือหมุนขวดทุกวันให้ Lees ตกตะกอนออกมา ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ หาชมของจริงก็อาจจะต้องเดินทางไปไกล แต่ในเมืองไทย เราก็สามารถ รู้จักและเข้าใจ Winery ระดับสากลได้ค่ะ

การมาพักผ่อนที่นี่ ยังมาได้ทั้งปีเลยค่ะ เพราะแต่ละช่วง เราจะเห็นวัฏจักรของต้นองุ่นที่ไม่เหมือนกัน อย่างนัทเคยมาเที่ยวตอนฤดูเก็บเกี่ยวครั้งนึง และ มาตอนองุ่นกำลังออกดอกครั้งนึง ขั้นตอนการทำงานที่เราเห็นในไร่และในโรงผลิตไวน์ ก็จะต่างกันออกไปค่ะ ทางไกด์ก็อธิบายครบ แต่เราจะเห็นการทำงานที่เกิดขึ้นจริงๆ คนละส่วนในแต่ละช่วงเวลาที่มาค่ะ

หากใครอยากอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับไวน์กรานมอนเต้เพิ่มเติม นัทเขียนไว้อย่างละเอียดเลย คลิ๊กที่นี่

ส่วนหากใครอยากแวะซื้อของขวัญหรือของฝากคุณภาพดีจากผู้ผลิตท้องถิ่นในเขาใหญ่ ที่ GranMonte Shop ไม่ได้มีแค่ไวน์นะคะ แต่ยังมีโปรดักท์จากฟาร์มรอบๆ อีกเยอะมาก สามารถแวะมาซื้อก่อนกลับได้เลย

Surrounding

นอกจากตัวไร่ไวน์และร้านอาหารในไร่แล้ว ต้องบอกว่า พอเราไปถามคำแนะนำว่าไปทานอะไรดี ก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ไม่มีกั๊ก และต้องขอบอกต่อจริงๆ สำหรับใครที่จะมาเที่ยวเขาใหญ่

ร้านยุ้งข้าว เขาใหญ่ – เป็นอีกหนึ่งร้านในเขาใหญ่ที่ได้รับการแนะนำในมิชลินไกด์ ซึ่งร้านเสิร์ฟอาหารใต้รสชาติจัดจ้าน โดยเน้นเรื่องของวัตถุดิบที่สด เวลาไปจะมีป้ายเขียนเลยว่า วันนี้มีวัตถุดิบพิเศษอะไรเข้ามา หรือมีอะไรที่หมด เพราะใช้ซีฟู้ดสดจากทางใต้ ทุกจานที่ได้ทานวันนี้ รสชาติดีหมด ราคาสมเหตุสมผลมากๆ ด้วยค่ะ

บ้านหมากม่วง The Mango House Farm – จากสวนมะม่วงของรุ่นคุณพ่อ ขยายมาเป็นสวนมะม่วง 250 ไร่ ที่อร่อยทั้งมะม่วงสด มะม่วงแปรรูป และ เมนูมะม่วงต่างๆ ในร้าน ซึ่งนัทจะบอกว่า มะม่วงย่างเนยดีงามมากกกกก ว่ากันว่า มะม่วงไทยคือมะม่วงที่ชาวต่างชาติบินมาทานแล้ว ที่นี่คือนำเสนอได้ดีไปอีก มีหลายเมนู บรรยากาศดี มะม่วงย่างเนยทานแพร์ริ่งกับไวน์หวานบุษบาจาก GranMonte แล้วสดชื่นมากค่ะ