วิธีเดินทางกลับเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว + แชร์ประสบการณ์กลับไทยด้วย Thailand Pass

หลังจากที่ช่วงสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประกาศเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นมา โดยวันนี้ นัทจะมาเล่าขั้นตอนและรีวิวประสบการณ์จริงในการขอ Thailand Pass และ การเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาค่ะ
หากใครที่ทราบขั้นตอนแล้ว และอยากอ่านประสบการณ์ตอนเดินทางจริงๆ สามารถข้ามไปอ่านข้างล่างได้เลยนะคะ!
เดินทางเข้าไทย ต้องกักตัวหรือไม่?
ต้องพิจารณา 2 อย่างค่ะ เนื่องจากตอนนี้ ประเทศไทย มี 3 โปรแกรมสำหรับทุกคนที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว คนไทยกลับบ้าน คนทำงาน expats และ นักธุรกิจต่างๆ ทุกคนใช้เกณฑ์เดียวกันนะคะ มาเช็คก่อนนะคะ ว่าคุณต้องเข้าโปรแกรมไหน
ข้อ 1. คุณฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่?
A : ฉีดแล้ว > หากคุณฉีดวัคซีนครบโดสตามที่กำหนด ครบ 14 วันก่อนเดินทาง หรือ เคยติดเชื้อและหายจากโควิด ภายใน 3 เดือน และ ฉีดวัคซีนอย่างน้อยอีก 1 โดส ครบ 14 วันก่อนเดินทาง ให้ไปต่อข้อ 2. ได้เลยค่ะ
วัคซีนที่ประเทศไทยรับรองมีดังนี้
– Sinovac
– AstraZeneca or Covishield
– Pfizer–BioNTech or Comirnaty
– Moderna
– Janssen or Janssen (Johnson & Johnson)
– Sinopharm or COVILO
– Sputnik V
A : ยังไม่ฉีด > หากคุณยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดยังไม่ครบโดส จะต้องเข้า Alternative Quarantine (AQ) หรือ การกักตัว 10 วัน สำหรับการเดินทางเข้าโดยเครื่องบิน หากเดินทางเข้ามาทางชายแดนทางบกจะต้องกักตัว 14 วันค่ะ โดยแพกเกจกักตัวส่วนใหญ่จะรวมอาหาร 3 มื้อ รถรับส่งจากสนามบิน และ การตรวจ PCR 2 ครั้งไว้แล้วค่ะ สำหรับการเข้า AQ นั้น จะไม่สามารถออกจากห้องพักได้โดยเด็ดขาดเลยค่ะ
ข้อ 2. คุณเดินทางจากประเทศไหน?
A : หากคุณเดินทางจาก 63 ประเทศด้านล่างนี้ และ อยู่ในพื้นที่เหล่านี้ติดต่อกันเป็นเวลา 21 วันก่อนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย คุณจะเข้าโปรแกรม TEST & GO ซึ่งไม่ต้องมีการกักตัว แต่ต้องอยู่โรงแรมจนกว่าผล PCR จะออก ซึ่งอาจจะไม่กี่ชั่วโมงไปจนถึง 1 วันค่ะ แนะนำให้เช็คกับทางโรงแรมที่คุณจองได้เลย
63 ประเทศที่ผู้เดินทางสามารถเข้าโปรแกรม TEST & GO ได้แก่ ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, บาห์เรน, เบลเยียม, ภูฏาน, บรูไนดารุสซาลาม, บัลแกเรีย, กัมพูชา, แคนาดา, ชิลี, จีน, โครเอเชีย, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ไอร์แลนด์, อิสราเอล, อิตาลี, ญี่ปุ่น, คูเวต, ลาว, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, มาเลเซีย, มัลดีฟส์, มอลตา, มองโกเลีย, เมียนมา, เนปาล, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โอมาน, ฟิลิปปินส์, โปแลนด์, โปรตุเกส, กาตาร์, โรมาเนีย, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์, สาธารณรัฐสโลวัก, สโลวีเนีย, ศรีลังกา, สาธารณรัฐเกาหลี, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม, ฮ่องกง, ไต้หวัน
หมายเหตุ – หากต้นทางเป็นการเดินทางออกจากประเทศไทย ไปยังพื้นที่ดังกล่าว ขากลับไม่จำเป็นต้องอยู่ให้ครบ 21 วันนะคะ เพราะถือว่ามาจากไทยค่ะ
A : หากคุณไม่ได้เดินทางมาจาก 63 ประเทศดังกล่าว จะมีให้เลือก 2 ออปชั่นค่ะ คือ
– Sandbox Program เป็นเวลา 7 วัน ใน 17 จังหวัด Blue Zone รายชื่อจังหวัดสามารถดูได้ที่ TATNews.org ค่ะ : โปรแกรมแซนด์บ๊อก คือโปรแกรมที่เราจะต้องจองโรงแรม SHA+ 7 คืนติดต่อกันในจังหวัดใดก็ได้ที่อยู่ใน Blue Zone และ ทำ PCR 1 ครั้งที่สนามบิน และ ครั้งที่สองจะเป็นการตรวจ ATK ด้วยตัวเองค่ะ
– อีกออปชั่นคือ กักตัว 7 วัน หากจะเดินทางไปยังพื้นที่นอก Blue Zone แต่ยังไม่เคยได้ยินใครทำเลยค่ะ
หลังจากรู้แล้วว่า คุณต้องเข้า Test&Go หรือ Sandbox หรือ Alternative Quarantine เราก็มาดูขั้นตอนต่อไปกันค่ะ
อีกที่ที่สามารถเช็คมาตรการสนามบินได้ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ได้สะดวกสุดๆ ต้องยกให้ Traveloka ค่า> https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel
เอกสารที่ใช้ในการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย
หลักๆ มีสองอย่างค่ะ คือ Thailand Pass และ ผล PCR ที่เป็นลบ ตรวจ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางค่ะ
ตัว Thailand Pass จะอยู่ในรูปแบบ QR Code ไม่จำเป็นต้องปริ้นท์นะคะ ส่วน ผล PCR ต้องเป็นกระดาษมาค่ะ
สมัยที่ยังใช้ระบบ COE เค้าจะบังคับให้ปริ้นท์ใบจองโรงแรมกับ ใบต. 8 มาด้วย ซึ่งตั้งแต่เปลี่ยนเป็นระบบ Thailand Pass วันที่ 1 พย. เป็นต้นมา ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วนะคะ นัทเตรียมมาหมด แต่ไม่ได้ใช้เลยค่ะ
สำหรับ Thailand Pass ให้เข้าไปกรอกข้อมูลที่ https://tp.consular.go.th/ ได้เลยค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับ upload ในระบบ Thailand Pass
– รูปหน้าพาสพอร์ตที่เห็นข้อมูลครบถ้วน
– หลักฐานการฉีดวัคซีน หากฉีดที่ไทย แนะนำให้แคปหน้าในหมอพร้อมที่มี QR Code และ อัพโหลด QR Code เฉยๆ แยกเข้าไปด้วยค่ะ / หากฉีดที่ต่างประเทศ ก็เอาตามที่มีค่ะ ถ้าประเทศนั้น มี QR หลักฐานวัคซีนให้แนบด้วย
– เอกสารการจองโรงแรม ที่มีการระบุว่า จ่ายเงินแล้ว และรวม RT-PCR 1 ครั้งค่ะ
ทั้งหมดนี้ แนบเป็นไฟล์ภาพนะคะ แคปเอาได้ค่ะ
หากใครต้องการจองตั๋วเครื่องบินกลับเมืองไทย สามารถเช็คตั๋วได้ที่ >> https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Paris.PARA
ประสบการณ์การขอ Thailand Pass
ก่อนอื่น แนะนำให้ใช้ Gmail นะคะ เจ้าหน้าที่ผู้พัฒนาระบบเคยออกมารับทราบเลยค่ะว่า Hotmail มีปัญหาจริง และ กำลังดำเนินการ แล้วก็ 1 คน (1 หมายเลขพาสพอร์ท) ต่อ 1 อีเมล์ นะคะ ไม่งั้นคนถัดไปที่ใช้อีเมล์ซ้ำจะ error ค่ะ
ระยะเวลาที่ใช้ ทางหน้าเว็ปแจ้งว่าใช้เวลา 7 วันทางการ ส่วนพวกนัทขอไป 2 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 4 วันทำการทั้งสองครั้งค่ะ
มีเทคนิคมานิดหน่อย อันนี้คอมเฟิร์มมากับเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ คือ ถ้าเอกสารที่เราอัพโหลดไปมันชัดจนระบบมันอ่านได้เอง มันจะอนุมัติโดยอัตโนมัติค่ะ ซึ่งของนัทคนเดียว ได้รับ QR Code ภายใน 1 นาทีเลยค่ะ
ความต่างคือ เอกสารที่นัทอัพโหลดมันชัดกว่าของน้องๆ จริงๆ หน้าพาสพอร์ทของนัทสแกนแบบเห็นชัดทุกตัวอักษร ภาพไม่เหลือง แต่ของน้องๆ เป็นการถ่ายรูปเล่มพาสพอร์ทอีกที แล้วก็น้องๆ อัพโหลดรูปถ่ายวัคซีนพาสพอร์ทไป แต่นัทแคปหน้าจอหมอชนะ พร้อม qr code ไป ส่วนเอกสารจองโรงแรมก็แคปหน้าจอไปชัดๆ ค่ะ ถ้าระบบอ่านข้อมูลอัตโนมัติได้ ได้ QR Code ภายใน 5 นาทีแน่นอนค่ะ
ทีนี้ ของน้องๆ พอมันไม่ได้อัตโนมัติ ก็จะเป็นเจ้าหน้าที่อนุมัติเป็นรายคน ตอนแรกเราจะบินวันที่ 4 แต่เราตามกับ Call Center ของกระทรวงการต่างประเทศ มาตั้งแต่เย็นวันที่ 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่คุยดีและให้ความช่วยเหลือดีมากๆๆๆ วันที่ 3 เค้าถึงขั้นตามกับเจ้าหน้าที่ที่อนุมัติ Thailand Pass และได้คอนเฟิร์มว่ามีการอนุมัติมาแล้ว แต่หลังจากที่เค้ากดปุ่มอนุมัติไป นัทเข้าใจว่า มันเป็นส่วนของระบบที่จะรัน QR Code และส่งอีเมล์กลับมา ซึ่งเราต้องรอระบบค่ะ ทำอะไรไม่ได้
และน้องๆ ก็ได้ QR Code ไม่ทันจริงๆ ซึ่งพวกนัทเลื่อนตั๋วเครื่องบิน เลื่อนวันกับโรงแรมเรียบร้อย ซึ่งโชคดีมากๆ ที่นัทซื้อตั๋วแบบเปลี่ยนวันได้ไม่จำกัดครั้ง นัทบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ออฟฟิศปารีสคือโทรติดง่ายและพร้อมอำนวยความสะดวกแบบสุดๆ ส่วนทางโรงแรม อันนี้นัทคุยเหตุการณ์ให้เค้าฟังตรงๆ ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณทางโรงแรมมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ทีนี้ พวกนัทเลยเลื่อนตั๋วออกไปเลย 7 วันทำการ สรุปคราวนี้ ขอวันที่ 5 ได้ QR ตั้งแต่วันที่ 9 ค่ะ สรุปใช้เวลาประมาณ 4 วันเหมือนกันเลย
อย่างไรก็ตาม เพื่อความชัวร์ก็ขอล่วงหน้า 7 วันทำการนะคะ แต่ตอนนี้เหตุการณ์ผ่านมาเกือบเดือน ระบบมันดีขึ้นมาก ไม่ค่อยมีปัญหากันแล้วค่ะ ฟี้ดแบคดีขึ้นมากๆ
วันเดินทาง
พอได้ Thailand Pass มาแล้ว ทุกอย่างง่ายมาก ไม่ต้องปริ้นท์อะไรเลยค่ะ ขอแค่มีผล PCR เป็นกระดาษมาอย่างเดียว เช็คอินเรียบร้อย ขึ้นเครื่องตามปกติ
นัทเดินทางโดยสายการบิน Singapore Airline ซึ่งให้บริการเต็มรูปแบบทั้งอาหาร ของว่าง และ เครื่องดื่ม ตลอดไฟลท์ค่ะ นัทชอบสายการบินนี้มากๆ เลย เพราะเวลาดี ดูแลดี แล้วชอบที่เค้าใส่ใจกับสิ่งอำนวยความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ บนเครื่องบิน เช่น ถาดอาหารกันลื่น ช่องเสียบมือถือ ช่วงนี้มี Care Kit ให้ด้วย แถมบริการยังไร้ที่ติอีกด้วยค่ะ
ส่วนการทรานสิทที่สนามบินชางฮี (Changi) นั้น ไม่เหมือนช่วงก่อนแล้วนะคะ (ก่อนหน้านี้ ต้องลงเครื่องเป็นแถวตอนเรียงหนึ่ง ไปอยู่ในโซนเล็กๆ ไม่มีร้านอะไรเปิดเลย และ เข้มงวดมากๆ ) ตั้งแต่ 1 พย. ที่ผ่านมา สนามบินชางฮี เปิดให้บริการทั้งหมดเลยค่ะ Priority Pass Lounge, ร้านอาหาร, ช้อปปิ้ง ของฝากต่างๆ เปิดหมดแล้วค่ะ
มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิปุ๊ป คราวนี้ง่ายเลยค่ะ เดินมาถึงตรงที่เค้าให้นั่งรอคิว ซึ่งแทบไม่ต้องรอเลย น้องๆ แค่เดินมาเช็คว่าเรามี QR Code กับ ผลตรวจเรียบร้อยมั้ย แล้วเราก็ผ่านไปช่องสาธารณสุข แว้ปเดียว เดินออกมาผ่านตม. รับกระเป๋า และ ผ่านศุลกากรออกมาถึง Arrival Hall ค่ะ
ส่วนตัวนัทว่า โปรเซสทั้งหมดนี้ เร็วกว่า ช่วงปกติก่อนโควิดอีกค่ะ
ทางโรงแรมเค้าจะแจ้งอยู่แล้วว่า จะรออยู่ประตูไหน แต่ตอนนัทไปถึง ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาถาม และพาเดินไป พร้อมประสานงานกับรถให้เรียบร้อยเลยค่ะ
Test & Go
นัทพักที่โรงแรม DoubleTree by Hilton สุขุมวิทนะคะ นัทแลนด์ 11 โมง มาถึงโรงแรมไม่เกินเที่ยงครึ่ง แพกเกจของทางโรงแรมจะรวมอาหาร 3 มื้อค่ะ
โรงแรมนี้พาร์ทเนอร์กับ โรงพยาบาลสมิติเวชค่ะ ซึ่งวันที่นัทเข้าไป พยาบาลจากสมิติเวช เข้ามาตรวจตอน 6 โมงเย็น และแจ้งว่าผลจะออกช่วงตีสอง-ตีสาม ซึ่งจริงๆ จะให้โรงแรมแจ้งผลและเช็คเอาท์ออกเลยก็ได้นะคะ แต่นัทคิดว่า มาแบบนี้ก็พักผ่อนดี นั่งเครื่องมาเหนื่อยๆ นอนพักให้หายเจ็ทแล็ก
ตอนอาหารเช้า พนักงานก็แจ้งผลเรียบร้อย แต่นัทไม่รีบ ก็เช็คเอาท์ออกเที่ยงเลยค่ะ
อ้อ ตอนมาถึงเราต้องเช็คอินกับแอพ หมอชนะ ด้วยนะคะ และในวันที่ 6 ทางโรงพยาบาลจะให้ชุดตรวจ ATK มาตรวจเองด้วยค่ะ
ทริปนี้ นัทไปเที่ยวปารีสมานะคะ สามารถรอติดตามรีวิวกันได้เลย
จองตั๋วเครื่องบินกลับมาประเทศไทย > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Bangkok.BKKA
สามารถเช็คมาตรการสนามบินได้ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/safe-travel
หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า
ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com