[รีวิว] Elements โรงแรม The Okura Prestige Bangkok อาหารฝรั่งเศสที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายญี่ปุ่น

เป็นอีกครั้งที่เราได้มาทานมื้อเย็นในห้องอาหาร Elements ณ โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ดีกรีรางวัล Michelin Star 1 ดาว แต่ต้องบอกว่านอกจากตัวห้องอาหารที่ยังคงเดิมแล้ว Elements วันนี้แทบนับได้ว่าเป็นห้องอาหารใหม่ ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ด้วยการมาถึงของเชฟคนใหม่ Hans Zahner

เชฟ Hans Zahner นั้นถือว่าเป็นเชฟรุ่นใหม่มากประสบการณ์ ที่เคยผ่านงานห้องอาหารชั้นนำของโลกมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะที่ Le Cinq ที่ The Four Seasons George V Paris ภายใต้หัวหน้าเชฟระดับโลกอย่าง Eric Briffard ซึ่งเป็นหนึ่งในเชฟที่เราชื่นชอบที่สุด นอกจากนั้นก็ยังเคยทำงานภายใต้ Alain Ducasse ที่ Hotel Plaza Athenee Paris และ Lasserre ภายใต้เชฟ Christophe Moret  หลังจากนั้นเชฟ Hans ก็ได้มีโอกาสคว้าดาวมิชลินมาเป็นของตัวเองได้สำเร็จในห้องอาหาร Sir Elly’s ที่ The Peninsula Shanghai ในปี 2015

สำหรับอาหารที่ Elements นั้น ทางโรงแรมยังคงคอนเซปต์ อาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งเราคิดว่าเข้ากันได้ดีกับสไตล์การทำอาหารของเชฟ

สำหรับห้องอาหาร Elements นั้น ปัจจุบันเสริฟอาหารเป็น Set Menu ทั้งหมด 2 ชุดด้วยกัน คือเซท Ta-ke (6 Courses ในราคา 4,000++) และเซท Matsu (7 Courses ในราคา 4,500++)  ซึ่งทั้งสองเซ็ท แตกต่างกันแทบจะทั้งหมด เรียกว่า สามารถเลือกเซ็ทใดก็ได้ ตามที่อ่านเมนูแล้วถูกใจกว่า โดยวันนี้เราจะมารีวิวเซต Matsu กัน


เรียกน้ำย่อยด้วย Amuse Bouche 4 คำเล็กๆ

Uni & Ume Compote | Chili Miso, Mint, Wagyu | Potato Cake, Japanese Seafood | Yuzu Nitsume, Miso Tofu, Nori Biscuit

ทั้งสี่คำนั้นได้แสดงให้เราเห็นถึงปรัชญาในการทำอาหารที่เราจะได้ทานกันในคอร์สต่อๆไปอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องการใช้วัตถุดิบและรสชาติแบบญี่ปุ่น และแสดงออกผ่านการทำอาหารด้วย French Techniques

เครื่องดื่ม Welcome Drink ของเราเป็น Kombucha ซึ่งใช้น้ำชาเขียวและชาซีลอนมาเป็นน้ำตั้งต้น

ในส่วนของขนมปังนั้น มีให้เลือก 3 ชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Buckwheat Baguette, Charcoal Bun และ Mini Croissant เสริฟมาพร้อมกับเนยชนิดเค็ม และ Smoked Miso Butter สูตรเฉพาะของทางร้าน

เราเริ่มต้นมื้ออาหารของเราด้วยแชมเปญ Louis Roederer ซึ่งเข้ากันกับ Amuse Bouche และอาหารคอร์สแรกได้อย่างลงตัว


Kaviari Kristal Caviar, “Special” Oyster, Ponzu, Cucumber

จานนี้เสริฟมาเป็นหอยนางรมจากฟาร์มของ David Herve นำมา blanch ด้วยน้ำปรุงรสซีอิ้ว เคลือบด้วย Cucumber Jelly ท้อปด้วย Kaviari Kristal Caviar และซ่อนไว้ด้านใต้หอยด้วย หอมแดงและบีทรูทสับ เสริฟมาคู่กับหัวไช้เท้าดอง (Daikon) และซอสพอนซึ

ตัวหอยนั้นหวาน เด้ง สด ทานคู่กับเครื่องเคียงเข้ากันเป็นที่สุด ใจก็แอบอยากให้หอยตัวใหญ่กว่านี้นิดนึงจะได้พอดีกับหัวไช้เท้าสามชิ้น เพราะมันดีมากๆ เป็นหนึ่งจานที่ดูภายนอกเหมือนจะดูแห้งๆ แต่ทุกอย่างเข้ากัน บาลานซ์เนื้อสัมผัสได้ลงตัวมาก

