เที่ยว เซินเจิ้น ประเทศจีน ด้วยตัวเอง : รวมที่เที่ยว Shenzhen บรรยากาศสุดล้ำ เมืองแห่งเทคโนโลยี เที่ยวง่าย

เซินเจิ้น (Shenzhen) หนึ่งในเมืองใหญ่ของจีนที่เติบโตเร็วมากๆ จนกลายเป็นเมืองที่มีอะไรล้ำๆ ถือว่าได้ล้างภาพจำที่เคยมีเกี่ยวกับที่นี่ไปเลยค่ะ — ตึกสูงระฟ้าที่มีดีไซน์ล้ำ ๆ แสงไฟยามค่ำคืน ร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ ริมทะเล ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หลากหลาย มีทั้งงานอาร์ต มิวเซียมดีไซน์ล้ำสมัย งานแสดงศิลปะแปลกตา และสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียว จุดชมวิวเพียบ แถมยังมีอาหารมากมาย อาหารกวางตุ้ง สตรีทฟู้ด อาหารทะเลสดๆ

ถือว่าเป็นอีกเมืองที่ตอบโจทย์การเที่ยวหลายมิติมากๆ ที่สำคัญ เดินทางสะดวกมากกกกก ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย ใกล้กับฮ่องกง กวางโจว จะไปตรงไหนง่ายหมดเลยค่ะ พร้อมแล้วตามมาชมกันเลยนะคะ


ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ Shenzhen

– เซินเจิ้น ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง อยู่เหนือฮ่องกงไปเพียงนิดเดียว และอยู่ห่างจากเมืองกวางโจวประมาณ 130 กม. ค่ะ ทั้งหมดนี้ถือว่าอยู่ทางตอนใต้ของจีน บินจากกรุงเทพฯ ไม่ถึง 3 ชั่วโมงค่ะ

– คนไทยไม่ต้องใช้วีซ่า อยู่ได้ 30 วันค่ะ นัทข้ามแถวนี้กระจายเลย ทั้งข้าม มาเก๊า – ฮ่องกง – จีน ไปกลับ ฟรีวีซ่าหมดค่ะ

– วิธีการเดินทางมาเซินเจิ้นทำได้หลากหลายมาก ทั้งบินตรงมาลงที่เซินเจิ้นเลย AirAsia มีบินตรงจากกรุงเทพดอนเมืองทุกวันค่ะ

– จะข้ามมาจากฮ่องกงก็ได้ ถ้าข้ามมาจากฮ่องกงโดยขนส่งสาธารณะ จะมีอยู่ประมาณ 4 วิธี ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง, รถไฟฟ้า MTR, รถบัส, เฟอร์รี่ เดี๋ยวจะเขียนอธิบายไว้ด้านล่างอีกทีนะคะ ทุกวิธีใช้เวลาเดินทางรวมผ่านตม. นั่นนี่ก็ประมาณ ชั่วโมงนิดๆ

– หากมาจากกวางโจว นัทนั่งรถไฟความเร็วสูง สถานี South Guangzhou <> North Shenzhen ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง แต่จริงๆ สามารถเรียก Didi ข้ามเมืองได้เลยนะคะ ถ้า Didi ก็เกือบ 2 ชั่วโมง แต่ให้ดูดีๆ เพราะบางทีจากจุดที่เราจะไปในกวางโจวกับเซินเจิ้น มันอาจจะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟทั้งสถานี South Guangzhou (เข้ากลางเมืองกวางโจวอีก 40 นาที) และ North Shenzhen (เข้ากลางเมืองเซินเจิ้นอีก 40 นาที) จริงๆ ถ้าไป 2 คน บางที Didi คุ้มและเร็วกว่า และไปถึงจุดที่จะไปเลยค่ะ

– ไปจีนไปกับแอร์เอเชียเช่นเคย บินจีนเยอะสุดแล้ว เอาแค่แถวๆ นี้ อยากบินขึ้นลงที่ไหนมีหมด กวางโจว เซินเจิ้น ฮ่องกง มาเก๊า  วางแผนทริปอิสระตามใจได้เลย แถมมีบินไปจีนอีกกว่าสิบเมือง

– เรื่องอากาศ อิงตามฮ่องกงได้เลยค่ะ ไปช่วงกันยา คือร้อนมาก น่าจะมีช่วงเย็นแค่ ธันวาถึงกุมภาเท่านั้นเลยค่ะ

– ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เหมือนเที่ยวจีนเมืองใหญ่ปกติเลย ทุกที่รับ AliPay ผูกบัตรไปได้ สแกนทำทุกอย่างได้หมด นัทใช้ AMap ของจีนเป็นหลัก เลยเขียนชื่อภาษาจีนของทุกจุดแนบไว้ให้นะคะ


นั่งรถไฟจากฮ่องกงไปเซินเจิ้น

จริงๆ ฮ่องกงข้ามมาเซินเจิ้น มาได้หลายวิธีมาก เพื่อนคนท้องถิ่นแนะนำให้นั่งบัสหรือเฟอร์รี่ออกจาก Shueng Wan ที่ฮ่องกงไปลงที่ท่าเรือ Shekou ของเซินเจิ้น ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. แต่ผ่านตม. ไม่นาน

ส่วนตัวเราเลือกข้ามรถไฟความเร็วสูงไปค่ะ ซึ่งแม้จะเดินทางแค่ 14-15 นาที แต่ผ่านตม. นานมาก!!! เราใช้เวลา นับตั้งแต่ถึงสถานี West Kowloon ให้จนท. เช็คพาสพอร์ทสแกนกระเป๋า ผ่านตม. ฮ่องกง และ ตม. จีน รวมทั้งหมด 28 นาทีนะคะ (เราดูจากเวลาที่ถ่ายรูปเคาเตอร์ตอนไปถึง และตอนที่ถ่ายรูปที่ชานชาลา) แต่เราเป็นวันที่แทบไม่มีคิวเลยนะ ถ้าวันคนเยอะน่าจะต้องมีเป็นชม. — เกทที่เป็นทางลงชานชาลาจะปิด 5 นาทีก่อนรถออกค่ะ

เคลียร์ตม. ทีเดียว ไปถึงแล้วออกสถานีได้เลยค่ะ

ซื้อตั๋วผ่าน Trip.com หรือที่สถานีได้เลยค่ะ ถ้าซื้อออนไลน์ไปก่อนก็จะชัวร์ว่ามีที่นั่ง แต่ว่ามีค่าดำเนินการจองนะคะ


พักที่ไหนดี

จากที่เที่ยวหลักๆ ของเซินเจิ้น ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตที่ชื่อว่า Futian กับ Nanshan ค่ะ ซึ่งโรงแรมหรูและโรงแรมเชนส่วนใหญ่จะอยู่แถว Futian กันหมด และนัทก็ว่าเป็นโลเคชั่นที่สะดวกมากๆ

ครั้งนี้นัทมาพักที่ JW Marriott Shenzhen และชอบมากๆ เลยอยากบอกต่อค่ะ ตัวโรงแรมดูใหม่ ห้องกว้างขวาง เตียงนอนสบาย สิ่งอำนวยความสะดวกครบ บริการน่ารัก ส่วนตัวทริปนี้ นัทใช้เวลาที่โรงแรมเยอะมาก เค้ามีตัวเลือกห้องอาหารดีมาก สะดวกสบายสุดๆ

ชื่อภาษาจีน : 金茂深圳JW万豪酒店

อย่างตอนเย็น นัทกลับมาทานซีฟู้ดบุฟเฟต์ที่โรงแรม ชอบความที่ขนาดเป็นบุฟเฟต์ อาหารทะเลยังต้องว่ายน้ำเลย ราคาดีมาก รวมเครื่องดื่มมีแอลกอฮอลล์ ไวน์ เบียร์ แล้วด้วย มีล้อบสเตอร์ มีเนื้อ มีอาหารทะเลเยอะมากๆ ทั้งหมดนี้ตก 318 หยวน ถ้าวันเสาร์อาทิตย์จะเป็น 358 หยวน แต่มีอาหารเพิ่มขึ้น

แวะมาทานอาฟเตอร์นูนทีที่โรงแรม น่ารักมากกกก

อ่านรีวิวโรงแรมฉบับเต็ม >> คลิ๊กที่นี่

* ที่เซินเจิ้นมีโรงแรม JW Marriott สองสาขานะคะ มีอันที่นัทมาพักที่ Futian และอีกอันเพิ่งเปิดใหม่เลย ชื่อ JW Marriott Shenzhen Bao’An เป็นคนละอันอยู่คนละที่ค่ะ แต่น่าพักทั้งคู่ อีกอันเน้นวิวริมทะเล


ที่เที่ยว เซินเจิ้น

1. Shenzhen Museum of Contemporary Art & Planning Exhibition (MOCAPE)

พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในเขต Futian Cultural District เป็นส่วนผสมของสองโปรเจคท์ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย และ นิทรรศการการออกแบบผังเมือง (Planning Exhibition) ซึ่งมีความน่าสนใจมากๆ เริ่มตั้งแต่ตัวอาคารที่ออกแบบมาได้โมเดิร์น สวยงามแปลกตา มีการใช้แสงธรรมชาติและเงาสะท้อน กับเซนเตอร์พีซชิ้นใหญ่ตรงกลาง เราเริ่มจากการชมนิทรรศการการออกแบบผังเมือง อย่างที่เราได้เห็นว่าเมืองใหญ่ในเมืองจีนนั้น พัฒนาอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด นิทรรศการนี้ก็จะเล่าเรื่องให้เราได้เห็นภาพของการพัฒนาเมืองเซินเจิ้นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ส่วนฝั่งศิลปะร่วมสมัยนั้น จะมีงานศิลปะเวียนมาจัดแสดงเรื่อยๆ ซึ่งช่วงที่เราไปจะเป็นงานของศิลปินท้องถิ่นค่ะ

เข้าชมฟรี

ชื่อภาษาจีน : 深圳市当代艺术与城市规划馆


2. OCT Loft Creative Cultural Park

เป็นย่านศิลปะและวัฒนธรรมที่แปลงพื้นที่โรงงานเก่าให้กลายเป็นแกลเลอรี่ คาเฟ่ ร้านดีไซน์ และเวิร์กช็อป

ที่นี่อนุรักษ์โครงสร้างอุตสาหกรรมเดิมไว้แต่ผสานกับสถาปัตยกรรมร่วมสมัย กลายเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจกลางเมือง มีทั้งนิทรรศการ ศิลปะสาธารณะ ร้านขายของดีไซน์ มาเดินเล่น ชิล ๆ จิบกาแฟ ถ่ายรูป มีมุมน่ารักๆ เพียบ

ชื่อภาษาจีน : 华侨城创意文化园

อย่างภายใน เรามาแวะร้าน Brandon Coffee ซึ่งมีกาแฟหลากหลาย ตั้งแต่ Specialty coffee และ เมนูเครื่องดื่มจากกาแฟที่น่าสนใจ ภายในร้านยังเป็น Concept Store ที่มีของอื่นๆ ขาย นั่งได้ชิลล์ๆ เลยค่ะ (แต่แถวนี้มีร้านเยอะมากกกกนะคะ ทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ รวมไปถึงของแฮนด์คราฟท์และงานดีไซน์)


3. ช้อป Haus Nowhere

ยังต่อกันที่งานศิลปะ ซึ่งจริงๆ เราไม่คิดว่าที่เซินเจิ้น จะมีงานดีไซน์และงานอาร์ตเยอะขนาดนี้

ตรงนี้เป็น exhibition ที่อยู่ในคอนเซปท์สโตร์จากแบรนด์เกาหลีชื่อดัง (ที่ทำแว่น Gentle Monster และ น้ำหอม Tamburins) ซึ่งอยากจะผสมผสานงานศิลปะเข้ากับแบรนด์และประสบการณ์การช้อปปิ้ง แล้วงาน Art Installation คือใหญ่โตอลังการมาก สามารถอ่านคอนเซปท์และความเป็นมาได้จากเว็บไซต์ของแบรนด์เลยค่ะ

เข้าชมฟรี

พิกัด อยู่ในห้าง MixC
ชื่อภาษาจีน : 深圳万象天地


4. Nantou Ancient City

เมืองโบราณหนานโถว เป็นเขตเมืองเก่าที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,600–1,700 ปี เคยเป็นศูนย์ปกครองของมณฑลซินอัน (อดีตหัวเมืองตงกว่าน) และเดิมเป็นเมืองป้อมปราการริมอ่าวที่คอยเฝ้าทางผ่านของแม่น้ำ Pearl River จนกระทั่งความเจริญของเซินเจิ้นสมัยใหม่ทำให้บทบาททางการปกครองเปลี่ยนไป ปัจจุบันบริเวณหนานโถวยังคงมีซากกำแพงประตูเมือง อาคารราชการเก่า วัด และพิพิธภัณฑ์หนานโถวที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ รวมถึงพื้นที่ชุมชนและคาเฟ่สไตล์ร่วมสมัยที่ผสมผสานอดีตกับการพัฒนาเมืองทันสมัยได้อย่างน่าสนใจ

นิทรรศการส่วนใหญ่เข้าชมฟรีนะคะ

ชื่อภาษาจีน : 南头古城


5. OH Bay / Happy Harbour

ตรงนี้คือมีส่วนที่เป็นห้าง ไล่ลงไปถึงสวนและพื้นที่สาธารณะหน้าอ่าวที่ออกแบบได้สวยงามมากๆ มีความโล่งโปร่ง เห็นทั้งวิวทะเลและหมู่ตึก

ไฮไลท์เป็น ชิงช้าสวรรค์ Bay Light Ferris Wheel สูง 128 เมตร

ชื่อภาษาจีน : 欢乐港湾


6. Zhongshuge

ร้านหนังสือที่ปรับกลยุทธ์ให้เป็นร้านสวยจับต้องได้ที่ดึงดูดให้ผู้คนเข้ามา ซึ่งสาขาที่ดังมากๆ คือที่ฉงชิ่ง ที่ใครไปก็ต้องไปถ่ายรูป แต่ที่นี่ก็สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ เราชอบดีไซน์มากๆ วันที่เราไปไม่มีคนเลย

ชื่อภาษาจีน : 钟书阁(欢乐港湾店)


7. Sea World

แม้จะเป็นเหมือนคอมมิวนิตี้มอลล์ แต่ที่นี่บรรบากาศดีจริงๆ ค่ะ มีร้านมากมาย โดยมีเรือ Minghua ซึ่งเป็นเรือสำราญเก่าเป็นแลนด์มาร์กหลักตั้งอยู่กลางพื้นที่ มีทางเดินเลียบทะเล มุมถ่ายรูป และ Sea World Culture and Arts Center ที่จัดแสดงศิลปะและกิจกรรมวัฒนธรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะในตอนเย็นจะมีการแสดงน้ำพุพร้อมแสงสีเสียงเพิ่มบรรยากาศให้โรแมนติก เหมาะสำหรับมานั่งชิล เดินชมวิว หรือหามื้อค่ำดี ๆ ริมทะเลในบรรยากาศผ่อนคลาย

ชื่อภาษาจีน : 海上世界

อย่างตรงนี้ เป็นบรรยากาศริมน้ำของ Sea World ค่ะ ฮิพมากๆ


8. K11 ECoast

ห้างเปิดใหม่อลังการมากๆ มีสวนริมทะเลที่วิวสวยมากค่ะ เป็นโครงการคอมเพล็กซ์ริมอ่าวที่ผสมผสานทั้งร้านค้า ร้านอาหาร พื้นที่ศิลปะ และวิถีชีวิตสีเขียวไว้อย่างกลมกลืน — มี Art Mall, พื้นที่ศิลปะอเนกประสงค์ และทางเลียบอ่าว Promenade ที่เปิดมุมมองทะเล ได้บรรยากาศผ่อนคลายและใกล้ธรรมชาติ  เป็นสเปซที่น่าแวะถ้ามา Shekou แล้วอยากหาอะไรใหม่ ๆ ดูศิลปะ ช้อปปิ้ง จิบกาแฟริมทะเล ก็ต้องมาที่นี่เลยค่ะ

ชื่อภาษาจีน : –


9. ร้าน Man Ho โรงแรม JW Marriott Shenzhen

มาถึงมณฑลกวางตุ้งก็ต้องทานติ่มซำ ซึ่งพอดีนัทพักที่โรงแรมนี้อยู่แล้ว แล้วเห็นกลางวันที่ห้องอาหาร Man Ho ในโรงแรมคนเยอะตลอดเลย เลยมาลองทานบ้าง เป็นติ่มซำบุฟเฟต์มื้อกลางวัน ราคา 258 หยวนต่อคน แต่อาหารคือทำดีแบบจริงจังมากกกกก นกพิราบทอดงี้ หมูแดง หมูกรอบ ก๋วยเตี๋ยวหลอด พายเป๋าฮื้อ ทุกอย่างไม่อั้น กุ้งเด้งแบบแน่น ออปชั่นเยอะมากกกก

ชื่อภาษาจีน : 金茂深圳JW万豪酒店


10. Dong Men Walking Street

อันนี้จะอยู่คนละฝั่งกับที่เที่ยวส่วนใหญ่ที่ลิสท์ไปนะคะ แต่ไปจากโรงแรมสะดวกค่ะ

ถนนคนเดิน Dongmen เป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่สุดของเมืองที่มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี กลายมาเป็นจุดหมายสุดฮิตสำหรับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นราคาย่อมเยา ร้านค้าขายของจิปาถะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหารสตรีทฟู้ด และอาหารพื้นเมืองหลากหลายบรรยากาศคึกคัก โดยเฉพาะในช่วงเย็นและกลางคืนที่มีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ

ชื่อภาษาจีน : 东门步行街


11. Shenzhen Art Museum

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเซินเจิ้น อยู่ค่อนข้างไกลจาก Futian และ Shekou ทั้งหมดที่เราไปมาค่ะ จะอยู่ใกล้สถานี North Shenzhen จัดแสดงศิลปะทั้งของท้องถิ่นและนิทรรศการเวียน พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 20,000 ตารางเมตร ห้องจัดเก็บงานศิลปะ ห้องบรรยาย ห้องสมุดศิลปะ และพื้นที่กลางแจ้งสำหรับจัดแสดงประติมากรรม ส่งผลให้สามารถรองรับงานนิทรรศการทั้งขนาดใหญ่และหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกิจกรรมทางศิลปะสาธารณะได้อย่างครบวงจร

ชื่อภาษาจีน : 深圳美术馆


12. Coco Park

ห้างที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟ Futian (สถานีที่เรานั่งมาลงจากฮ่องกง) อยู่ห่างเพียงหนึ่งสถานี หากใครมาแบบไปเช้าเย็นกลับแล้วอยากซื้อของ กินของที่จีน ตรงนี้คือสะดวกมากค่ะ — มีแบรนด์ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า รวมถึงร้านอาหาร คือถ้าจะข้ามมาทาน Hey Tea ฝั่งจีน มาซื้อ Pop Mart หรือมาซื้อเครื่องสำอาง ห้างนี้มีครบ แล้วก็กลับง่ายค่ะ เย็นวันธรรมดาหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ บรรยากาศจะคึกคักมาก

ชื่อภาษาจีน : 星河COCO Park(福田店)


แถมอีกหนึ่งที่ค่ะ Shenzhen Eye

จริงๆ ตรงนี้ไม่ถือเป็นที่เที่ยวซะทีเดียว เพราะเป็นสถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งของเซินเจิ้นค่ะ แต่คนชอบมาถ่ายรูปกันเพราะสถาปัตยกรรมภายใน ส่วนตัวนัทต้องนั่งรถไฟผ่านอยู่แล้ว เลยได้มาแวะค่ะ

สถานี 岗厦北(地铁站)


ขอให้ทุกคนเที่ยวเซินเจิ้นให้สนุกนะคะ หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

 




ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: