เมื่อความคลาสสิกดั้งเดิมตามแบบฉบับญี่ปุ่น ถูกนำมาผนวกกับงานดีไซน์และความโมเดิร์น ร้าน Sushi Niwa จึงเป็นร้านโอมากาเสะที่ไม่ได้ยึดติดกับการเสิร์ฟซูชิแบบเดิมๆ แต่มีการผสมผสานทั้ง Interactive Technology ดีไซน์ร้าน และการเลือกนำเสนอ เมนูในแต่ละคอร์ส ได้อย่างน่าประทับใจ

ร้าน ซูชิ นิวะ ตั้งอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 สามารถนำรถมาจอดที่ร้านได้

การมาทานอาหารที่ร้าน Sushi Niwa นั้นจะแตกต่างออกไปจากร้านซูชิ Omakase ทั่วไปนิดหน่อย โดยเมื่อเราเข้ามาที่ร้านแล้ว สิ่งแรกที่เราจะได้เจอก็คือ Drink Bar ซึ่งเราสามารถเข้ามานั่งรอ พร้อมดื่ม Aperitif ก่อนเข้าสู่มื้ออาหารได้ แน่นอนว่าเราสามารถที่จะเข้ามานั่งดื่มชิลๆ หลังจากมื้ออาหารก็ได้เช่นกัน

เราได้เลือกดื่ม Umeshu ก่อนเข้าสู่มื้ออาหาร เหล้าบ๊วยที่นี่รสชาติถือว่าเปรี้ยวหวานกลมกล่อม เหมาะสำหรับการดื่มกระตุ้นสัมผัสของลิ้นก่อนทานอาหารได้ดีมากค่ะ

---

เมื่อถึงเวลาทานอาหาร พนักงานก็ได้เรียกเราเข้าไปยังห้องทานอาหารสีขาว ตกแต่งด้วยหินอ่อนสวยงาม โดยที่นั่งทั้งหมดจะเป็น Counter seat ค่ะ วันนี้เชฟนรินทร์จะเป็นคนดูแลเราค่ะ ที่นี่เลือกใช้เชฟคนไทยเพื่อที่จะสื่อสารและเข้าใจถึงความชอบของแขกที่มาทาน เชฟทุกคนได้รับการฝึกฝนที่ประเทศญี่ปุ่น และ ในร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นนำมาเป็นอย่างดี ซึ่งเราว่าน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียวค่ะ

ก่อนที่จะเริ่มเสิร์ฟนั้น ทางร้านจะมีกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ กับจออินเตอร์แอคทีฟที่ฉายขึ้นมาบนเคานเตอร์ค่ะ แต่เราขอไม่สปอยนะ ไปเจอกันเอง

เริ่มคอร์สแรกด้วย Amadai ทอดพร้อมเกล็ดค่ะ เกล็ดทอดมาได้กรอบดีมาก เนื้อปลาสด หยดน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อย ได้ความหวานมันที่ลงตัว

ตามมาด้วย Buri Sashimi ที่เลือกใช้เนื้อที่ต่างกันสองส่วน โดยส่วนท้องจะมีความมันกว่า ในขณะที่อีกส่วนจะลีนกว่าค่ะ

เพิ่มระดับความเข้มข้นกันตั้งแต่คำที่สาม ด้วยปลา Nodoguro ย่าง จับคู่กับอูนิ Bafun ห่อมาด้วยสาหร่าย

Nodoguro นั้นถือว่าเป็นปลาน้ำลึก หาทานยาก ราคาค่อนข้างแรงค่ะ รสชาติจะมีความมัน เข้มข้น

ไต่ระดับรสชาติกันต่อกับคอร์สที่สี่ ซึ่งก็คือข้าวอบปูขน Kegani ท้อปด้วย Uni, Ikura และ Oscietre Caviar จานนี้ถือเป็น highlight วันนี้ของเราเลยค่ะ หวาม มัน อูมามิสุดๆ

Caviar และปู เต็มๆคำ ฟินๆค่ะ

ยังไม่จบ คอร์สที่ห้าของเรายังจัดจ้านขึ้นได้อีก ด้วย Awabi หรือหอยเป๋าฮื้อทานคู่กับซอสตับหอยรสเข้มที่ปรุงมาอย่างพิถีพิถัน ท้อปด้วย Bafun Uni กองใหญ่หวานฉ่ำ และ Oscietre Caviar อีกครั้ง

รู้สึกเหมือนได้ทาน Uni มาสามคอร์สติดแล้วนะคะ แต่สำหรับ Uni ดีๆนั้น คงไม่มีคำว่ามากเกินไป ฟินๆกันไปค่ะ

หลังจากโดน Starter ชุดใหญ่สุดฟินเข้าไป เราก็ได้มาเริ่มทานซูชิกันบ้างค่ะ โดยคำแรกนั้นเสริฟเป็นปลา Kamasu เอาไปย่างหนังค่ะ

ข้าวซูชิที่ Niwa จะรสชาติค่อนข้างเปรี้ยวและเข้มข้น โดยทางร้านใช้น้ำส้มสายชูถึง 3 ชนิดมาผสมกันเพื่อให้ได้ข้าวรสนี้ค่ะ

ต่อกันด้วย Akami Zuke หรือทูน่าส่วนเนื้อแดง เอาไปหมักซอสโชยุ รสสัมผัสทูน่าที่โดนหมักนั้นจะลื่นเนียน รสชาติเข้มข้น

ต่อกันด้วย Chutoro ค่ะ ตัวนี้จะมีความมันเพิ่มขึ้นจากส่วน Akami อย่างชัดเจน ทางร้านบอกว่าทูน่าของที่ร้าน ได้ทำการบ่มนานถึงสิบวัน เพื่อให้ได้รสชาติปลาที่เข้มข้นแบบนี้ค่ะ

อีกอย่างหนึ่งที่เราสังเกตได้ในทุกคำซูชิ ทางเชฟจะรักษาอุณหภูมิข้าวเป็นอย่างดีค่ะ มีการเปลี่ยนหรือเติมข้าวตลอด ทำให้ข้าวเป็นอุณหภูมิที่ถูกต้องอยู่ตลอด

เชฟนรินทร์กำลังทำซูชิให้เราค่ะ โดยเชฟนั้นมีประสบการณ์ในร้านซูชิชั้นนำมากว่าสิบปี ก่อนที่จะมาประจำที่ร้าน Sushi Niwa ค่ะ

เรียงลำดับชิ้นส่วนของปลาทูน่ากันมาถึง Otoro หรือส่วนที่มันที่สุดค่ะ คราวนี้เชฟได้ทำออกเป็นในรูปแบบ temaki ค่ะ

มาอีกแล้วกับ Uni ค่ะ คราวนี้ในรูปแบบซูชิ ไม่ห่อสาหร่าย โดยเราต้องหยิบจากมือเชฟเองเลย รสชาติมันหวานหอม ฟินดีจริงๆ

ต้องขอบอกว่าร้านนี้จัดเต็ม จริงจัง จริงใจ กับ Uni มากๆค่ะ ยังไม่เคยเจอร้าน Omakase ร้านไหนเสริฟ Uni เยอะขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ เชฟถึงขั้นเอาอูนิหลายๆเจ้ามาให้เลือกเลยค่ะ อยากทานของเจ้าไหนบอก  555

มาถึง Main Course กันแล้วค่ะ ด้วย แซนวิชเนื้อ Akita Tenderloin A5 ค่ะ โดยเนื้อกันเอาไปชุบแป้งทอดบางๆ ข้างในยังชุ่มฉ่ำ ประกบด้วยแป้ง Brioche ทาซอสมันตาร์ดเล็กน้อย แล้วก็ขูด Truffle ลงไปอย่างไม่ยั้งมือ

น่าทานสุดค่ะ เนื้อนุ่มมากๆ เอาไปจิ้มเกลือเกล็ด truffle ยิ่งทำให้รสชาติเข้มข้นและหอมกลิ่น truffle กันเข้าไปอีก

จบคอร์สด้วย Tennen Unagi Kabayaki ปลาไหลที่นี่ เป็นปลาไหลสด เอามาย่างจนกรอบ

ก่อนถึงของหวาน เชฟได้นำซุปมิโสะแดงมาเสริฟเพื่อล้างปาก ตักขึ้นมาเจอหอยนางรมญี่ปุ่นตัวใหญ่

ปิดท้ายมื้อนี้กันไปด้วย Strawberry เกรด Premium จากญี่ปุ่นค่ะ ราดด้วยนมข้นหวานจากฮอกไกโด

ก็จบไปแล้วสำหรับ Omakase ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพของวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม การผสมผสานรสชาติที่เข้มข้นถูกใจ ค่าเสียหาย สนนราคาอยู่ที่ 6,500++ บาท

สำหรับมื้อเย็นจะมี 2 ราคาค่ะ คือ 4,900 บาท และ 6,500 บาท

สำหรับเราแล้ว ซูชิที่นี่ นับว่าเป็น Omakase ที่ทำเอาใจคนรักซูชิคนไทยมากๆค่ะ ทั้ง selection ของปลาและวัตถุดิบต่างๆที่ใช้ วิธีการปรุงและอาหาร อาจจะดูไม่ดั้งเดิมเท่าไหร่ แต่ทุกจานล้วนถูกคิดมาแล้วอย่างดีค่ะ ทานแล้วถูกปากทุกจานเลย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่นี่เลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ดังนั้น เวลามา อาจจะเจอวัตถุดิบอื่นๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะคะ แต่ความพรีเมี่ยมยังคงเดิมแน่นอนค่ะ

ส่วนใครที่อยากจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทาง Sushi Niwa เองก็มีห้อง Private ไว้ให้บริการค่ะ โดยสามารถจุคนได้ถึง 8 คนค่ะ

ร้าน Sushi Niwa

ตั้งอยู่ในซอย ร่วมฤดี 2 ย่านหลังสวน
โทร. 063-456-5656
Website : http://www.sushiniwabangkok.com/
Facebook : https://www.facebook.com/SushiNiwaBangkok/