Foie Gras, Yuzu Kosho, Uni, Persimmon

จานนี้เป็นฟัวกราเทอรีน เสริฟคู่กับลูกพลับที่ปรุงมาในแบบต่างๆ และซอสยูซุโคโช รสชาติหวานนิดๆของลูกพลับ และความเค็มเปรี้ยวของยูซุโคโช นั้นเข้ากันได้ดีกับตับห่านบด แต่เราไม่รู้สึกถึงหอยเม่นซักเท่าไหร่

Yasai, Taro, Shiitake, Quinoa Puff

จานนี้เป็นจานที่เราชอบที่สุด และค่อนข้างประทับใจมาก เป็นคอร์สผักล้วนๆ ที่นำมาอบ หน้าตาคล้ายกราแตง แต่เมื่อตักลงไป เราจะเจอกับเจลลี่ ที่ทำมาจากดาชิต้มผัก รากบัวที่อร่อยและกรอบลื่นมากๆ มีทั้งความกรอบความละมุน กลมกล่อม

Norwegian Langoustine, Kuro Ninniku, Parsley, Enryngi

Langoustine ตัวใหญ่ Perfectly cooked หวานเด้ง มีรสสัมผัสแบบเจลลี่เล็กน้อย เสริฟมาบนซอสกระเทียมดำเข้าข้นที่ปั่นรวมกับใบพาสลีย์และเห็ดเออเรนจิ ด้านบนเป็นแอปเปิ้ลสับละเอียดและราดปิดท้ายด้วยครีมซอสยูซุ

Seabass, Citrus, Teriyaki, Purple Potatoes

นี่คือปลาย่างซอสเทริยากิ ในแบบฉบับการตีความของอาหารฝรั่งเศสแบบไฟน์ไดนิ่ง รสชาติของซอสนั้น เป็นซอสเทริยากิชั้นดี แบบไม่ผิดเพี้ยน รวมทั้งมันม่วงบดก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยม

สำหรับอาหารจานหลักนั้น มีให้เลือก 2 อย่างด้วยกันดังนี้

1. Glazed Pigeon, Miso, Parsnip, Cabbage Pickles

นกพิราบปรุงสุกได้อย่างไม่มีที่ติ และคอนดิเม้นต์ก็เข้ากันได้ดี แต่ว่าตัวซอสมิโซะที่ใช้นั้นรสชาติเข้มข้นเกินไปหน่อย กลบรสชาติอื่นๆไปค่อนข้างมาก

2. Oyster Blade Japanese Wagyu, Sansho Pepper, Kabocha, Kumquat

เนื้อวากิวย่าง กับซอส Sansho Pepper เข้มข้น หอมซ่าเบาๆ เสิรฟมากับซอสฟักทองและซอสส้มจี๊ด

และเนื่องจากวันนั้นเนื้อส่วนใบพายหมด เราจึงได้เนื้อสันนอกมาแทน นุ่มอร่อยไม่แพ้กัน

Pre Dessert หน้าตาน่ารัก กรุบกรอบ หวานมัน และหอมส้มยูซุ ทานได้ทั้งคำเลยนะคะ รวมถึงตัวแผ่นรองด้วย

Genmaicha, Tropical Confit, Sesame Ice Cream

ทางด้านของหวานเป็น ครีมมูสเกนไมฉะ ทานคู่กับ Yuzu Cream และ ไอศกรีมงาดำ ความหวานหอมของชาเขียวผสมข้าวคั่วและงาดำ ไปได้ดีกับความเปรี้ยวของส้มยูซุ รวมไปถึงแผ่นแป้งกรอบด้านใต้ไอศกรีมและมูส ช่วยเสริฟรสสัมผัสกรุบกรอบให้กับขนมจานนี้ได้อย่างดี

Okashi (Petits Fours) – Japanese Influenced Sweet Bites

ขนมชิ้นเล็กๆสี่ชนิดจากเตาอบ ที่เราคุ้นเคยกันดีในร้านอาหารแบบไฟน์ไดนิ่ง เสริฟมาในหน้าตาแบบฝรั่งเศสแท้ๆ แต่สอดไส้ไปด้วยความเป็นญี่ปุ่น ปิดท้ายมื้ออาหารไปได้อย่างสมบูรณ์

ไวน์หวาน Tokaji จากฮังการีสุดโปรด สำหรับทานคู่กับคอร์สขนม

เชฟ Hans กำลังบรรจงลงจานอาหารด้วยตนเอง วันนี้เราเห็นเชฟคุมครัวทั้งคืนเลย

มุมส่วนตัวสำหรับคู่รัก เหมาะสำหรับวันดีๆ และโอกาสพิเศษที่เราแชร์ความอร่อยให้กันและกัน


ห้องอาหาร Elements
ตั้งอยู่ที่โรงแรม The Okura Prestige Bangkok ถนนวิทยุ ติด BTS เพลินจิต

เปิดเฉพาะมื้อเย็น วันอังคาร ถึง วันเสาร์ เวลา 18.00 – 22.30 น.

ควรสำรองที่นั่งก่อน โทร. 02-6879000
หรือ ผ่านเว็ปไซต์ https://www.okurabangkok.com/en/elements-book.html

error: